เมื่อบ่ายวานนี้ ทั้งโลกจับตาการปราศรัยของปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย ในวาระรายงานต่อสภาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ไม่มีเสียงโห่เหมือนครั้งไบเดนรายงานรัฐสภาเมื่อเร็วๆนี้ มีแต่ความเงียบที่ใจจดจ่อและลงท้ายด้วยกานลุกยืนปรบมือยาวนาน
คำปราศรัยของปูตินพยายามตัดทอนให้กระชับกระนั้นก็กินเวลาไม่น้อยโดยรวมกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันทั้งหมดไฮไลท์จากสุนทรพจน์สำคัญของปูติน กล่าวถึง ตะวันตกวางเดิมพันกับกลุ่มสุดโต่งนีโอฯในยูเครน การคว่ำบาตรที่ล้มเหลว และการระงับข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สำคัญคือการระงับสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ New START ใหม่
วันที่ ๒๒ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์ รายงานว่าปธน.ปูตินได้ กล่าวถึงความตึงเครียดกับตะวันตกระหว่างการปราศรัยต่อสมัชชาแห่งสหพันธรัฐ รัสเซียพยายามอย่างสันติเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยูเครนหลังปี ๒๐๑๔ แต่ผู้นำชาติตะวันตกกำลังเตรียมสถานการณ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงอย่างลับๆ
ผู้นำรัสเซียกล่าวต่อรัฐสภาทั้งสภาดูมาและสภาผู้แทนราษฎรณ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบุคคลสาธารณะ โดยได้กล่าวถึงหัวข้อสำคัญต่างๆ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กินเวลาเกือบสองชั่วโมง ตั้งแต่ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนไปจนถึงปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม นี่คือบทสรุปโดยย่อของสิ่งที่ประธานาธิบดีกล่าว
๑.โลกไม่ควรแตกแยก ปูตินกล่าวว่า “รัสเซียไม่เพียงแต่ตั้งใจที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเชื่อว่าโลกสมัยใหม่ไม่ควรถูกแบ่งออกเป็น“ประเทศที่เจริญแล้ว”และ“ส่วนที่เหลือทั้งหมด” เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดโดยปราศจากการล้ำเส้นหรือการหันไปใช้ความก้าวร้าว
ปธน.ยืนยันว่ามอสโกว์ยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาที่สร้างสรรค์กับชาติตะวันตก และยังคงเรียกร้องให้มีระบบความปลอดภัยระดับโลกที่เป็นเอกภาพและยุติธรรม แต่แทนที่จะให้ความร่วมมือ ชาติตะวันตกกลับเอาแต่ตอบโต้อย่างสับสนและซ่อนตัวอยู่หลังร่มของ NATO ซึ่งยังคงขยายพรมแดนไปยังรัสเซีย ในขณะที่ฐานทัพของอเมริกากระจายไปทั่วโลก
๒.เหตุใดรัสเซียจึงดำเนินการในยูเครน ปูตินย้ำว่าข้อเสนอการรับประกันความปลอดภัยของรัสเซียทั้งหมดถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงโดยสหรัฐฯและนาโต้ มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการวางแผนจะ”การลงโทษ”อย่างร้ายแรงอีกครั้งใน Donbass ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ รัสเซียจึงชิงเปิดศึกก่อน ปูตินย้ำว่าเคียฟและผู้สนับสนุนชาติตะวันตกริเริ่มความขัดแย้งในยูเครน ขณะที่รัสเซียกำลังใช้กำลังเพื่อยุติความขัดแย้งและการล้างเผ่าพันธ์นี้
