ในวันพิทักษ์มาตุภูมิ เพื่อรำลึกถึงวีรชนไร้นามที่พลีชีพในสงครามปกป้องชาติบ้านเมือง ปูตินได้ร่วมพิธีวางพวงมาลาที่สุสานทหารนิรนาม และกล่าวปราศรัยแก่ทหารผ่านศึกถึงภารกิจของรัฐต่อผู้เสียสละ ก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตคืนวันพิทักษ์มาตุภูมิในมอสโกว์ ที่มีผู้เข้าร่วมจากหลายภูมิภาค หน่วยงานและประชาชนกว่า ๒ แสนคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตกทั้งในสนามรบและการเมืองใหญ่ผ่านองค์กรโลกบาลของสหรัฐและพวกอย่างสหประชาชาติ รัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไปตามปณิธานปกป้องประชาชาติรัสเซีย โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างท่วมท้น
วันที่ ๒๔ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่า “การดูแลผู้ปกป้องประเทศเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของรัฐ อนาคตเป็นของรัสเซีย เช่นเดียวกับความจริงอยู่ข้างเรา และรัสเซียจะประสบชัยชนะ” เขากล่าวระหว่างการสนทนากับทหารผ่านศึกในวันผู้พิทักษ์แห่งมาตุภูมิเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ปธน.ปูตินได้ประกาศเปิดใช้งานเรือดำน้ำนิวเคลียร์พร้อมขีปนาวุธร่อนนามว่า “จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ ๓” ในโครงสร้างการรบของกองทัพเรือรัสเซีย
และเปิดเผยว่า ส่วนแบ่งของอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ในกองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ทางเรือจะพร้อมเต็มที่แล้ว ด้วยการสู้รบของเรือดำน้ำชั้น โบเร-เอคลาสชื่อ เอสเอสบีเอ็น เอ็มเพอเรอร์ อเล็กซานเดอร์ที่สาม (SSBN Emperor Alexander III Borei-A class sub)
ปธน.ปูติน ได้กล่าวในคำปราศรัยทางวิดีโอที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ Kremlin ในโอกาสวัน Defender of the Mother Land ว่า “เมื่อเรือลาดตระเวนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้น Emperor Alexander III Borei-A เข้าประจำการรบ ส่วนแบ่งของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยในกองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ทางเรือจะสูงถึง ๑๐๐%”
เรือลาดตระเวนประเภทนี้อีกสามลำจะเข้าร่วมกองเรือในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าSSBN Emperor Alexander III ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชั้น Borei-A ลำที่เจ็ด เปิดตัวเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เรือดำน้ำประเภทนี้สามารถบรรทุกขีปนาวุธบูลาวา ไอซีบีเอ็ม (Bulava ICBM) ได้ ๑๖ ลำ การทดลองทางทะเลของดิเอ็มเพอเรอร์ฯที่ ๓ มีกำหนดจะเริ่มในเดือนมิถุนายนปีนี้
ยืนยันอย่างมั่นใจโดยรัฐมนตรีว่าการกลาโหมของรัสเซียเซอร์เกย์ ชอยกูว่า “กองทัพทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันความมั่นคงของชาติและการพัฒนาที่ยั่งยืนของรัสเซีย กลุ่มชาติตะวันตกพยายามล่มสลายรัสเซีย แต่ความพยายามดังกล่าวต้องล้มเหลว” เขาให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่งานกาล่าดินเนอร์เนื่องในวันผู้พิทักษ์แห่งมาตุภูมิ
ชอยกูเน้นย้ำว่า “ขณะนี้ เรากำลังเผชิญกับอันตรายร้ายแรงอีกครั้ง การใช้ประโยชน์จากยูเครน กลุ่มตะวันตกพยายามแยกรัสเซียและปล้นเอกราชของเรา ความพยายามเหล่านี้จะต้องล้มเหลว” “ทหารและเจ้าหน้าที่ของเราร่วมกันปกป้องสิ่งที่ปู่และปู่ทวดของเราเคยต่อสู้เพื่อพวกเขามาก่อน เป้าหมายสูงสุดของชีวิตพวกเขาคือความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของรัสเซียมาโดยตลอด และสำหรับเรา ผู้สืบทอด ความภักดีต่อปิตุภูมิคือ คุณค่าพื้นฐานและรากฐานที่เชื่อถือได้ของเอกราชของรัสเซีย”
รัฐมนตรีกลาโหมชี้ให้เห็นว่า ความกล้าหาญของทหารตลอดจนอานุภาพและเกียรติยศของอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซีย เป็นส่วนสำคัญของความยิ่งใหญ่ของประเทศมาโดยตลอด ชัยชนะของทหารรัสเซียจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศตลอดไป และความสำเร็จของประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ จะไม่มีวันจางหายไป ไม่ว่าใครจะบิดเบือนเป็นอื่น
ชอยกูย้ำว่า “ผมขอขอบคุณผู้ที่อยู่ในแนวหน้า ผู้ที่แก้ไขงานที่ซับซ้อนเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการรบ และผู้ที่เสี่ยงชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ทางทหาร” “โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบคุณเจ้าหน้าที่และบุคลากรของหน่วยแพทย์ทหารและองค์กรต่างๆที่ร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เชื่อว่าสิ่งนีเรามีเหนือกว่าศัตรู”
ข่าวล่าสุดที่สหประชาชาติลงมติต่อต้านรัสเซียให้ถอนทหารจากยูเครน บ่งบอกธาตุแท้องค์กรโลกบาลภายใต้การชี้นำของสหรัฐ ว่าไม่อาจพึ่งพาหาความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง เมื่อแพ้ในสนามรบก็ใช้การเมืองเล่นงานผ่านองค์กรโลกบาลของตน และนี่อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ทั้งรูปแบบการสงครามที่จะขยายวงมากขึ้น และความชอบธรรมที่จะต้องจัดตั้งองค์กรร่วมในระดับนานาชาติที่เที่ยงธรรมขึ้นใหม่ ต้องจับตาต่อไปว่าเมื่อรัสเซียไม่ฟังคำสั่งสหประชาชาติ ไม่ถอนกำลังจากยูเครนแล้ว เมกาและพวกจะทำอย่างไรต่อไป???