รัฐบาลปักกิ่งออกมาประณามสหรัฐ กรณีไบเดนให้สัมภาษณ์ออกสื่อ “วิพากษ์วิจารณ์” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอย่างไม่รับผิดชอบ ไม่หันมองดูตัวเองสร้างปัญหากระตุ้นสงครามทำโลกลำบาก กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกร้องวอชิงตันแม้ไม่ช่วยซีเรีย ก็ขอให้หยุดปล้นน้ำมันและธัญญพืชของซีเรียไปขายเสียหายกว่า ๘๐% มูลค่าที่ควรเป็นของประเทศเจ้าของทรัพยากร
นอกจากนี้ประเด็นสหรัฐฯยิงบอลลูนจีน ไบเดนยังป่าวร้องไม่หยุดว่าจีนตั้งใจสอดแนมข้อมูลทางทหารเพราะบินผ่านสถานที่เก็บนิวเคลียร์ แต่กลับมาเรียกร้องให้กลาโหมจีนกลับมาคุยกับกลาโหมสหรัฐฯทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องนี้จีนหักดิบไม่ขอคุย
วันที่ ๑๐ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า เหมา หนิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงประจำวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์พีบีเอส ออกอากาศในสัปดาห์นี้ มีเนื้อหาในตอนหนึ่งว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน “กำลังเผชิญกับปัญหามากมาย” รวมถึง “ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี” ว่า รัฐบาลปักกิ่ง “ไม่พอใจอย่างมาก”ต่อคำกล่าวนี้
“การใช้คำพูดลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลปักกิ่งไม่สามารถรับได้อย่างยิ่ง นอกจากเป็นการกล่าวอย่างไร้ความรับผิดชอบแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ผิดมารยาททางการทูตอีกด้วย”
ขณะเดียวกัน นางเหมาเน้นย้ำถึงกรณี “วัตถุต้องสงสัย” หรือบอลลูนที่เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐยิงชีปนาวุธโจมตีจนตก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าเป็น “บอลลูนสอดแนม”ที่ลอยเข้าไปในเขตน่านฟ้าของอีกฝ่าย ทั้งๆที่มันคือ “เรือเหาะเพื่อการเก็บข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา” การกล่าวหาของรัฐบาลวอชิงตันถือเป็น “เจตนาทำสงครามข่าวสาร” กับจีน
ไบเดนกล่าวถึงประเด็น “บอลลูนสอดแนม” ของจีน ในรายการของพีบีเอสสหรัฐฯด้วยว่า การตัดสินใจของเขาเป็นไปเพื่อการปกป้องอธิปไตยของสหรัฐ การที่บอลลูน “เจตนา” เคลื่อนตัวผ่านฐานทัพอากาศมาล์มสตรอมในรัฐมอนแทนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บหัวรบนิวเคลียร์ของสหรัฐ “บ่งชี้ชัดเจนว่าต้องการจารกรรมข้อมูล”
ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์บอลลูน กระทรวงกลาโหมของจีนได้ประกาศอย่างหนักแน่นเมื่อวันพฤหัสบดีว่าประเทศจีนปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการหารือระหว่างผู้นำกลาโหมทั้งสอง
ตัน เค่อเฟย โฆษกกระทรวงกลาโหม(Senior Colonel Tan Kefei, spokesperson)กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ ยืนกรานที่จะใช้กำลังโจมตีเรือเหาะไร้คนขับของพลเรือนจีน ซึ่งละเมิดหลักปฏิบัติระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี
ตันกล่าวย้ำว่า “เนื่องจากการกระทำผิดกฎหมายที่ขาดความรับผิดชอบของสหรัฐฯ ล้มเหลวในการสร้างบรรยากาศในการสื่อสารระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ จีนจึงไม่ยอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการเรียกร้องของหัวหน้าฝ่ายกลาโหม”
ประเด็นล่าสุดที่ทำให้จีนต้องออกมาเฉ่งสหรัฐฯอีก ก็คือเรื่องที่สหรัฐและสหภาพยุโรปต่างพากันทอดทิ้งซีเรีย ซึ่งได้รับความยากลำบากจากวิกฤตแผ่นดินไหวไม่ต่างกัน แต่สหรัฐฯนอกจากคงมาตรการคว่ำบาตรที่โหดร้ายต่อประชาชนซีเรียแล้ว ยังซ้ำเติมด้วยการปล้นทรัพยากรของเขา ทั้งน้ำมันและธัญญพืชอย่างไม่ละอาย
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า “สหรัฐฯ ควรจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อซีเรียทันที เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เขย่าหลายพื้นที่ของตุรกีและซีเรียในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า ๑๕,๐๐๐ คนแล้วในทั้งสองประเทศ”
เหมากล่าวประณามปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในซีเรียอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่ากองกำลังอเมริกันกำลังขโมยทรัพยากรพลังงานของประเทศในอัตราที่สูงลิ่ว
เธอกล่าวต่อว่า “ในขณะที่เราพูด กองทหารสหรัฐฯ ยังคงยึดครองพื้นที่ผลิตน้ำมันหลักของซีเรียต่อไป พวกเขาได้ปล้นสะดมมากกว่า 80% ของการผลิตน้ำมันของซีเรีย และลักลอบและเผาสต็อกธัญพืชของซีเรีย ทั้งหมดนี้ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมของซีเรียเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก”
แม้ว่าดามัสกัสจะประณามการมีอยู่ของกองทัพสหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเรียกร้องให้ยุติการยึดครองดินแดนอธิปไตยของตนอย่างผิดกฎหมาย แต่วอชิงตันก็ปฏิเสธที่จะขยับเขยื้อน ทหารสหรัฐเพียง ๑,๐๐๐ นายยังคงปฏิบัติการในพื้นที่ควบคุมของชาวเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงเหนือที่อุดมด้วยน้ำมันของซีเรีย เช่นเดียวกับพื้นที่ชายแดนทางใต้ที่ซึ่งพวกเขาฝังตัวอยู่กับกลุ่มกบฏอาหรับ
กลุ่มด้านมนุษยธรรม เช่นสภาเสี้ยววงเดือนอาหรับซีเรีย (SARC) และคณะกรรมการต่อต้านการเลือกปฏิบัติของชาวอาหรับอเมริกันซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรแต่สหรัฐฯเมิน
คาเลด โบบาตี(Khaled Hboubati) ประธานสภาเสี้ยววงเดือนฯ กล่าวว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐกำลังสร้างอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับความพยายามในการบรรเทาทุกข์“”กระบวนการอพยพและปฏิบัติการกู้ภัยถูกจำกัดเนื่องจากอุปสรรคอันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตรขั้นรุนแรง เราขาดแคลนเครื่องจักรหนักและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการยกซากปรักหักพัง”