แค้นจัด! รัสเซียกร้าวเมกา-พวกบึ้มท่อก๊าซต้องชดใช้ อดีตบิ๊กCIAแฉยูเอ็นจะบื้อสื่อต.ต.จะใบ้ นักข่าวซัดสหรัฐฯโง่เง่า

0

กรณีบึ้มท่อก๊าซนอร์ดสตรีมกำลังร้อน เพราะรัสเซียสาบานจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เงียบไปง่ายๆ ซีมัวร์ เฮิร์ช (Seymour Hersh) มองว่าการก่อวินาศกรรมท่อนอร์ดสตรีม เป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ‘โง่ที่สุด’ ในรอบหลายปี และความหวังของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อชัยชนะของยูเครนในความขัดแย้งกับรัสเซียก็เป็น ‘การฆ่าตัวตาย’ นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ยังย้ำว่าวอชิงตันปฏิบัติต่อประเทศในสหภาพยุโรปในฐานะพันธมิตร “ชั้นสอง” พร้อมสูบผลประโยชน์ไม่สนว่าเพื่อนจะรับผลกระทบอะไรตามมา

วันที่ ๑๙ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า รัสเซียเสนอร่างข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการไต่สวนคดีก่อวินาศกรรมท่อส่งน้ำมัน Nord Stream และ Nord Stream 2 เมื่อปีที่แล้ว ยื่นเรื่องไปเมื่อวันศุกร์ โดยดมิทรี โพลิอันสกี รองผู้แทนถาวรคนแรกของรัสเซียประจำสหประชาชาติ (Dmitry Polyanskiy Russian first deputy UN)และอาจนำไปลงประชามติในสัปดาห์หน้า

แหล่งข่าวใน UN กล่าวกับสื่อรัสเซียคาดการณ์ว่าคณะกรรมการพิเศษของทนายความจะได้รับการคัดเลือกจากเลขาธิการสหประชาชาติ ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้

ด้านซีมัวร์ เฮิร์ช(Seymour Hersh) นักข่าวสืบสวนสอบสวนกล่าวหาว่าวอชิงตันมีส่วนเกี่ยวข้องในการวางระเบิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream ว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจ ที่ “งี่เง่าที่สุด”ที่เกิดขึ้นในรอบหลายปี พร้อมเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่ง ผลที่ “น่ากลัว” ต่อชาวยุโรป และเป็นการบ่อนทำลายพันธมิตรนาโต้ที่ “ไร้ประโยชน์อยู่แล้วอย่างยิ่งยวด”

เฮิร์ชให้สัมภาษณ์กับ  Democracy Now! เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สรุปรายงานล่าสุดของเขาเกี่ยวกับการทำลายท่อส่งก๊าซเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพบว่าสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการวางแผนและจุดชนวนระเบิดในส่วนของท่อส่ง Nord Stream ใต้ทะเลบอลติก “ผมคิดว่าผลที่ตามมาทางการเมืองสำหรับเราทุกฝายนั้นยิ่งใหญ่มาก”เขากล่าวเสริมว่าผลกระทบระยะยาวสำหรับยุโรปจะ“น่ากลัว”และบั่นทอนความคิดที่ว่ายุโรปสามารถพึ่งพาอเมริกาได้ทั้งหมด แม้ในยามวิกฤต”

เฮิร์ชแย้งว่า “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มองว่าทางเลือกพลังงานราคาถูกสำหรับยุโรปเป็นภัยคุกคามมานานแล้ว วอชิงตันต้องการแยกรัสเซียอยู่เสมอ เพื่อขัดขวางการขายน้ำมันและก๊าซให้กับสหภาพยุโรป” เขากล่าวว่า “ฝ่ายบริหารของโจ ไบเดนกลัวว่ายุโรปจะเดินหนีจากความขัดแย้งในยูเครน และรู้สึกว่าจำเป็นต้องกดดันพันธมิตรให้อยู่ในแนวทางวาระวอชิงตันไม่เปลี่ยนใจ

เฮิร์ชย้ำว่า “สิ่งที่ไบเดนทำคือเขาพูดว่า ‘ฉันกำลังทำสงครามครั้งใหญ่กับยูเครน มันดูไม่ดี ฉันต้องการให้แน่ใจว่าฉันได้รับการสนับสนุนจากเยอรมันและยุโรปตะวันตก’” เขาเสริมว่าประธานาธิบดีไม่ต้องการให้เบอร์ลินกลับเส้นทางและเปิดเส้นทาง Nord Stream ซึ่งเคยถูกคว่ำบาตรอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงทำลายทางเลือกนั้นเสีย โดยอธิบายกับพันธมิตรในยุโรปของเขาอย่างได้ผลว่า “ปัญหาของคุณเป็นรอง”เป้าหมายยุทธศาสตร์ของการเมืองใหญ่สำคัญกว่า

