ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอิหร่าน กระทรวงการต่างประเทศเตหะรานเผยแพร่รายการมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อสหภาพยุโรป (EU) และบุคคลและหน่วยงานของอังกฤษจำนวนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายและส่งเสริมความรุนแรงต่อชาวอิหร่าน ขณะเดียวกันศาลได้ตัดสินโทษประหาร แกนนำผู้ก่อการร้ายเกี่ยวข้องการระเบิดพลีชีพหลายครั้งหลายสถานที่
วันที่ ๒๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาสนิมนิวส์ รายงานว่าโฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน นัสเซอร์ คานานี เปิดเผย การประกาศมาตรตอบโต้การเคลื่อนไหวของคณะมนตรีสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรดำเนินการคว่ำบาตรต่อบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ของอิหร่านก่อนหน้านี้ พวกเขาเรียกว่าแนวทางลงโทษสาธารณรัฐอิสลามปราบการจลาจล ที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติซึ่งปะทุขึ้นในอิหร่านบางเมือง ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของกระทรวงอ้างถึงมาตรการต่างตอบแทนว่าเป็น “มาตรการตอบโต้” ที่ได้รับการอนุมัติจาก “หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ของสาธารณรัฐอิสลาม และได้รับอนุญาตจาก “กลไกตอบโต้การคว่ำบาตร” ของประเทศ
เหตุผลสำหรับการบังคับใช้มาตรการเนื่องจาก สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร”ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายและกลุ่มก่อการร้าย” และ “การยุยงให้เกิดการก่อการร้ายและความรุนแรงต่อชาวอิหร่าน”
หน่วยข่าวกรองของอิหร่านพบร่องรอยและหลักฐานของหน่วยสอดแนมของอเมริกาและชาติตะวันตกอื่น ๆ ในการจลาจลที่รุนแรง ผู้ก่อการจลาจลออกอาละวาด โจมตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไร้ความปราณี และสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อทรัพย์สินสาธารณะ ผู้คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายสิบคนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรง
กระทรวงยังประณามกลุ่มและอังกฤษที่ “แทรกแซงกิจการภายในของสาธารณรัฐอิสลาม” “เผยแพร่ความเท็จและข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับอิหร่าน” นอกจากนี้ยังประณามพวกเขาสำหรับความร่วมมือกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อประเทศ ซึ่งเท่ากับเป็น “การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ”อย่างร้ายแรง
ถ้อยแถลงถือว่าการที่สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรอำนวยความสะดวกในการกระทำการก่อการร้ายและการทำลายล้างต่ออิหร่านว่าเป็น “การละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศในด้านการต่อสู้กับการก่อการร้าย” นอกจากนี้ยังประณามความร่วมมือของพวกเขากับการคว่ำบาตรต่อต้านอิหร่านว่าเป็น “การฝ่าฝืนหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่กล่าวถึงในกฎบัตรสหประชาชาติ”
กระทรวงฯ ระบุว่า มาตรการต่างตอบแทนของอิหร่านกำหนดให้มีการห้ามออกวีซ่าสำหรับผู้ที่ถูกลงโทษ และห้ามเข้าสาธารณรัฐอิสลาม มาตรการดังกล่าวยังสั่งให้อายัดบัญชีธนาคารและทรัพย์สินกับบุคคลและหน่วยงานที่กำหนด
รายการคว่ำบาตรประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ยุโรปทั้งในปัจจุบันและอดีต ๑๕ คน รวมถึง อิสซาเบลล์ ลอนวิส-โรม(Isabelle Lonvis-Rome) รัฐมนตรีกระทรวงเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ ความหลากหลาย และโอกาสที่เท่าเทียมกันของฝรั่งเศส, โรแลนด์ เลสคูร์(Roland Lescure) รัฐมนตรีอุตสาหกรรมฝรั่งเศส ; โจเซฟ ชูสเตอร์ประธานสภาชาวยิวกลางในเยอรมนี ; อเล็กซ์ เบนจามิน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะของยุโรปอิสราเอล ; แจมี เอ็มฟลาย(Jamie M. Fly) ซีอีโอของ Radio Free Europe/Radio Liberty และพลตรีไมเคิล เทร้าท์(Michael Traut)หัวหน้าหน่วยบัญชาการแห่งชาติและปฏิบัติการอวกาศทั่วไปของเยอรมนี ตลอดจนสมาชิกรัฐสภาเยอรมันสามคนและสมาชิกรัฐสภายุโรปสองคน
นอกจากนี้ยังระบุชื่อหน่วยงานในยุโรป ๑๓ แห่ง ได้แก่ European Coalition for Israel, Center for Information and Documentation Israel, Christians for Israel, the Eurospike arm company และ ๖ บริษัทอุตสาหกรรมทางทหารของเยอรมัน
รายชื่อยังมีบุคคลชาวอังกฤษอีก ๘ คน รวมถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการพิเศษภายในกรมตำรวจนครบาล แมทธิว โจนาธาน จูคส์(Matthew Jonathan Jukes); สมาชิกคณะกรรมการของ The Jewish Chronicle อลัน จาคอบ (Alan Jacob) และเจ้าหน้าที่ทหารหกคน
ในการจัดการอย่างเด็ดขาดต่อแกนนำก่อการร้ายหลายครั้ง ศาลสูงของอิหร่านตัดสินประหารชีวิต จัมชิด ชาร์มาห์ ชาวอิหร่านถือสัญชาติเยอรมัน ในข้อหาก่อการร้าย “คอร์รัปชันชีวิตมนุษย์บนโลก”
ชาร์มาห์ วัย ๖๗ ปี อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เดินทางไปมาและบงการก่อเหตุบึ้มพลีชีพหลายครั้ง ทางตะวันตกเชื่อว่าเขาถูกรวบโดยสายลับชาวอิหร่านในดูไบในปี ๒๕๖๓ จากนั้นจึงถูกพาตัวไปยังอิหร่านผ่านทางโอมาน วันนี้ถูกตัดสินประหารแล้ว
ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านที่เป็นสปายให้กับอังกฤษ อาลี เรซา อัคบารี อดีตดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมอิหร่าน
ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิหร่านสหร้ฐและยุโรปตกต่ำอย่างมากผู้นำอิหร่านกำลังเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา ๓ วันโดยประธานาธิบดี สัยยิด อิบรอฮีม ไรซี ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองในภูมิภาคและความมั่นคงระหว่างประเทศ รูปแบบที่จีนให้การต้อนรับประธานาธิบดีอย่างยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างสูงที่ปักกิ่งให้ความสำคัญกับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมของจีนและอิหร่านในสภาพแวดล้อมภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศตึงเครียด!!