ต.ต.คุ้มคลั่ง!?ส.ส.รัสเซียฟาดหน้าเมกา-นาโต้ ฝึกก่อการร้ายเจอหน่วยรบพิเศษพร้อมอาวุธ ๒๐%ในโลก จะแหลกไม่เหลือ

0

ทั้งเมกา-นาโต้กำลังคุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัดในการเร่งสงครามแตกหักกับรัสเซียกลาโหมสหรัฐฯก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า ‘ไม่คัดค้าน’ เคียฟโจมตีไครเมียและฝึกทหารยูเครนอย่างเปิดเผยในพื้นทื่สมาชิกนาโต้ พร้อมทั้งเคลื่อนไหวฝึกกลุ่มก่อการร้ายหมายมั่นส่งเข้าไปก่อวินาศกรรมโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

ดร.เซเลสเต้ วอลแลนเดอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฝ่ายกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศสหรัฐฯ  ถูกถามว่าวอชิงตันสนับสนุนเคียฟในการยึดไครเมีย หรืออย่างน้อยก็โจมตีเป้าหมายรัสเซียที่นั่น คาบสมุทรนี้ได้รับการโหวตอย่างท่วมท้นให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี ๒๕๕๗ หลังการรัฐประหารในเคียฟที่มีตะวันตกหนุนหลัง  ในการกล่าวที่ Center for a New American Security วอลแลนเดอร์ย้ำว่าสหรัฐฯ“สนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนและอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งรวมถึงไครเมียด้วย”

ต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สหรัฐฯเพิ่งประกาศ ชุดรักษาความปลอดภัยใหม่มูลค่า ๒.๑๗ พันล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน ซึ่งรวมถึงระเบิดขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก GLSDB ที่ยิงจากพื้นซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด ๑๕๐ ก.ม.หรือ ๙๓ ไมล์ ในขณะที่เพนตากอนกล่าวว่าความสามารถพิสัยไกลนี้จะช่วยให้ชาวยูเครน“ยึดคืนดินแดนของตนได้”แต่ปฏิเสธที่จะคาดเดาเกี่ยวกับปฏิบัติการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตของเคียฟ ทั้งยังประกาศช่วยเงินและอาวุธเพิ่มอีกในสัปดาห์นี้

ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เตือนว่าการโจมตีไครเมียจะถูกตีความว่าเป็นการโจมตีประเทศ เขากล่าวว่าเคียฟต้องเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะ“พบกับการตอบโต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยใช้อาวุธทุกชนิด”

ล่าสุดรัสเซียยืนยันทั้งขาวกรองและท่าทีของสหรัฐฯที่เดินหน้าทำลายรัสเซียให้ได้โดยไม่เลือกวิธีการเหมือนอย่างที่ทำเสมอมาในสมรภูมิขัดแย้งทั่วโลก  แต่รัสเซียไม่หวั่นพร้อมตอบแทนกลับอย่างสมสมทั้งลูกน้องและหัวหน้าแก๊ง

วันที่ ๑๔ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และมิลิทารี่โครนิเคิล รายงานว่า หน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย เปิดเผยกรณี สหรัฐฯ วางแผนที่จะส่งกลุ่มติดอาวุธไปยังรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS เพื่อดำเนินการโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายต่อนักการทูต ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ความมั่นคง และกองทัพ 

หน่วยงานระบุในถ้อยแถลงว่า วอชิงตันกำลังรับสมัครกลุ่มติดอาวุธไอเอส ซึ่งถูกแบนในสหพันธรัฐรัสเซีย โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองสหรัฐเลือกผู้ก่อการร้าย ๖๐ คน พวกเขาได้รับการฝึกฝนที่ฐานทัพอัลทันฟ์(Al-Tanf)ในซีเรีย

ตามรายงานที่น่าเชื่อถือที่ส่งถึงหน่วยข่าวกรองต่างประเทศฯ กองทัพสหรัฐฯ กำลังรับสมัครผู้ก่อความไม่สงบจากกลุ่มญิฮาดที่สังกัดกลุ่มรัฐอิสลามไอเอส  และอัลกออิดะห์หัวรุนแรง เพื่อดำเนินการโจมตีในรัสเซียและในประเทศกลุ่มพันธมิตรเอเชียกลางซีไอเอส (CIS)ซึ่งใกล้ชิดกับรัสเซีย

