นพ.ธีระแพทย์จุฬาฯจม.เปิดถึงนายกฯปลดล็อค!?!ระวังซ้ำรอยสิงคโปร์-ญี่ปุ่น

0

การระบาดโควิด-19ในไทยที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลงนั้น มีเสียงเรียกร้องบางฝ่ายให้ปลดล็อกหรือผ่อนปรนบางจังหวัด ขณะเดียวกันก็มีเสียงทักท้วงด้วย โดยเฉพาะจากหมอธีระที่ได้ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยสิงคโปร์และญี่ปุ่น

ล่าสุดวันนี้(20 เม.ย.63) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความพร้อมกราฟ โดยทำเป็นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศบค. ซึ่งมีเนื้อหาว่า กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี จากข่าวที่รัฐได้ออกแถลงการณ์รายวันโดยนำเสนอแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 พร้อมระบุลักษณะการจัดการระบบการผ่อนคลายรายจังหวัด ตามที่นำเสนอโดยกลุ่มนักวิชาการและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขจำนวนหนึ่งนั้น

ผมขอเรียนว่า การดำเนินการตามรูปแบบดังกล่าวนั้นเร่งด่วนเกินไป และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง จนอาจยากที่จะควบคุม ดังเช่นบทเรียนที่เราเห็นในสิงคโปร์และญี่ปุ่น

การที่ประเทศไทยสามารถฉุดกราฟการระบาดจาก 33% มาสู่ 8% ในวันที่ 21 เมษายนนี้ได้นั้น เพราะรัฐได้ตัดสินใจถูกต้องในการดำเนินมาตรการเข้มข้นตั้งแต่ 19 มีนาคม 2563 ภายหลังจากที่ทางโรงเรียนแพทย์ได้นำเสนอข้อมูลวิชาการ และการคาดการณ์ภาวะการระบาดให้แก่รัฐบาล

ทั้งนี้เป็นไปตามหลักวิชาการที่วิเคราะห์ให้เห็นชัดว่าประเทศที่ระบาดมาก มักดำเนินการไม่ทันต่อเวลา และเกาะกราฟ 33% เช่น อเมริกา เยอรมัน อิตาลี และอื่นๆ โดยที่ในขณะนั้นการควบคุมโรคโดยหน่วยงานรัฐเป็นไปในลักษณะที่แก้เพียงปัญหาเฉพาะหน้า และไม่ได้สนับสนุนให้เกิดมาตรการที่มีประสิทธิภาพดีพอ การตัดสินใจครั้งนั้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไทยเราอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้ดีดังปัจจุบัน

จากการประกาศในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่าจะผ่อนคลายให้ประกอบกิจการต่างๆ โดยปลดล็อคแบบรายกลุ่มจังหวัดนั้นเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ Super-migration ของผู้คนที่จะหาทางในการทำมาหากิน และอาจเกิดจลาจลหรือความโกลาหลตามมาได้

ผมจึงขอเรียนเสนอให้ท่านโปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยควรผ่อนคลายมาตรการเมื่อเราพร้อมจริงๆ เพราะหากเกิดปัญหาการระบาดระลอกสองแบบในสิงคโปร์และญี่ปุ่นแล้ว การกลับมาควบคุมใหม่จะยากขึ้นเป็นทวีคูณ พร้อมกันนี้ได้ขอนำเสนอทางเลือกนโยบายประกอบการพิจารณาดังแนบ

จึงขอเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ที่มาเฟซบุ๊กThira Woratanarat