มอลโดวาวุ่น! ม็อบลุกฮือไล่รบ.โปรสหรัฐ ขณะรัสเซียรัวขีปนาวุธร่อน 40 ลูกใส่ยูเครน แต่ระบบต่อต้านวืดไม่ทำงาน
จากกรณีเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว ที่กองทัพรัสเซ๊ยได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน โดยทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ท่ามกลางอุณหภูมิต่ำและไม่มีเครื่องทำความร้อน ไม่มีน้ำ ไม่มีแหล่งพลังงาน ขณะเดียวกัน ภาวะขาดแคลนไฟฟ้ายังลุกลามไปถึงประเทศมอลโดวา ซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับยูเครนด้วย
ล่าสุดวันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2566) ทาง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ในมอลโดวา ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน โดยขณะนี้ การเมืองภายในประเทศก็วุ่นวาย ส่งผลให้ผู้นำประเทศประกาศลาออก โดยบอกว่า
กองทัพรัสเซียนั้น ไม่ได้ยิงขีปนาวุธพร่ำเพรื่อ แต่จะมีหน่วยข่าวกรองประมวลผลว่า ชาติ NATO ขนอาวุธและกระสุน รวมทั้งทหารรับจ้างมาพักรวมกัน หรือมีการซ่อมแซมโรงไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า มีการเริ่มใช้รถไฟขนย้ายอาวุธ เมื่อนั้นทางรัสเซียจึงจะยิงขีปนาวุธทำลายทุกสิ่งทิ้งรวบยอด จึงเป็นสาเหตุให้มีการทำลายคลังเก็บระเบิดของ NATO จนขาดสต็อคใช้อยู่บ่อยครั้ง ขนมาเติมเท่าไรก็ละลายไปส่วนใหญ่
ล่าสุดกองทัพรัสเซีย ปล่อยโดรนพลีชีพมากกว่า 40 ลำ ขีปนาวุธร่อนกว่า 40 ลูก จากเรือรบในทะเลและเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M3 แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศมหาเทพตะวันตกทั้งหลายวืดเหมือนเดิม จึงเกิดการโจมตีด้วยสารพัดลูกยาวโยนใส่ยูเครน ไปทั่วประเทศ เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก แคว้นใดมีอาวุธเทพของ NATO อยู่มากก็จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดขีปนาวุธรัสเซียมาถล่มมากตามไปด้วย
วันนี้เป้าหมายโรงไฟฟ้าที่ซ่อมเสร็จแล้ว เป็นเป้าหมายสำคัญที่จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ซ่อมเสร็จก็โดนโจมตีวนอยู่แบบนี้ และกองทัพเรือรัสเซียใช้โดรนทะเลกามิกาเซ่ทำลายสพานรถไฟที่เชื่อมแคว้นโอเดสซา กับโรมาเนีย และใช้ขนส่งอาวุธ NATO ตอนนี้พังเรียบร้อย ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน ผู้ใส่ชุดเดียวเที่ยวตลอดปี อัดคลิปลงโซเชียล อ้างว่าขีปนาวุธรัสเซียหลายลูกได้ข้ามน่านฟ้าของมอลโดวาและโรมาเนีย เป็นความท้าทายของ NATO
ที่ไม่กล้าๆ กลัวๆ สู้กับรัสเซีย ส่งผลให้เกิดความมั่นคงส่วนรวม เกิดความหวาดกลัวที่ชาวโลกต้องให้กู้อาวุธ NATO มารุมรัสเซียให้หยุดลง มอลโดวา พลเมืองราว 2.5 ล้านคน มีชายแดนติดกับยูเครน จึงเกิดการหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเข้ามาจำนวนมาก และด้วยระบบพลังงานที่ออกแบบเชื่อมโยงถึงกันมาตั้งแต่สมัยโซเวียต เมื่อยูเครนไฟฟ้าดับ ที่มอลโดวาก็จะไฟฟ้าดับไปด้วย
การคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ทำให้ต้นทุนค่าพลังงานของมอลโดวาแพง เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ประชาชนมีความเดือดร้อนแสนสาหัส อดอยาก เกิดม๊อบประชาชนลุกฮือต่อต้านรัฐบาล มายาวนานเดือน ปะทะกับตำรวจ สังคมไม่มั่นคง และมีจรวดต่อต้านอากาศยานของยูเครน ถูกยิงไปตกในดินแดนมอลโดวาบ่อยครั้ง
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีนาตาเลีย กาวริลิตา ผู้นำมอลโดวา ที่ครองอำนาจมา 18 เดือน ประกาศลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อย ส่งผลให้รัฐบาลโปรสหรัฐ พังทลายตามลงไปอีกชาติหนึ่ง ประธานาธิบดี Maia Sandu ของมอลโดวา โปรสหรัฐอีกราย ยอมรับการลาออกของรัฐบาลแล้ว ตามขั้นตอนทางกฎหมาย จะจัดการปรึกษาหารือกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ในรัฐสภา
จากนั้นจะเสนอชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้สภาโหวต แต่ม็อบประชาชนยังไม่ยอม ออกมาลงถนนประท้วงจำนวนมากกว่าเดิมจะโกนว่า รัฐบาลนางกาวริลิตา ลาออกแล้ว พวกเขาต้องการไล่ประธานาธิบดีไมอา ซานดู โปรสหรัฐด้วย ดูท่าคงจะไม่รอดอีกนานนัก
ปีแล้วมีรัฐบาลโปรสหรัฐ เกิดความวุ่นวายในสภาและม็อบนอกสภา ล้มลงไปเกือบ 10 ชุด ในจำนวนนี้ถี่สุดคืออังกฤษ 3 ชุด ปีนี้เริ่มต้นรัฐบาลล้มคว่ำที่มอลโดวา และปีนี้คงมีอีกหลายชาติตามมา ชาติที่เลือกพรรค และผู้นำโปรตะวันตก ที่อ้างประชาธิปไตย เสรีภาพ แต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ปัจจุบันหมดยุคของพวกเขาแล้ว เพราะรัฐบาลแบบนี้พิสูจน์แล้วว่าถูกสหรัฐ แทรกแซงบงการได้จนชาติหายนะแบบยูเครน ยุโรปหลายชาติ รวมทั้งมอลโดวาในขณะนี้
ยุคต่อไปคือ ยุคทองของผู้นำที่มุ่งรักษา “อำนาจอธิปไตย” และผลประโยชน์ของชาติและพลเมืองตนเอง ไม่ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน ไม่อ้างว่าฝ่ายตนคือประชาธิปไตยข้างเดียว ไม่เดินตามคำบงการสหรัฐ ตัวอย่างคือ พรรครัฐบาลฮังการี ต่อให้เลือกตั้งกี่ครั้งก็รวมเสียงในสภาแล้วเหนือฝ่ายค้านโปรตะวันตกที่อับแสงลงไม่ได้เกิดแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454