ท่ามกลางฉากหน้าของนาโต้ที่เหมือนยังยื้อเวลาส่งรถถังและเครื่องบินรบให้ยูเครน แต่มีความเคลื่อนไหวขนส่งยานเกราะเอบรามส์ของสหรัฐฯแถวๆท่าเรือยุทธศาสตร์เยอรมนีแล้ว บ่งบอกว่าสมาชิกนาโต้ตัวเป้งบางรายกำลังเร่งส่งยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนหวังจะพลิกสถานการณ์ให้ยูเครนเอาชนะรัสเซียให้ได้
ขณะเดียวกันทางด้านรัสเซียได้รุกกระหน่ำทำลายเส้นทางและจุดขนส่งอาวุธของยูเครนทั้งทางบกและทางทะเลอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญครั้งนี้โอเดสซาไม่รอด โดนทั้งโดรนถล่มคลังอาวุธ และถูกโดรนผิวน้ำที่ยิงจากใต้น้ำเป็นครั้งแรก ระเบิดสะพานที่กำลังลำเลียงอาวุธยุโรปผ่านมาจากมอลโดวาและโรมาเนียพังและ ทำให้แม่ทัพของเซเลนสกี้เต้นฟ้องนาโต้ว่ารัสเซียเล่นแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว
วันที่ ๑๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิว รายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวยกย่องนาวิกโยธินรัสเซียที่กำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้คือ ‘วีรบุรุษ’ที่แท้จริง เขายกย่องความพยายามต่อสู้ของนาวิกโยธินอย่างสูงในระหว่างปฏิบัติการพิเศษทางทหารซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก
ปูตินกล่าวว่า “นาวิกโยธินกำลังทำงานในขณะนี้ ต่อสู้อย่างกล้าหาญ ทั้งจากกองเรือแปซิฟิกและกองเรือเหนือ” ผู้นำรัสเซียกล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลของเอเยนซี ฟอร์สตราติจิก อินิชีเอทีฟส์ (Agency for Strategic Initiatives) ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ Rossiya-1 จากรายการชื่อ “มอสโก เครมลิน ปูติน” ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นับเป็นครั้งแรกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การโจมตีเป้าหมายแนวหลังของศัตรูในยูเครนยังคงดำเนินต่อไปสี่วันติดต่อกัน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครนร้องเรียนผู้บัญชาการทหารอเมริกันเกี่ยวกับการใช้โดรนผิวน้ำของกองทัพเรือรัสเซีย
เมืองดนิโปร หรือดนีปรอเปตรอฟสค์ มีการประกาศเตือนภัยทางอากาศในภูมิภาค ในเวลาเดียวกัน มีการระบุเพิ่มเติมว่าฝูงโดรนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ขีปนาวุธที่สามารถบินได้ในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับในการโจมตีครั้งก่อนๆ ข้อมูลได้รับการยืนยันอีกว่ามีการโจมตีครั้งล่าสุดในคาร์คอฟ (Kharkov) ศูนย์โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบซึ่งมีการขนถ่ายสินค้าทางทหารอย่างแข็งขันทางบกถล่มเละไปแล้ว ทางทะเลก็่ไม่เหลือ
ที่ฮือฮาต่อยูเครนล่าสุดคือ สื่อรัสเซียและบล็อกเกอร์ในโซเชียลมิเดียได้เผยแพร่ภาพถนนและสะพานรถไฟซาโกตา Zatoka ใน Odesa ถูกโดรนผิวน้ำไร้คนขับชน สร้างความเสียหายกับสะพานซึ่งเชื่อมโยงภูมิภาคนี้กับส่วนอื่นๆ ของยูเครน
สะพานชักในหมู่บ้านซาโตกา Zatoka ในภูมิภาค Odessa ถูกโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์โดยอากาศยานไร้คนขับประเภทกามิกาเซ่
วิดีโอเกี่ยวกับเรือดำน้ำและการระเบิดที่ตามมาหลังจากนั้นเผยแพร่โดยช่องเทเลแกรมจำนวนหนึ่ง แต่ความสำคัญของสะพานคือตั้งอยู่ในสถานที่ที่แม่น้ำดนีสเตอร์ (Dniester) ไหลลงสู่ทะเลดำและเชื่อมต่อดินแดนส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของ เบสซาราเบีย(Bessarabia) กับส่วนที่เหลือของภูมิภาค Odessa ส่วนตรงกลางของมันกำลังยกขึ้นเพื่อให้เรือสัญจรไปมาที่ปากแม่น้ำดีสเตอร์ Dniester
ในภูมิภาคนี้ปากแม่น้ำ Dniester เต็มไปด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่กว้างขวาง และสะพานใน Zatoka เป็นวิธีเดียวในการขนส่งลำเลียง เป็นที่ทราบกันดีว่ายูเครนใช้สะพานนี้เพื่อขนส่งอาวุธตะวันตกจากโรมาเนียในทิศทางของเขตสู้รบ
อีกเส้นทางหนึ่งเป็นเส้นทางสำหรับรถยนต์โดยเฉพาะและตั้งอยู่ทางเหนือมากโดยผ่านอาณาเขตของมอลโดวาซึ่งเป็นเส้นทาง ๘ ก.ม. เส้นทางรถไฟที่ใกล้ที่สุดซึ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำดนีสเตอร์ไปทางเหนือประมาณ ๑๐๐ กม. ผ่านดินแดนของมอลโดวา แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของทรานนิสเตรีย (Transnistria)
ก่อนหน้านี้ กองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียได้โจมตีสะพานในเมือง ซาโตกานี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เป็นเพียงวิธีการทางอากาศในรูปแบบของขีปนาวุธเท่านั้น เป็นครั้งแรกที่มีการใช้โดรนใต้น้ำกึ่งดำน้ำโจมตีและประสบผลสำเร็จ
เป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้ โดรนเหล่านี้จะโจมตีสะพานและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือของยูเครน ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อกองทัพของยูเครน อย่างไรก็ตาม UAV แบบยานใต้น้ำไร้คนขับ ในกรณีนี้น่าจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าโดรนกามิกาเซ่ที่โจมตีภาคพื้นดิน
พลเอกวาเลอรี ซาลุชนี(Valery Zaluzhny)ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน กล่าวว่าเขาได้รายงาน “เหตุการณ์ในภูมิภาค Odessa ต่อพลเอกมาร์ค มิลลี่ (Mark Milley) หัวหน้าคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐอเมริกา “รัสเซียใช้โดรนของกองทัพเรือ โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนหลายแห่ง” เขาแบ่งปันกับนายพลสหรัฐฯถึง ข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้โดรนพื้นผิวทางทะเลของรัสเซีย ระบุว่าใช้คุกคามการขนส่งพลเรือนในทะเลดำ” อันที่จริงทีใครก็ทีใครตอนยูเครนส่งโดรนผิวน้ำของอังกฤษไปโจมตีท่าเรือรัสเซียยังทำได้ รัสเซียทำบ้างไม่เห็นแปลก โปรดสังเกตุช่วงนี้รัสเซียจะมุ่งถล่มเส้นทางโลจิสติกส์ ขนส่งลำเลียงอาวุธของยูเครนจากตะวันตกหนักขึ้น!!??
