สิ้นคำของปธน.ปูติน ประกาศสู้เพื่อจบศึกล้างเผ่าพันธ์ดอนบาสของยูเครนและผู้สนับสนุนตะวันตก กองทัพรัสเซียได้โจมตีทางอากาศต่อยูเครนหลายแห่งทันที
มิสไซล์คาลิเบอร์ส่วนหนึ่งข้ามฟ้าของมอลโดวา เฉียดโรมาเนีย เซเลนสกี้รีบปั่นทันที ว่ารัสเซียยิงลุกล้ำประเทศสมาชิกนาโต้อย่างโรมาเนียแล้ว หวังผลักดันให้นาโต้ประกาศรบรัสเซียอย่างเป็นทางการ แต่โรมาเนียปฏิเสธและประณามการเต้าข่าวของยูเครน ยืนยันว่าขีปนาวุธรัสเซียไม่ได้ข้ามมาน่านฟ้าของประเทศตน สื่อตะวันตกตื่นเต้นกันใหญ่โพสต์ตามเซเลนสกี้ว่ารัสเซียแหย่นาโต้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ขณะที่มอลโดวา ดินแดนติดยูเครนที่ปกครองโดยรัฐบาลโปรสหรัฐ-ตะวันตกเกิดการลุกฮือของประชาชน ประท้วงขับไล่รัฐบาลอย่างหนัก ส่งผลให้รัฐบาลโปร.เมกาลาออกทั้งคณะ แต่ตัวเป้งประธานาธิบดีที่ประกาศจะเข้าสมัครสมาชิกนาโต้ยังดื้ออยู่ในตำแหน่ง คิดว่าจะสยบความไม่พอใจของประชาชนได้ ในเวลาเดียวกันกองทัพรัสเซียในทะเลดำได้ยิงมิสไซล์ข้ามฟ้าเข้าไปยังยูเครน เพื่อเตือนปธน.มอลโดวาอย่าหาเรื่องใส่ตัว หรือมอลโดวาจะต้องกลายเป็นยูเครน๒ ดังที่ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียเคยทำนายไว้เมื่อไม่นานมานี้
วันที่ ๑๑ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีนาตาเลีย กาฟริลิตา (Natalia Gavrilița) ของมอลโดวา ประกาศลาออกพร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด
ประธานาธิบดีมอลโดวา “มายา ซันดู”(Maia Sandu) ยอมรับการตัดสินใจของ กาฟริลิตาและกล่าวขอบคุณเธอสำหรับ “ความเสียสละและความพยายามอันยิ่งใหญ่ของเธอในการเป็นผู้นำประเทศในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตมากมาย”
จากนี้รัฐบาลใหม่จะได้รับการเสนอชื่อโดยปธน.ซานดู และจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาจำนวน ๑๐๑ ที่นั่งของมอลโดวาต่อไป
ด้านยูเครน วาเลอร์รี ลาลุชนี(Valery Zaluzhny) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน ยืนยันว่าขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ (Kalibr) สองลูก ซึ่งยิงโดยเรือรบรัสเซียในทะเลดำ ผ่านน่านฟ้าของยูเครน แล้วข้ามไปยังมอลโดวาและพุ่งเข้าในโรมาเนีย ก่อนที่จะวกกลับเข้ามายูเครนใหม่
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมโรมาเนียปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าน่านฟ้าของตนถูกละเมิด รายงานการติดตามการยิงขีปนาวุธจากเรือรบรัสเซียใกล้กับไครเมีย ซึ่งเดินทางผ่านน่านฟ้าของมอลโดวาช่วงสั้น ๆ ก่อนกลับเข้าสู่ยูเครนอีกครั้ง วิถีของขีปนาวุธอยู่ห่างจากชายแดนโรมาเนียไม่เกิน ๓๕ กิโลเมตร
