ในที่สุดเอเชีย-แปซิฟิกก็ส่อเค้าตึงเครียดมากขึ้น ตามความเคลื่อนไหวกระตุ้นความขัดแย้งในพื้นที่ของสหรัฐฯ ตลอดท้องน้ำญี่ปุ่น-คาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของกองทัพเรือรัสเซียใกล้หมู่เกาะคูริล เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของรัสเซียทำการฝึกนอกชายฝั่งคูริล ตามแผนการฝึกการรบ กองปืนใหญ่ของเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ได้ฝึกการติดตามและทำลายทุ่นระเบิดจำลองในพื้นที่ประสบภัยจากทุ่นระเบิดที่มีเงื่อนไข
หมู่เกาะคูริล รัสเซียเรียกว่า หมู่เกาะออสโตรวา ทิสซิมา(ostrova Tisima) เกาะทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย แต่มีสี่เกาะใต้สุดทีญี่ปุ่นอ้างสิทธิ์ และเป็นกรณีพิพาทมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง หมู่เกาะดังกล่าวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น และอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซาคาลิน Sakhalin โดยหมู่เกาะคูริลตั้งอยู่ระหว่างทะเล ออคฮอตสค์(Okhotsk) ของรัสเซียกับมหาสมุทรแปซิฟิก และโครงการซาคาลิน๑-๒ ก็ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณนี้ นั้นคือผลประโยชน์เรื่องก๊าซ-น้ำมันใต้ทะเลที่ทำให้ทั้งสองประเทศตกลงกันไม่ได้
วันที่ ๑๔ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า หน่วยแมนแพต (MANPAD) ของเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ของกองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย แอดมิรัล เนเวลสกอย(Admiral Nevelskoy) ได้ทำลายโดรนของผู้ก่อวินาศกรรมแบบมีเงื่อนไข ในระหว่างการฝึกซ้อมใกล้กับหมู่เกาะคูริล ซึ่งกองเรือฯรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า
กองเรือระบุในถ้อยแถลงว่า “ตามแผนการฝึก ลูกเรือของเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่แอดมิรัล เนเวลสกอย (Admiral Nevelskoy) ตรวจพบยานบินไร้คนขับที่ปล่อยจากเกาะทรายโดยกลุ่มผู้ก่อวินาศกรรมที่มีเงื่อนไข ในระหว่างการฝึกซ้อม เจ้าหน้าที่ได้เตรียมจรวดอิกลา แมนแพต (Igla MANPAD) สำหรับการใช้งาน และ หน่วยป้องกันภัยทางอากาศยึดเป้าหมายทางอากาศในการคุ้มกัน โดรนของ ‘ศัตรู’ ถูกทำลายโดยจรวด ๒ ลูกเมื่อเข้าใกล้”
กองเรือเสริมว่า ตามแผนการฝึกรบ หน่วยปืนใหญ่ของเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ได้ฝึกการติดตามและทำลายทุ่นระเบิดจำลองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดตามเงื่อนไขของการฝึกซ้อม
ก่อนหน้านี้ ลูกเรือของเรือแอดมิรัล เนเวลสกอย ได้ฝึกซ้อมการขึ้นและลงจากเรือของบุคลากรและยานพาหนะของนาวิกโยธินแปซิฟิคฟลีต (Pacific Fleet) ในคัมชัตกา ( Kamchatka) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้ การฝึกครั้งนี้จึงดำเนินต่อเนื่องตามโปรแกรม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางการญี่ปุ่นยังเงียบ ก่อนหน้านี้ก็ประท้วงทางการทูตต่อรัสเซียหลายครั้ง แต่ยังแสดงความจำนงสนใจโครงการสคาลินของรัสเซียอยู่ แต่มอสโกว์ก็ได้ติดตามการพัฒนาศักยภาพทางทหารของญี่ปุ่นและบทบาทที่แนบแน่นกับสหรัฐและนาโต้ในฐานะแกนนำกลุ่มควอดอย่างใกล้ชิด
อันเดรย์ รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย(Russian Deputy Foreign Minister Andrey Rudenko)กล่าวว่า “ในกรณีที่มีภัยคุกคามใดๆ ต่อภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เช่น การปรากฏตัวของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงบนเกาะชายแดนของญี่ปุ่น รัสเซียจะตอบโต้ทันทีตามหลักคำสอนด้านการป้องกันของประเทศ”
เมื่อต้นเดือนก.พ.นี้สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า โตเกียวพร้อมที่จะพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางของสหรัฐฯ ในดินแดนของตน หากวอชิงตันเริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ ขณะที่ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะเริ่มพัฒนาขีปนาวุธร่อนพร้อมหัวรบแบบเปลี่ยนได้ซึ่งมีพิสัยยิงไกลกว่า ๑,๐๐๐ กิโลเมตร หรือ ๖๒๐ 620 ไมล์ อย่างเร็วที่สุดภายในปีนี้
รูเดนโกกล่าวว่า “อันที่จริง ญี่ปุ่นได้ยกระดับศักยภาพทางทหารของตนให้ทันสมัยขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มกิจกรรมที่เป็นอันตรายใกล้ชายแดนรัสเซีย รวมทั้งดำเนินการฝึกซ้อมขนาดใหญ่ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ และทดสอบขีปนาวุธและอาวุธธรรมดาชนิดใหม่ ๆ สำหรับเรื่องนี้ เราได้แสดงการประท้วงอย่างรุนแรงต่อฝ่ายญี่ปุ่นหลายครั้งผ่านช่องทางทางการทูต”
ในขณะเดียวกัน รูเดนโกได้เปิดเผยว่ามอสโกว์และปักกิ่งกำลังดำเนินการจัดการประชุมครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ(Sergey Lavrov) และ คิน แกง(Qin Gang) รมว.ต่างประเทศคนใหม่ของจีน
รูเดนโกกล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน กระทรวงต่างประเทศของทั้งสองประเทศกำลังดำเนินการเกี่ยวกับทางเลือกในการจัดการการติดต่อส่วนตัวครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะขยายการประชุมในระดับอื่นๆต่อเนื่อง”
รัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่านักการทูตชั้นนำของทั้งสองประเทศกำลังพัฒนาความร่วมมืออย่างแข็งขันในสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว