เขาดีกัน-เราติดคุก! เบื้องลึกเคลียร์ใจ เสียน้ำตา-เบื้องหลังเสียใจ หมดอนาคต บทเรียนสามนิ้วพิสูจน์ทราบ!?

0

จากเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 กรณีวิวาทะระหว่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะฝ่ายที่เชียร์พรรคส้มว่าเกิดอะไรขึ้น???

ทั้งนี้เรื่องของเรื่องเริ่มที่ค่ำคืนของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566  พิธา ได้โพสต์เฟซบุ๊กรำลึก 3 ปีเหตุการณ์ยุบ พรรคอนาคตใหม่ช่วงช่วงหนึ่งได้กล่าวถึง นายปิยบุตร ที่วิจารณ์ตนและพรรคก้าวไกลเมื่อวันก่อน

โดยพิธา กล่าวตอนท้ายของโพสต์ดังกล่าวระบุบางช่วงว่า อยากให้คุณปิยบุตรทบทวนเช่นกัน คุณปิยบุตรต้อง เลิกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เลิกทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามที่คุณธนาธรเคยขอไว้ กลับมาช่วยกันเท่าที่กฎหมายอนุญาต ทำให้คนที่เคยปรามาสอนาคตใหม่ ก้าวไกล คิดผิด

ฉับพลัน นายปิยบุตร ก็ออกมาตอบกลับว่า ที่ผ่านมาพยายามวิจารณ์พรรคอย่างตรงไปตรงมา ไม่พาดพิงตัวบุคคล หากพิธาออกมาโพสต์ถึงตนเช่นนี้ ตนก็จะสื่อสารกับพิธาทางสาธารณะ ตนยืนยันว่ารักและสนับสนุนพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่จำเป็นในสถานการณ์ระยะเปลี่ยนผ่านเช่นนี้ และสิ่งที่พิธาเขียนเป็นการเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้ตน คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้

ขณะที่นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำกลุ่มราษฎรคนสำคัญ ซึ่งได้รับการประกันตัวในคดีมาตรา 112 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในห้วงเวลาเดียวกัน เพียงสั้นๆด้วยว่า

“จะตีกันก็ให้คิดถึงน้องๆที่ออกมาสู้ด้วยนะครับ พี่ๆนักการเมืองทั้งหลาย”

โดยภายหลังจากข้อความของนายอานนท์ เผยแพร่ออกมา ก็มีคนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบางข้อความที่ระบุว่า

“เขาดีกันแล้วครับ แบบผัวเมียมีผิดใจกันบ้างครับ”

“อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ช่วยกันโอนเงินเข้า บ.ช. มูลนิธิ….กันก่อนคะเงินเหลือน้อยไม่พอประกันเด็กๆที่ออกมาทำกิจกรรมเพื่อทุกคน”

ต่อมา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอ ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร้องเพลง ร่วมกับ นายปิยบุตร ,นายพิธา และ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

นอกจากนี้ นายสุรเชษฐ์ ยังโพสต์คลิป นายปิยบุตร-นายพิธา พูดเคลียร์ใจกัน โดย นายปิยบุตร เผยว่า ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว และปรับความเข้าใจกันทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ขอโทษพี่น้อง ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. ทีมงาน สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนทั่วประเทศ ที่ต้องมาลำบากลุ้นระทึก กังวลใจกับการแสดงออกของ นายพิธา กับ ตน เราคุยปรับความเข้าใจเปิดอกทุกอย่างและคุยกันเต็มที่ น้ำตาร่วงกันคนละหลายหยด

นั่นทำให้สังคมอดที่จะตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า ปัญหาทุกอย่างจบลงแล้ว เคลียร์ใจกับเรียบร้อยแล้วจริงหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อความของนายอานนท์ ที่เรียกว่าส่งเสียงแทนเด็กและเยาวชนที่ถูกจับดำเนินคดีไปหลายก่อนหน้านี้ ซึ่งคล้ายกระตุ้นให้ใครที่กำลังทะเลาะกันอยู่เหลียวมองน้องๆที่ติดคุกกันบ้าง

ซึ่ง เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่ถึงสถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ซึ่งมีบางส่วนที่สำคัญระบุว่า สถิติผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 63 – 17 ก.พ. 66

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่เริ่มมีการเผยแพร่รายชื่อผู้ถูกดำเนินคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุมทางการเมืองในข้อหาตามมาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 231 คน ใน 250 คดี ผู้ถูกดำเนินคดีเป็นเด็กและเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 18 ราย ในจำนวน 21 คดี

(รายละเอียด https://tlhr2014.com/archives/23983)

นั่นเองที่เป็นคำถามและเกิดข้อสงสัยกับข้อความของนายอานนท์ ซึ่งเด็ก เยาวชนหลายคนที่ออกมาชุมนุม ออกมาเรียกร้อง ทำผิดกฏหมายหลายคน มีส่วนที่ผู้ใหญ่หรือนักการเมืองตามความหมายของนายอานนท์ที่ตีกันและคืนดีกันนั้น จะรู้สึกอย่างไรกับคนที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งไม่น้อยที่ถูกปลุกระดม ปลุกปั่นจากนักการเมืองบางคน แบบนั้นคงต้องน้ำตาร่วงคนละหลายหยดกันอีกต่อไป หากยังยอมให้ผู้ใหญ่หลอก???