จากที่ ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยถึงพฤติกรรมของสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ที่ได้สั่งอายัดทองคำที่รัฐบาลเวเนซุเอล่าฝากไว้ในธนาคารอังกฤษ แต่เมื่อเห็นซีเรียประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว เวเนซุเอล่าก็ไม่นิ่งนอนใจ ส่งคนไปช่วยเหลือนั้น
ต่อมาวันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยังออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงท่าทีของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียูต่อกรณีซีเรีย ซึ่งมีบางส่วนที่สำคัญน่าสนใจว่า
“ชาติอียุบอก:ซีเรียไม่ได้ขอให้ช่วย จะช่วยทำไม?’:แม้ว่าซีเรียและตุรเคียจะเจอภัยจากแผ่นดินไหวอย่างหนัก แต่ชาติตะวันตก ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร แรกๆมีสื่อไปถามเหมือนกันว่าเหตุใดไม่ช่วย? ชาติตะวันตกตอบว่าซีเรีย และตุรเคียไม่ได้ขอให้ช่วย!ตอนนี้มีข่าวมาพอสมควรว่าหลายชาติส่งความช่วยเหลือไปแล้ว
ปัญหาใหญ่สำหรับชาวยุโรปและอเมริกาก็คือขณะนี้ อเมริกาสั่งให้กลุ่มประเทศอียูและประเทศอื่นๆ คว่ำบาตรซีเรียและตุรเคียโดยเฉพาะซีเรีย อเมริกาห้ามมิให้ใครค้าขายหรือเดินทางไปช่วยเหลือใดๆ ต้องขออนุญาตตนก่อน กองทัพอเมริกายังปล้นน้ำมันซีเรียเป็นประจำ ปล้นข้าวสาลีหรือแอบเผาข้าวสาลีชาวซีเรียอยู่เป็นประจำ
รัฐบาลเวเนซูเอล่าส่งของมาให้ซีเรีย ใช้เวลาบินมา ๑๒ ชั่วโมง ข่าวบอกว่าพอมาถึงเขตแดนซีเรีย นักบินเวเนซเอล่าต้องฝ่าคำสั่งห้ามช่วยเหลือซีเรียของรัฐบาลอเมริกาเข้าไป จึงสามารถนำส่งของให้รัฐบาลซีเรียได้ตามเป้า”
ล่าสุดวันนี้ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ดร.ปฐมพงษ์ ยังโพสต์เผยแพร่ข้อมูลของรัฐบาลซีเรีย ที่โดนรัฐบาลสหรัฐกระทำบางอย่างไว้อย่างน่าติดตามถึงข้อเท็จจริงอีกว่า
“แผนที่ประเทศซีเรียในปัจจุบัน ที่เห็นเป็นสีเลือดหมูคือพื้นที่ซึ่งชาวเคิร์ดยึดครอง และเป็นแหล่งบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในซีเรีย คิดเป็น ๑ ใน ๓ ของพื้นที่ซีเรียทั้งหมด
รัฐบาลอเมริกาได้ส่งกองทัพของตนเข้าไปอย่างผิดกฎหมายแล้วตั้งฐานทัพบริเวณชุมชนชาวเคิร์ดนี้ จากนั้นก็ยึดบ่อน้ำมัน และปล้นน้ำมันในบ่อน้ำมันซีเรีย ไปใช้รายวันมาจนกระทั่งบัดนี้
ไม่เพียงเท่านั้น กองทัพอเมริกายังปล้นข้าวสาลีหรือแอบเผาข้าวสาลีของชาวซีเรียเป็นประจำ เพื่อให้ประชาชนซีเรียอดอยาก แถมยังประกาศคว่ำบาตรรัฐบาลซีเรีย มิให้ชาวโลกทำมาค้าขายด้วยอย่างไร้มนุษยธรรม
เลวร้ายกว่านั้นคือ ๑.กองทัพอเมริกันยุให้ชุมชนชาวเคิร์ดแยกดินแดนจากประเทศซีเรียแล้วให้ตนปกครอง ๒.ทำหน้าที่รวบรวมข่าวกรองในซีเรียเพื่อเป็นข้อมูลให้อิสราเอลหาจังหวะใช้เครื่องบินเข้ามาโจมตีค่ายทหารซีเรียอีกด้วย อเมริกาทำประหนึ่งว่าการปล้นทรัพยากรธรรมชาติประเทศอื่น และการส่งทหารไปรุกรานประเทศอื่นถูกต้องตามกฎหมายของตนไปแล้ว
แม้ว่าเบื้องหลังจะก่ออาชญากรรมไปทั่ว แต่รัฐบาลอเมริกาเก่งในทางสร้างภาพทางสื่อให้คนเข้าใจว่าตนเองคือตำรวจโลก เป็นประชาธิปไตยและเคารพสิทธิมนุษยชน
ที่น่าสมเพชคือยังมีนักรัฐศาสตร์ของไทย ทั้งน้อยทั้งใหญ่จำนวนมาก หลับหูหลับตาเชื่อวาทกรรมอเมริกาเหล่านี้เหมือนไม่มีสมองคิดไตร่ตรองอะไรเลย
ผมเคยไปนั่งบรรยายร่วมกับนักรัฐศาสตร์ขาเชลียร์อเมริกา เห็นหลับหูหลับตาเชียร์อเมริกาเหมือนท่องจำมาจากตำราเป๊ะ เสียเวลานั่งฟังเปล่าๆ พวกที่ใช้วิชาชีพอย่างมีภยาคติแบบนี้ ไม่ควรให้โอกาสพูดให้ใครฟัง เพราะไม่ได้พูดเรื่องจริงครับ”
