เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการประชุมระหว่างรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ และหัวหน้าสำนักงานกิจการต่างประเทศของจีนหลังการประชุมนอกรอบที่มิวนิคจบลง โดยจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินการเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครน แทนที่จะ“จุดไฟ”ความขัดแย้งทางทหารระหว่างมอสโกว์และเคียฟ และ“หาผลประโยชน์จากสถานการณ์”
ถ้อยแถลงระบุว่า “จีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ” และเสริมว่าความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างมอสโกว์และปักกิ่งเป็น“สิทธิ์อธิปไตยของ สองรัฐเอกราช” จีนจะ“ไม่ยอมรับการชี้นิ้วของสหรัฐฯ หรือแม้กระทั่งการบีบบังคับที่มุ่งเป้าไปที่ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย” สวนเมกาแบบหน้าหงายไปเลยหลังจากทำเป็นขู่ซึ่งหน้าไม่ให้เกียรติใคร บ่งบอกสไตล์ดิบเถื่อนของคาวบอยโดยแท้
วันที่ ๒๐ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและโกลบัลไทมส์ รายงานว่า หวัง อี้มนตรีแห่งรัฐและหัวหน้าสำนักงานกิจการต่างประเทศกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเน้นย้ำว่า “ในฐานะประเทศมหาอำนาจ สหรัฐฯ ควรมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง วิกฤตอย่าเติมเชื้อไฟและมองหาโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากมัน”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวในการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนนอกรอบการประชุมความมั่นคงมิวนิคปี ๒๕๖๖ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

หวังยังระบุชัดเจนว่า ปักกิ่ง “จะไม่มีวันยอมทำตามคำสั่งของสหรัฐฯ หรือแม้แต่คำขู่ที่จะสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีน” เขาเน้นย้ำว่า “ในประเด็นยูเครน ท่าทีของจีนมุ่งสนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ เราจะจัดทำบทความเกี่ยวกับจุดยืนของจีน ในการยุติปัญหาทางการเมืองของวิกฤตยูเครน และยืนหยัดอยู่ข้างสันติภาพและการเจรจา”
ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวว่า แอนโทนี บลิงเคน(Antony Blinken) รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนเส้นแดงกับปักกิ่งเกี่ยวกับผลที่ตามมาหากจีนให้การสนับสนุนด้านวัตถุแก่รัสเซียหรือความช่วยเหลือในการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรอย่างเป็นระบบ เรียกว่าขู่กันซึ่งๆหน้าแบบนี้จีนจะทนได้อีกนานสักแค่ไหน
หวังกล่าวเน้นว่า “เอกสารแสดงจุดยืนของจีนเกี่ยวกับยูเครน จะย้ำข้อเสนอของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งรวมถึงบูรณภาพแห่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยต้องได้รับการเคารพ ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อกังวลด้านความมั่นคงที่ชอบด้วยกฎหมายต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง และความพยายามทั้งหมดที่เอื้อต่อความสงบสุข การยุติวิกฤตได้รับการสนับสนุน”
เขากล่าวต่อว่า “เราจะย้ำด้วยว่าสงครามนิวเคลียร์จะต้องไม่ต่อสู้และจะไม่มีใครชนะ” ปักกิ่งจะเรียกร้องให้มีความพยายามที่จะต่อต้านการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และการใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพทุกรูปแบบ ในเอกสารแสดงจุดยืน ปักกิ่งหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนจะบรรลุข้อตกลงในเร็วๆ นี้ และเบอร์ลินจะดำเนินการอย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากระบวนการสันติภาพ หวัง อี้ ส่งสัญญาณบอกกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ของเยอรมนีโดยตรง
เจ้าหน้าที่เตือนว่าวิกฤตที่ยืดเยื้อได้เพิ่มเดิมพันให้กับยุโรป และทำให้ “เหตุการณ์” แบบเดียวกับการระเบิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream ใต้ทะเลบอลติกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีโอกาสจะเกิดมากขึ้น รัสเซียเรียกการโจมตีนี้ว่าทำโดยผู้ก่อการร้ายและเรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ
หวังยังกล่าวอีกว่าจีนและเยอรมนีควรร่วมมือกันสนับสนุนการค้าเสรีและปกป้องห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เขาแนะนำให้ยุโรปและเยอรมนีสร้างความสัมพันธ์กับประเทศของเขาอย่างเต็มที่และสนับสนุนความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี่ หวังตำหนิปฏิกิริยาของวอชิงตันต่อเหตุการณ์บอลลูน โดยเรียกการจัดการเรื่องนี้ว่า “ตีโพยตีพาย” และเห็นได้ชัดว่าละเมิดบรรทัดฐานและอนุสัญญาระหว่างประเทศ
แท้จริงแล้ว สหรัฐฯ เป็นประเทศอันดับหนึ่งในแง่ของการสอดแนมและสอดแนม ซึ่งบอลลูนสูงบินเหนือจีนอย่างผิดกฎหมายหลายครั้ง สหรัฐฯ ไม่อยู่ในฐานะที่จะใส่ร้ายป้ายสีจีน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในความคิดเห็นเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ของหวัง-บลิงเคน
หลู่ เซียง(Lü Xiang) นักวิจัยจาก Chinese Academy of Social Sciences กล่าวว่า “สหรัฐฯ ดูเหมือนจะรุกคืบในการแสวงหาการเจรจากับจีน แต่ก็ไม่ได้แสดงความจริงใจใดๆ หรือการไตร่ตรองถึงวิธีแก้ปัญหาในการจัดการกับปัญหาเรื่องนี้”
หวัง อี้สรุปว่า สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องทำคือแสดงความจริงใจ เผชิญหน้าและแก้ไขความเสียหายที่สหรัฐฯ ใช้กำลังในทางที่ผิดทำต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ หากสหรัฐฯ ยังคงแสดงละคร โหมกระแส หรือยกระดับสถานการณ์ จีนจะตอบโต้โดยทำสิ่งที่จำเป็นอย่างแน่นอน ผลที่ตามมาทั้งหมดจะตกเป็นภาระของฝ่ายสหรัฐฯเท่านั้น!!