เมกาหน้ามืด!? บิ๊กเพนตากอนซัดสหรัฐฯมุ่งศึกทำลายล้างกับรัสเซียโลกพินาศ EUบีบสมาชิกส่งอาวุธหนุนยูเครน

0

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประณามพฤติกรรมสหรัฐอย่างเป็นทางการ ส่งเป็นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงมอสโกว์และเรียกทูตเข้าพบ แจ้งให้ทราบว่าหากไบเดนและทีมบริหารของเขา ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากจุดยืนทุ่มหนุนสงครามในยูเครน จะนำสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามที่ไม่จำเป็นและทำลายล้างกับรัสเซีย ประเด็นนี้อดีตบิ๊กเพนตากอนเตือนชัดโลกถึงคราวพินาศหากสหรัฐเดินเข้าสู่สงครามใหญ่ทำลายล้างกับรัสเซีย

ด้านโจเซฟ บอร์เรลล์ (Josep Borrell) ประธานกรรมาธิการกิจการต่างประเทศสหภาพยุโรป (EU) ในวันเดียวกันกับที่ไบเดนไปเยือนเคียฟว่า “ชาติสมาชิก EU ควรเร่งจัดส่งอาวุธให้ยูเครนเป็นกรณีเร่งด่วน ทั้งที่สามารถจัดส่งได้ทันทีหรือพิจารณาบรรจุในแผนจัดซื้ออาวุธของแต่ละประเทศ โดยแจ้งให้ รมต.กห.สมาชิกทั้ง ๒๗ ประเทศพิจารณาเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก

วันที่ ๒๑ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนและกองทัพสหรัฐฯที่เกษียณแล้ว พันเอกดักกลาส แม็คเกรเกอร์ (Douglas Macgregor) กล่าวว่า “หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของเรา เรากำลังอยู่บนเส้นทางสู่สงครามที่ไม่จำเป็นและทำลายล้างกับรัสเซีย” 

แมคเกรเกอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังยานเกราะของสหรัฐฯในสมรภูมิที่ ๗๓ ตะวันออกกับกองทัพอิรักในสงครามอ่าวครั้งแรกในปี ๒๕๓๔ ให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ความคิดเห็นของ Macgregor มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีปูตินประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า รัสเซียกำลังถอนตัวออกจากการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่กับสหรัฐฯ เกี่ยวกับสนธิสัญญาการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ (New START) นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๒๕๑๕ ที่ไม่มีสนธิสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นหรือมีการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงดังกล่าว

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเน้นย้ำว่าอาวุธทั้งหมดที่สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกส่งให้กับเคียฟ ตลอดจนบุคลากร รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายที่ถูกต้องสำหรับการโจมตีของรัสเซีย

แมคเกรเกอร์กล่าวว่าข้อความนี้ส่งคำเตือนที่สำคัญไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ มากกว่าการประกาศของปูตินว่ารัสเซียกำลังถอนตัวออกจากการเจรจา New START โดยระงับการเจรจาดังกล่าวทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ

Macgregor กล่าวว่า “การเดินออกจาก START เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ถ้อยแถลงต่อเอกอัครราชทูตสหรัฐฯนั้นสำคัญกว่ามาก” 

การถอนตัวของรัสเซียจากการเจรจา New START มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากปธน.ไบเดนของสหรัฐฯ เยือนเคียฟและประกาศแพ็คเกจความช่วยเหลืออีกชุดมูลค่า ๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแก่ยูเครน

วันต่อมาไบเดนกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ โดยอ้างว่า”ยูเครนแข็งแกร่ง รัสเซียจะไม่มีวันชนะในยูเครน”

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวต่อเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกว์ว่า “แนวทางที่ก้าวร้าวในปัจจุบันของสหรัฐฯ ในการเผชิญหน้าอย่างลึกซึ้งกับรัสเซียในทุกด้านนั้นเป็นการต่อต้านที่เปิดเผย”

ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า “เอกอัครราชทูตได้รับการเตือนว่าอาวุธที่จัดหาให้ยูเครนและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกัน เป็นเป้าหมายที่ถูกต้องสำหรับการโจมตีโดยกองทหารรัสเซีย ขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้มาตรการที่มีเป้าหมายเพื่อถอนทหารสหรัฐฯ และนาโต้ออกจากดินแดนของยูเครน หยุดส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารของตะวันตก และยุติกิจกรรมที่เป็นศัตรูกับรัสเซีย”

ยาเชสลาฟ โวโลดิน(Vyacheslav Volodin) ประธานสภาดูมา กล่าวว่า “ร่างกฎหมายของประธานาธิบดีที่ระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียใน New START ได้ถูกส่งไปยัง State Duma ซึ่งเป็นประธานสภาล่างของรัสเซียแล้ว สภาดูมาแห่งรัฐจะพิจารณาร่างกฎหมายในวันพุธ จากนั้นจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังสภาสูงของรัฐสภา สภาแห่งสหพันธรัฐเพื่ออนุมัติอย่างเป็นทางการตามคำประกาศของประธานาธิบดีปูติน”

การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ประหนึ่งการประกาศแตกหักกับตะวันตกอย่างชัดเจน และต่อไปนี้รัสเซียจะเป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุดในการเผชิญหน้ากับสงครามใหญ่ที่อาจปะทุขึ้นในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าประเทศต่างๆและพันธมิตรอย่างจีนจะพยายามฉุดรั้งเมกาและยุโรปอย่างไรก็ยากจะขวาง  นั่นบ่งบอกสถานการณ์จนตรอกของเมกาอย่างปิดไม่มิด เมื่อเศรษฐกิจกำลังจมดิ่งทุกมาตรการที่ถล่มใส่รัสเซียย้อนกลับมาเล่นงานสหรัฐและบริวารอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง หนี้ท่วมหัว เปโตรดอลลาร์ระส่ำ อำนาจบารมีเสื่อมเพราะทำแต่เรื่องเลวร้ายกับประเทศอื่นเพื่อเอาตัวเองรอด ทางเดียวที่สหรัฐฯจะดิ้นถึงที่สุดคือ ก่อสงครามคว่ำกระดานล้างไพ่ลบหนี้เท่านั้น!!??