ในขณะที่ฝ่ายบริหารของไบเดน ปฏิเสธรายงานของเฮิร์ชอย่างหัวชนฝา โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เน็ต ไพรซ์ (Ned Price) เรียกมันว่า”ไร้สาระสิ้นดี”นักข่าวยังยืนยันแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อของเขา ว่าข้อมูลที่ส่งถึงเขานั้นถูกต้อง เขาบอกว่าจะรายงานเรื่องนี้ต่อไปในอนาคต โดยกล่าวว่า“ยังมีเรื่องที่ผมต้องเขียนถึง”พฤติกรรมดำมืดของรัฐบาลไบเดนชุดนี้

ตอกย้ำอีกหนึ่งโดยอดีตนักวิเคราะห์ของ CIA ฟันธงว่าUNSC อาจบ่ายเบี่ยงยืดยาดและสื่อกระแสหลักจะกลบเรื่องการวางระเบิด Nord Streamไปสู่เรื่องอื่นตามวาระวอชิงตัน

การทิ้งระเบิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 และ 2 ของรัสเซียที่ส่งไปยังเยอรมนีได้ส่งผลดีโดยตรงต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจในสองประเทศที่ขณะนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย คือสหรัฐฯ และนอร์เวย์ ทั้งสองประเทศต่างได้เพิ่มการขายก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปแทนที่รัสเซียได้รับทรัพย์เป็นกอบเป็นกำ

เรย์ แมคโกเวิร์น(Ray McGovern) อดีตนักวิเคราะห์ของ CIA และผู้ร่วมก่อตั้ง เวเทอร์รัน อินเทลลิเจ้นซ์ โปรเฟสชั่นแนล ฟอร์แซนีตี้(Veteran Intelligence Professionals for Sanity) เปิดเผยว่าตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงของยูเอ็นปัจจุบันดำรงตำแหน่งโดยมอลต้า (Malta) อาจขัดขวางคำขอนั้นทำให่ขลุกขลักได้ เนื่องจากอยู่ในคอนโทรลของวอชิงตัน

แมคโกเวิร์นกล่าวว่า “มันยากสำหรับชาวรัสเซียที่จะพึ่งพา UN ในตอนนี้ เนื่องจากได้รับเลือกจากสหรัฐฯค่อนข้างมาก พวกเขาก็ยังเล่นตามกฎนั้น”  “พวกเขาชอบวิธีการแบบเก่าเน้นคอนเน็คชั่นมากกว่าสิ่งที่สหรัฐฯเรียกว่า ‘ระเบียบระหว่างประเทศที่อิงตามกฎ'”

ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองกล่าวว่า”ข้อเท็จจริงที่ว่าสื่อของสหรัฐฯ สื่อของเยอรมันต่างนิ่งเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด” คนอเมริกันถูก “ปลูกฝังให้เกลียดชังรัสเซียและปูตินเป็นการส่วนตัว” เพื่อระดมการสนับสนุนสงครามตัวแทนในยูเครน แต่ตอนนี้ล้อเคลื่อนออกจากการรณรงค์ทางทหารที่จัดทำโดยเพนตากอน การเล่าเรื่องของสื่อก็พังทลาย

แมคโกเวิร์นกล่าวสรุปว่า “สิ่งต่างๆ กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหรือสองเดือนข้างหน้า และจะได้เห็นท่าทีของสหรัฐฯ ต่อสิ่งที่เป็นความพ่ายแพ้อย่างน่าสลดใจของกองกำลังยูเครน”  “คนที่ดำเนินนโยบายของเรานั้นไร้เดียงสา พวกเขาหยิ่งผยอง พวกเขาคิดว่าสหรัฐฯนั้นยอดเยี่ยม และปูตินเองก็เคยพูดว่า พวกอเมริกันคิดว่าพวกเขาสามารถมีภูมิคุ้มกันอย่างสมบูรณ์ ต่อผลที่ตามมาจากสิ่งที่พวกเขากระทำ นั่นไม่ใช่กรณีนี้อีกต่อไป “

อีกคนหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์เผ็ดคืออดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ และผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีของสหประชาชาติ สก็อตต์ ริทเทอร์ เขาระบุว่า “มีคนจำนวนมากที่รู้ว่าการกระทำสงครามครั้งนี้ทั้งโง่เขลาและขัดต่อรัฐธรรมนูญเพียงใด”