๓.ตะวันตกไม่สนใจวิธีการที่จะใช้กับมอสโกว์ ปูตินกล่าวว่า “ชาติตะวันตกใช้วิธีการหลอกลวงที่น่ารังเกียจ ระหว่างการหาเสียงสนับสนุนเพื่อบุกในยูโกสลาเวีย อิรัก ลิเบีย และซีเรีย เกี่ยวกับยูเครน ปูตินกล่าวว่าตะวันตกยอมรับอย่างเปิดเผยว่าข้อตกลงมินสค์ปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ เป็นการหลอกลวงรัสเซีย ในขณะที่“ดอนบาสกำลังลุกเป็นไฟและเลือดไหลทะลัก”ผู้สนับสนุนของยูเครน“กำลังเล่นกับชีวิตผู้คน”
ปูตินกล่าวต่อว่า ชาติตะวันตกไม่สนใจว่าใครจะสนับสนุนในการต่อสู้กับรัสเซีย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเมินเฉยต่อนักรบยูเครนที่เฉลิมฉลองการเป็นนีโอฯที่ฉาวโฉ่อย่างเปิดเผยและถือเครื่องหมายแห่งลัทธิทหารสุดโต่ง ปูตินยืนยันว่าชาวยูเครนได้กลายเป็นตัวประกันที่ไม่จำเป็นสำหรับเคียฟและผู้สนับสนุนชาวตะวันตก ซึ่งยึดครองยูเครนในแง่การเมือง การทหาร และเศรษฐกิจ ซึ่งทำลายล้างประเทศในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าประชาชนยูเครนจะรู้หรือเข้าใจมันหรือไม่
๔.ผลที่ตามมาของการส่งอาวุธระยะไกลไปยังเคียฟ ปูตินเสนอว่าชาติตะวันตกปฏิบัติต่อยูเครนเหมือนเป็นการฟาดฟันกับรัสเซีย และใช้สนามรบเป็นสนามทดลองยิง เขาเน้นย้ำว่าสิ่งหนึ่งที่“ทุกคนควรเข้าใจ”คือยิ่งระบบอาวุธตะวันตกส่งไปยังยูเครนในพิสัยไกลเท่าใด รัสเซียก็จะยิ่งถูกบังคับให้เคลื่อนย้ายภัยคุกคามออกไปจากพรมแดนของตน “มันเป็นธรรมชาติเช่นนั้น”ประธานาธิบดีกล่าวย้ำว่าเวสต์ต้องการความขัดแย้งระดับโลก
ชนชั้นนำตะวันตกไม่ปิดบังความตั้งใจที่แท้จริงอีกต่อไป และกำลังเรียกร้องให้รัสเซีย “พ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์อย่างเปิดเผย” พวกเขาพยายามเปลี่ยนความขัดแย้งในท้องถิ่นให้กลายเป็นการเผชิญหน้าระดับโลก รัสเซียจะ”ตอบสนองต่อภัยคุกคามใดๆ”อย่างเด็ดเดี่ยว ปูตินยืนยันว่าตะวันตกตระหนักดีว่าไม่สามารถเอาชนะรัสเซียทางทหารได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเริ่มโจมตีข้อมูลเชิงรุกต่อวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ คริสตจักรออร์ทอดอกซ์ และค่านิยมดั้งเดิมอื่นๆ ของรัสเซีย
๕.การลงโทษล้มเหลว ตะวันตกไม่เพียงเปิดแนวหน้าทางทหารและข้อมูลเพื่อต่อต้านรัสเซียเท่านั้น แต่ยังเปิดแนวรบด้านเศรษฐกิจอีกด้วย ความพยายามดังกล่าวกลับตาลปัตรและล้มเหลวในที่สุด แม้ว่าจะพยายามจุดประกายเงินเฟ้อ ทำลายค่าเงินรูเบิล และขโมยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซียอย่างโจ่งแจ้งก็ตาม
๖.สนธิสัญญาSTART ใหม่ถูกระงับ ปูตินประกาศว่ามอสโกว์ตระหนักดีถึงการมีส่วนร่วมของตะวันตกในความพยายามของกองกำลังยูเครนที่จะโจมตีการบินเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย เมื่อรวมกับ คำขอ ที่ “ไร้สาระ”จาก NATO ที่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการป้องกันประเทศของรัสเซียภายใต้กรอบของสนธิสัญญานิวเคลียร์ New START ทำให้มอสโกว์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอนตัวจากข้อตกลงชั่วคราว
เป็นคำปาฐกถาที่ห้าวหาญและประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนต่อโลกขั้วเดี่ยวแองโกลแซกซอน ไม่ว่าตะวันตกจะจัดสงครามเล็กหรือใหญ่รัสเซียพร้อมลุยทุกรูปแบบ ทำประธานนาโต้นั่งไม่ติดออกมาโวยวายว่า “เราจะต้องไม่ยอมให้รัสเซียชนะ”????