รัสเซียไม่ได้แถลงชี้แจงหรือตอบโต้แต่อย่างใด แบบพูดน้อยต่อยหนักเสมอ แต่ส่งโดรนพลีชีพผิวน้ำถล่มเส้นทางลำเลียงอาวุธนาโต้พังยับแบบเซอร์ไพรซ์
สะพานรถไฟในเมืองซาโตกา (Zatoka) ภูมิภาค Odessa ของยูเครนถูกโจมตี โดยจุดนี้เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างยูเครนกับโรมาเนีย ถูกโจมตีจาก UAV กามิกาเซ่ผิวน้ำของรัสเซีย ซึ่งนาโต้ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงขนส่งอาวุธไปยังยูเครน ผลจากการโจมตีทำให้โครงสร้างเสียหายทันที
ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ ๑๐ ก.พ.ที่ผ่านมา กองกำลังการบินและอวกาศและกองทัพเรือรัสเซียได้เปิดฉากการโจมตีด้วยขีปนาวุธขนาดใหญ่ต่อพลังงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารในดินแดนของยูเครน ทั้่งในภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศ ตามการประมาณการของกองทัพยูเครน อ้างรัสเซียยิงขีปนาวุธร่อนประมาณ ๔๐ ลูกถูกใช้โจมตีในระลอกแรก
นอกจากนี้ยูเครนยังมีรายงานการระเบิดอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค อิวาโน-แฟรงคีฟสค์, คาร์คอฟ, ซาโปริชเชีย, ดเนโปรเปตรอฟ และลวอฟ(Ivano-Frankivsk, Kharkov, Zaporozhye, Dnepropetrovsk และ Lvov)
ก่อนหน้านี้ ยูรี อิคแนต (Yuriy Ignat) โฆษกของกองบัญชาการทางอากาศของยูเครนกล่าวว่าในตอนกลางคืนของวันที่ ๙ ก.พ.ที่ผ่านมา การป้องกันทางอากาศของกองทัพยูเครน “ได้ยิงโดรนพลีชีพ”ตก ๕ จาก ๗ ลำ ในขณะที่โดรนโจมตีของรัสเซียมีชื่อเรียกว่าเกราน (Geran) ในเคียฟ
เรื่องนี้ทำให้เกิดความสับสนในยูเครนเอง เนื่องจาก “ผู้ว่าการซาโปริชเชียฝ่ายยูเครน” อ้างว่ายูเครนถูกโจมตีโดยโดรนประมาณ ๔๐ ลำในตอนกลางคืน แล้วอะไรคือ”เกรานเจ็ดลำ ซึ่งห้าในจำนวนนี้ “ถูกยิง” ตามถ้อยแถลงของผู้บัญชาการกองบัญชาการทางอากาศของกองทัพยูเครน
คำแถลงของอิคเนตเอง เกี่ยวกับขีปนาวุธคาลิเบอร์ ที่ยิงมา ๕ ลูกก็ทำให้เกิดความงุนงงไม่น้อย ความจริงก็คือในตอนแรกฝ่ายยูเครนไม่ได้รายงานขีปนาวุธร่อนใด ๆ ที่ใช้โดยกองทัพรัสเซีย ในคืนวันที่ ๑๐ ก.พ. ทันใดนั้น Calibre ก็ปรากฏในรายงาน ยิ่งกว่านั้น พร้อมกับข้อความว่าส่วนใหญ่ถูกยิงตกด้วยการป้องกันทางอากาศของยูเครน
ในขณะเดียวกัน คลื่นขีปนาวุธร่อนก็พุ่งเข้าใส่เป้าหมายของศัตรูในช่วงเช้า มีการประกาศเตือนภัยทางอากาศทั่วยูเครน รวมทั้งเมืองหลวงและพื้นที่ทางตะวันตก
เรียกว่ารัสเซียแจกขีปนาวุธทั้งลูกยาว ฝูงโดรน ทั้งกลางคืนและกลางวันทำฝ่ายทหารของยูเครนสับสนไปหมด ขณะที่ลูกพี่ลั้ลลาเล่นบทฮีโร่ผู้นำพาชาวยูเครนตายแทนเมกา-ยุโรป!!??
