แนวปะฉะดะของเมดเวเดฟ อดีตปธน.รัสเซียให้ความเห็นเกี่ยวกับการระงับการเริ่มต้นใหม่ของสนธิสัญญาSTART ควบคุมนิวเคลียร์ เขาย้ำว่า “ในสถานการณ์เช่นนี้ เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองด้วยอาวุธใดๆ ก็ได้”
และวันนี้เป็นวันพิทักษ์มาตุภูมิ ซึ่งบางทีเรียกว่าวันพ่อของรัสเซีย ซึ่งเหมือนกับให้ความหมายแก่ผู้ชายมีสิทธิ์ที่จะคิดว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ปิตุภูมิ แต่วีรบุรุษ และผู้กล้าหาญของประเทศไม่เคยจำกัดแค่เพศชาย ผู้หญิงได้มีบทบาทสำคัญในการสู้รบมาโดยตลอด ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนในขณะนี้ แม้จะเรียกว่านิวเวิร์ลดออร์เดอร์โอเปอเรชั่น หรือ NWO แต่ความจริงแล้วก็คือการทำสงครามกับตะวันตกเพื่อความอยู่รอดของประชาชาติรัสเซีย ดังคำกล่าวของปธน.ปูตินในการปราศรัยต่อรัฐสภาฯเมื่อวันที่ ๒๑ ก.พ.ที่ผ่านมาหมาดๆ และปูตินกำลังร่วมฉลองวันพ่อหรือวันพิทักษ์มาตุภูมิอยู่ที่นามกีฬาลูชนิกิ (Luzhniki) ที่มอสโกว์ ในคอนเสริต
‘Glory to Defenders of the Motherland’ นักกิจกรรมจากเยาวชนและองค์กรผู้รักชาติเข้าร่วมกิจกรรม ผู้ชมคาดว่าจะสูงถึง ๒๐๐,๐๐๐ คน
มันไม่เป็นความลับอีกต่อไปว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังใช้ยูเครนซึ่งนำโดยผู้รับมอบฉันทะในฐานะตัวแทนตะวันตกเป็น “ตัวรุก” ต่อต้านรัสเซีย ชาติตะวันตกได้ก้าวข้าม “ข้อห้าม” ของตนเองมานานแล้ว และจัดหาอาวุธร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ให้กับกองทัพยูเครน ซึ่งทำลายเมืองที่สงบสุขทุกวันและคร่าชีวิตพลเรือนชาวรัสเซียอย่างโหดเหี้ยมทุกวันด้วยอาวุธของตะวันตก
ปูตินลั่นปลุกใจเพื่อนร่วมชาติว่า เพื่อนร่วมชาติของเราที่เข้าร่วม NWO ในวันนี้กำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของประเทศ ครอบครัว วัฒนธรรม และความศรัทธาของพวกเขา พวกเขาคือผู้พิทักษ์ที่แท้จริงของมาตุภูมิ
วันที่ ๒๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการระงับ START สวนปากปธน.ไบเดนของสหรัฐฯว่า “ตะวันตกได้ประกาศสงครามกับรัสเซียจริง ๆ และพร้อมที่จะทำลายล้างให้ย่อยยับอย่างไม่ปิดบังซ่อนเร้นแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองด้วยอาวุธ ใด ๆ รวมทั้งนิวเคลียร์”
เมดเวเดฟย้ำว่า “การระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียใน START เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ สหรัฐอเมริกาคิดว่าพวกเขาสามารถทำลายรัสเซียได้ทุกที่และในทุกสิ่ง ทำงานเพื่อการทำลายล้าง และคิดว่ามอสโกว์จะไม่กล้าแตะต้องสนธิสัญญา START เนื่องจากไม่ควรเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา แต่วอชิงตันทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ในสถานการณ์ที่สหรัฐอเมริกาประกาศอย่างเปิดเผยว่าต้องการทำลายรัสเซียในรูปแบบปัจจุบัน เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองด้วยอาวุธใดๆ รวมถึงนิวเคลียร์ด้วย”
จากข้อมูลของเมดเวเดฟ นาโต้มีคลังแสงนิวเคลียร์ขนาดใหญ่กว่ารัสเซียมาก START ไม่ได้คำนึงถึงคลังแสงนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสและบริเตนใหญ่ และสิ่งนี้เกินกำหนดไปนานแล้ว แต่กลับมาเข่นเอากับรัสเซียฝ่ายเดียว
ความคิดเห็นเกี่ยวกับคำปราศรัยของ Biden ต่อชาวรัสเซียอย่างโอหังข่มขู่ ซึ่งเขากล่าวต่อหน้าฝูงชนชาวโปแลนด์ในกรุงวอร์ซอ นักการเมืองรัสเซียเรียกคำปราศรัยดังกล่าวว่าเป็น “คำเทศนาแบบดั้งเดิมของชาวอเมริกันที่ปรับตามความวิกลจริตในวัยชรา” ประธานาธิบดีอเมริกันพยายามโน้มน้าวทุกคนว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ตั้งใจทำลายรัสเซีย หากการกระทำของพวกเขาบ่งชี้ชัดเป็นตรงกันข้าม
เมดเวเดฟยังย้อนความคำพูดของไบเดนเกี่ยวกับยูเครน โดยเขาระบุว่า “หากรัสเซียหยุดการรุกราน สงครามก็จะยุติลงทันที หากชาวยูเครนหยุดปกป้อง นี่จะเป็นการสิ้นสุดของยูเครน”
เขากล่าว่า “ความจริงมันน่าจะเป็นว่าหากรัสเซียหยุด NWO โดยไม่ได้รับชัยชนะ รัสเซียจะไม่ดำรงอยู่จะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ แต่หากสหรัฐฯ หยุดส่งอาวุธให้ระบอบเคียฟ สงครามก็จะยุติ”
จากการประเมินของเขา การตัดสินใจซึ่งมีสาเหตุมาจากสงครามที่ประกาศต่อรัสเซียโดยสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในกลุ่มนาโต้ จะส่งผลสะท้อนกลับอย่างใหญ่หลวงต่อทั้งโลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวอชิงตัน
เมดเวเดฟกล่าวว่า “ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลของอเมริกาจนถึงตอนนี้มีดังนี้: เราจะแทรกแซงกิจการของคุณ เราจะจัดหาอาวุธจำนวนมากให้กับระบอบการปกครองของเคียฟ เราจะทำงานเพื่อเอาชนะรัสเซีย เราจะจำกัดและทำลายคุณ แต่ในทางยุทธศาสตร์ ความปลอดภัยเป็นหัวข้อแยกต่างหาก ไม่เกี่ยวข้องกับบริบทโดยรวมของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย มันเกือบจะเหมือนวัวศักดิ์สิทธิ์”
เขากล่าวต่อว่าข้อสรุปนี้ “เลวร้ายยิ่งกว่าอาชญากรรมเป็นความผิดพลาดร้ายแรงของชาวอเมริกัน” นี่เป็นความผิดพลาดที่ “เกิดจากความบ้าคลั่งของพวกเขา” นั่นคือความรู้สึกที่เหนือกว่าผู้อื่นและการทำผิดไม่ต้องรับโทษของผู้นำอเมริกัน!!