ขณะที่สหรัฐฯผลักดันให้สหภาพยุโรปออกหน้าหนุนเคียฟอีกแรง แม้ยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตเงินเฟ้อกระฉูดไป ๒๕ เปอร์เซนต์ ฮังการีออกมาประณามอียูที่ผลักดันยูเครนสู้รัสเซียไม่จบสิ้น ทั้งย้ำว่านโยบายดังกล่าว “สร้างความเสียหายให้กับยุโรปอย่างร้ายแรง” ด้านอิตาลีก็ไม่พอใจที่สหภาพยุโรปเล่นบทนายหน้าหลักผลักดันให้ยุโรปติดหล่มสงครามซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจถอดถอย ท่ามกลางการต่อต้านคัดค้านจากประชาชนหลายประเทศในยุโรป
วันที่ ๑๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า ปีเตอร์ ซิจจาร์โต รมว.ต่างประเทศฮังการี (Peter Szijjarto) ให้ส้มภาษณ์กับวิทยุคอสสุธ(Kossuth) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดล่าสุดของประธานรัฐสภายุโรป โรเบอร์ตา เมตโซลา(Roberta Metsola) ผู้ผลักดันให้ส่งเครื่องบินรบและอาวุธระยะไกลไปยังเคียฟ เขากล่าวว่า “การตัดสินใจของฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับยูเครน โดยทั่วไปสร้างความเสียหายต่อเนื่องให้กับยุโรปและการส่งมอบอาวุธต่อไปมีแต่จะทำให้เพิ่มความเป็นปรปักษ์ระหว่างยุโรปและรัสเซียหนักขึ้น”
เขากล่าวโจมตีสภานิติบัญญัติของสหภาพยุโรป โดยอ้างว่า“ความน่าเชื่อถือแทบจะเป็นศูนย์” Szijjarto ชี้ให้เห็นเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรับสินบนเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเป็นหลักฐานว่ารัฐสภาสหภาพยุโรปเป็น”หนึ่งในองค์กรที่ทุจริตมากที่สุดในโลก”
เขาอ้างถึงการจับกุมเอวา ไคลี อดีตรองประธานาธิบดีของรัฐสภายุโรป ซึ่งถูกตั้งข้อหารับสินบนจากกาตาร์เพื่อแลกกับการล็อบบี้อย่างผิดกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของรัฐอ่าวอาหรับ
รัฐมนตรีได้ตั้งคำถามต่อการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียของเมกา-ตะวันตก เขาแย้งว่า “ต.ต.ล้มเหลวในการบังคับให้มอสโกว์ยุติความขัดแย้ง ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรปเผชิญกับความยากลำบากอย่างเหลือเชื่อ และมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ ๑๐ ก็สร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้กับพวกเราชาวยุโรปเท่านั้น เช่นเดียวกับเก้าครั้งก่อนหน้านี้ ”
ฮังการียังคงยืนหยัดพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างหนัก วิพากษ์วิจารณ์การคว่ำบาตรของตะวันตกต่อมอสโกว์ นอกจากนี้ยังปฏิเสธที่จะสนับสนุนเคียฟด้วยอาวุธ หรืออนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายอาวุธข้ามพรมแดนของประเทศไปให้ยูเครนด้วย
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในอิตาลีก็แปลกแยกจากอียู-นาโต้อย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆทั้งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันกับอดีตนายกฯชื่อดังเฉ่งสหรัฐฯและเซเลนสกี้ไม่ไว้หน้า
ซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนี(Silvio Berlusconi) อดีตนายกรัฐมนตรีของอิตาลีและหัวหน้าพรรคฟอร์ซาอิตาเลีย (Forza Italia) กล่าวว่า “ยูเครนโดยเซเลนสกี้ (Volodymyr Zelensky) สามารถสั่งให้กองกำลังของยูเครนหยุดการโจมตี ดอนบาส(Donbass) ความขัดแย้งทางอาวุธก็จะหมดไป”
เขามองว่าสหรัฐฯให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมแก่ยูเครนเพื่อแลกกับการละทิ้งการเข้าไปสู้รบเองโดยตรง แบร์ลุสโคนียังพูดค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับการกระทำของเซเลนสกี้
เขากล่าวว่า “ฉันจะไม่คุยกับเซเลนสกี้ เพราะเราเห็นความพินาศของประเทศของเขาและการทำลายล้างทางทหารและผู้อยู่อาศัยต่อดอนบาส ก็เพียงพอแล้วที่จะหยุดการโจมตีสาธารณรัฐดอนบาส ที่ปกครองตนเองทั้งสองแห่งและสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นฉันจึงขอประเมินการกระทำของสุภาพบุรุษคนนี้ในทางลบอย่างยิ่ง”
แบร์ลุสโคนียังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรกดดันเซเลนสกี ให้ยุติไม่ใช่ยุยง มีเพียงภัยคุกคามที่จะตัดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และกีดกันความช่วยเหลือทางการเงินของยูเครนเท่านั้นที่สามารถมีอิทธิพลต่อระบอบการปกครองของเคียฟและเปลี่ยนนโยบายของเซเลนสกี้ต่อดอนบาส
ก่อนหน้านี้แบร์ลุสโคนีได้เสนอให้ประเทศในยุโรปเสนอข้อตกลงอย่างสันติ อย่างไรก็ตาม ประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลของยุโรปในปัจจุบันด้วยเหตุผลบางอย่างไม่ได้ใช้่สามัญสำนึก แต่ฟังฝ่ายบริหารของสหรัฐฯอย่างเดียว ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามยืดอายุความขัดแย้งทางอาวุธในยูเครน
นอกจากนี่นายกรัฐมนตรีอิตาลีคนปัจจุบันยังกล่าวเปรียบเทียบเรื่องเรือไททานิกกับการพบกันของมาครงกับเซเลนสกี้ว่าเป็นภาพสะท้อนของยุโรปจะล่มสลายเหมือนเรือไททานิก
จอร์เจีย เมโลนีนายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวว่า “ฉันไม่พอใจที่ผู้นำอียู ๒๕ คนจาก ๒๗ คนไม่ได้อยู่ในปารีสเลยมีเพียงชอลซ์และมาครงเท่านั้นที่พบกีบอีกคนหนึ่งคือขอทานชุดวอร์มที่ไม่ใช่สมาชิกอียู ที่ทำให้ยุโรปอ่อนแอลง มันคุ้มค่าที่จะจดจำไททานิคไว้่ เมื่อเรือจมไม่สำคัญว่าคุณจ่ายค่าตั๋วเท่าไหร่”
นอกจากอิตาลีจะไม่ส่งอาวุธให้ยูเครนแล้ว ยังไม่สนสหรัฐฯคว่ำบาตรซีเรียแม้เกิดมหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว รีบส่งความช่วยเหลือให้ทั้งซีเรียและตุรเคียทันที!!