ชาวอเมริกันให้ความสนใจเป็นพิเศษ ในความร่วมมือกับผู้คนจากภูมิภาคคอเคเชียนเหนือของรัสเซีย และประเทศในเอเชียกลาง ที่ฐานทัพในซีเรีย กลุ่มติดอาวุธได้รับการสอนทักษะในการสร้างและใช้อุปกรณ์ชั่วคราว ตลอดจนวิธีการก่อวินาศกรรมและกิจกรรมล้มล้าง ในขณะเดียวกัน ก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการวางแผนโจมตีวัตถุที่มีการป้องกันอย่างดี รวมทั้งคณะทูตต่างประเทศ

ในอนาคตอันใกล้นี้มีการวางแผนที่จะดำเนินการถ่ายโอนผู้ก่อการร้ายซึ่งจะดำเนินการเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไปยังดินแดนของรัสเซียและรัฐ CIS พวกเขาจะได้รับมอบหมายให้เตรียมพร้อมและปฏิบัติการโจมตีต่อนักการทูต ข้าราชการ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และบุคลากรของกองทัพ 

เอกสารกล่าวว่า หน่วยสืบราชการลับต่างประเทศของรัสเซีย ตั้งข้อสังเกตว่ากองกำลังความมั่นคงของสหรัฐฯหมกมุ่นอยู่กับแนวคิดเรื่อง “การหลั่งเลือดรัสเซีย” และพิจารณาว่าเป็นที่ยอมรับในการใช้ผู้ก่อการร้ายเพื่อจุดประสงค์ของตนเอง กระทำดังกล่าวทำให้วอชิงตันอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรครั้งล่าสุดของเซเลนสกี้ก็พูดถึงความจำเป็นในการจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งกองทัพยูเครนสามารถโจมตีไครเมียได้ ระหว่างการประชุมกับสมาชิกรัฐสภาท้องถิ่น เขาระบุว่ากองกำลังยูเครนจึงจะสามารถโจมตีรัสเซียลึกเข้าไปใน “ดินแดนที่ถูกยึดครอง”ได้

ส.ส.อดัลบี ชคากอสเชฟ(Adalbi Shkhagoshev) รองหัวหน้าพรรรคยูไนเต็ดรัสเซีย (United Russia) ซึ่งเป็นคณะกรรมการความมั่นคงและการทุจริตของสภาดูมาแห่งรัฐรัสเซีย หรือสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า “หากสหรัฐฯ ดำเนินการโจมตีด้วยการก่อการร้ายระหว่างประเทศ มันควรจะเป็นการส่งสัญญาณไปยังสหประชาชาติ แต่เรารู้ว่าสถานะของสหประชาชาตินั้นกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันของใคร นั่นคือเหตุผลว่าทำไมองค์กร SCO หรือพันธมิตรเซี่ยงไฮ้ จึงมีความสำคัญมาก , CSTO หรือองค์กรสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน และบริการพิเศษของประเทศยูเรเซีย CIS ก็สามารถประสานความพยายามของพวกเขา ร่วมมือกันเพื่อต่อต้านการกระทำดังกล่าวของวอชิงตันได้”

เขากล่าวย้ำว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วอชิงตัน ดำเนินการในลักษณะนี้ผ่านองค์กรก่อการร้ายและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย” “ห้องขังมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ผมมั่นใจว่าวอชิงตันไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้เฉพาะกับรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจีนด้วย” “รัสเซียมีระบบที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการก่อการร้าย และบริการพิเศษของประเทศพร้อมที่จะต่อต้านแผนการของสหรัฐฯในทุกรูปแบบ”

นอกจากนี้รัสเซียยังสามารถผลิตอาวุธและใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากถึง ๑๐% ของการผลิตทั่วโลกในขณะที่อาวุธทางทะเลชั้งสูงผลิตและมีอยู่มากถึง ๒๐%ของทั่วโลก และกำลังอวดโฉมบางส่วนอยู่ที่งานAero India 2023 ที่บังกาลอร์!!