วิจารณ์อย่างสุจริต! ศาลหยิบ Portrait ธนาธร ยกฟ้องสนธิญาน คดีธนาธรฟ้องหมิ่นฯ-เรียก27ล้าน ชี้ฐานะคนไทยปกป้องสถาบันฯ

0

16 กุมภาพันธ์ 2566 – ศาลยกฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีข่าวท็อปนิวส์ ชี้วิจารณ์ด้วยความสุจริต หลังนาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฟ้องหมิ่นประมาท

ย้อนกลับไปเมื่อ 9 พ.ย. 2563 เครือข่ายปกป้องสถาบันได้จัดชุมนุมที่ ม.รามคำแหง และนายสนธิญาณได้ปราศรัย ทำนองว่า ธนาธรอยู่เบื้องหลังกลุ่มเยาวชนที่จัดชุมนุมทางการเมืองและอื่นๆ ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสีย ธนาธรจึงตัดสินใจแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหาย 27.5 ล้านบาท

ล่าสุด นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีข่าวท็อปนิวส์ และนายธนุ สุขบำเพิง ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามคำนัดฟังคำพิพากษาของศาล นายธนุ สุขบำเพิง ทนายความ เปิดเผยภายหลังศาลพิจารณาว่า คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลสิ่งที่ นายสนธิญาณได้อภิปรายเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในฐานะคนไทยที่จะมีสิทธิ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ โดยศาลได้หยิบยกข้อต่อสู้ในประเด็นที่นายธนาธร เขียนหนังสือ “ธนาธร Portrait” และให้สัมภาษณ์ไว้ ในลักษณะปิดบังอำพราง เพื่อไม่ให้ตนเองถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยหนังสือดังกล่าว ศาลได้หยิบยกมาให้เห็นในประเด็นที่ทำให้คนอ่านแล้วรู้สึกได้ว่า

ทุกคนก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ เนื่องจากในขณะนั้น นายธนาธร เป็นนักการเมือง และเป็นหัวหน้าคณะก้าวหน้า ดังนั้นสิ่งที่นายสนธิญาณ ได้วิพากษ์วิจารณ์ก็สามารถกระทำได้โดยสุจริต จึงได้รับการยกเว้น แม้ข้อความดังกล่าวจะมีลักษณะหมิ่นประมาท แต่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมาย

ขณะเดียวกัน ศาลยังได้หยิบยกพฤติกรรมของ นายธนาธร จากหนังสือ “Portrait ธนาธร” ที่มีพฤติกรรมการเข้าร่วมการชุมนุมกับนักศึกษาที่มีพฤติกรรมประท้วงทางการเมือง และพฤติการณ์อีกหลายอย่างที่ทำให้คนไทยมีสิทธิ์คิดและมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวมีลักษณะบ่อนทำลายสถาบัน

ด้านนายสนธิญาณ เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตนเองได้ยกข้อต่อสู้ว่าการแสดงความคิดเห็นของตนเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธเคืองหรือมีปัญหาส่วนตัวกับ นายธนาธร จนกระทั่งวันนี้ก็ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ มองว่า เป็นเรื่องของการทำหน้าที่ในฐานะประชาชนคนไทย และในฐานะคนที่ทำงานทั้งด้านข่าวสาร ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม