ภายใต้ข้ออ้างความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซีย เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนได้ทำลายระบอบประชาธิปไตยในประเทศเกือบหมดสิ้นด้วยการสมรู้ร่วมคิดของเมกาและบริวารตะวันตก เมื่อพ่ายแพ้ทางทหารต่อกองทัพรัสเซียมากขึ้นจนปิดไม่อยู่ ก็เปลี่ยนเป้าหมายไปทำลายล้างพลเมืองมากขึ้น ทั้งในภูมิภาคใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมกับรัสเซียและเมืองชายแดนของรัสเซียในลักษณะวินาศกรรมและก่อการร้ายมากขึ้น ล่าสุดเพื่อตอบโต้พฤติกรรมทำลายชาวบ้านหนักข้อของเคียฟ กองทัพรัสเซียจึงรุกรบหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม มุ่งเป้าโจมตีแหล่งคลังกระสุนใหญ่ของเคียฟ-นาโต้ พร้อมกับการโจมตีแบบปูพรมพร้อมกันใน ๒๔ ชั่วโมง

วันที่ ๙ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีคลังกระสุนยูเครน รวม ๕ แห่ง ถล่มหน่วยปืนใหญ่ของยูเครน ๗๔ หน่วยกำลังคนและอุปกรณ์ในพื้นที่กว่า ๑๒๐ แห่งในช่วงวันที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน
โฆษกกล่าวว่า “ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา เครื่องบินปฏิบัติการทางยุทธวิธีและการบินกองทัพ กองกำลังขีปนาวุธ และปืนใหญ่ของกลุ่มกองกำลังรัสเซียได้โจมตีหน่วยปืนใหญ่ยูเครน ๗๔ หน่วยที่ตำแหน่งการยิง กำลังคน และยุทโธปกรณ์ทางทหารในพื้นที่ ๑๒๓ แห่ง”
เครื่องบินรบและปืนใหญ่ของรัสเซียโจมตีกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของยูเครนในพื้นที่คูเปียนสค์ (Kupyansk)ทำลายทหารข้าศึกกว่า ๓๕ นายในวันที่ผ่านมา
เขาระบุว่า “เครื่องบินจู่โจมและการบินของกองทัพบกและปืนใหญ่ของกลุ่มการสู้รบตะวันตก ได้โจมตีกำลังคนและอุปกรณ์ของหน่วยจากกองพลยานยนต์ที่ ๑๔ และ ๙๒ ของกองทัพยูเครนใกล้กับการตั้งถิ่นฐานของเมืองโอลชานา (Olshana), เปอร์โชตราฟเนวอย(Pershotravnevoye), ครัคมัลนอย(Krakhmalnoye) และ เบอร์เรสโตวอย(Berestovoye) ในภูมิภาคคาร์คอฟและ โนวอสโยลอฟสกอย (Kharkov and Novosyolovskoye) ใน สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์”
ในพื้นที่ Krasny Liman กองกำลังรัสเซียกำจัดทหารยูเครนกว่า ๑๓๐ นาย เครื่องบินปฏิบัติการทางยุทธวิธีและการบินของกองทัพบก ปืนใหญ่และเครื่องพ่นไฟหนักของ Battlegroup Center สร้างความเสียหายให้กับกำลังพลและอุปกรณ์ของกองทัพยูเครนที่ ๖๖ หน่วยยานยนต์ที่ ๒๕ หน่วยบินโจมตีทางอากาศที่ ๙๕ และ กองพลเคลื่อนที่ทางอากาศที่ ๘๑” การโจมตีดังกล่าวทำลาย ยานรบทหารราบ ๑ คัน ยานเกราะต่อสู้ ๓ คัน และเครื่องยิงจรวด Grad หลายคัน”
กองกำลังรัสเซียยังได้ทำลายคลังกระสุนของยูเครนในเขตคาร์คอฟ
ในพื้นที่โดเนตสค์กองกำลังรัสเซียกำจัดทหารยูเครนกว่า ๑๔๐ นาย ทำลายรถถัง ๑ คัน รถกระบะ ๓ คัน ยานยนต์ ๓ คัน และปืนครก Msta-B ผลงานโดยทีมจู่โจมของกลุ่มการรบทางตอนใต้
โฆษกกล่าวเสริมว่า “กองกำลังรัสเซียยังได้ทำลายคลังกระสุนของยูเครนอีก ๒ แห่งใกล้กับชุมชนแอฟเดเยฟก้า (Avdeyevka) และสเลฟยันสค์ (Slavyansk) ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์”
ทางตอนใต้ของโดเนตสค์กองกำลังรัสเซียกำจัดทหารยูเครนประมาณ ๗๕ นายในพื้นที่ทางตอนใต้ของโดเนตสค์ การบินของกองทัพและปืนใหญ่ของกลุ่มการรบทางตะวันออกสร้างความเสียหายให้กับหน่วยของยานยนต์ที่ ๗๒ ของกองทัพยูเครน รถถังที่ ๑ คัน และกองพลนาวิกโยธินที่ ๓๕ ใกล้กับเมืองอูเกลดาร์ (Ugledar) และวอดยานอย (Vodyanoye) ทำลายรถถัง ๑ คัน ยานรบทหารราบ ๑ คัน รถหุ้มเกราะ ๓ คัน และยานยนต์ ๒ คัน
ในพื้นที่เคอร์ซอน ทำลายกองทหารปืนครกของยูเครนด้วยการยิงตอบโต้ใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองโอลกอฟก้า (Olgovka)
กองกำลังรัสเซียทำลายโรงงานผลิตเครื่องบินในเมืองคาร์คอฟ (Kharkov) ซึ่งเป็นสถานที่ปรับปรุงยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ และอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการปล้นสะดมของกองทัพยูเครนก็หายไป
กองกำลังรัสเซียกวาดล้างคลังกระสุนและเชื้อเพลิงของยูเครน ๓ แห่งในโดเนตสค์ด้วยการยิงปืนใหญ่ ในพื้นที่ใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของโนโวมิไคลอฟก้า (Novomikhailovka), อูเกลดาร์(Ugledar) และโดบรอฟวอย (Dobrovolye)
นอกจากนี้ ได้ถล่มกองบัญชาการกองพลโจมตีทางอากาศที่ ๗๙ ของกองทัพยูเครนใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของเมืองคราสโนโกรอฟกาในโดเนตสค์ด้วย
โฆษกกล่าวว่า “ในช่วงวันที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียได้ทำลายจรวด HIMARS อีก ๑๑ ลูกและยานบินไร้คนขับของยูเครน ๑๐ ลำในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์, ลูฮันสค์, ซาโปริชเชีย, เคอร์ซอน และคาร์คอฟ
สรุปโดยรวมแล้ว กองทัพรัสเซียได้ทำลายเครื่องบินรบยูเครน ๓๘๒ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๒๐๖ ลำ ยานพาหนะไร้คนขับ ๓ คัน ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ๔๐๓ คัน รถถังและยานเกราะต่อสู้อื่นๆ ๗,๗๘๙ คัน เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ๑,๐๑๑ กระบอก ปืนใหญ่สนามและปืนครก ๔,๐๒๒ กระบอก และยานยนต์พิเศษทางทหาร ๘,๒๙๑ คัน นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน
ข้อมูลที่ทางการรัสเซียรายงานเก็บตัวเลขมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่มีตกหล่น สะท้อนความพ่ายแพ้ของกองทัพยูเครนและนาโต้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ทำให้เมกาต้องทุ่มเงินและอาวุธชั้นสูงมากขึ้น พร้อมทั้งเร่งบีบให้ยุโรปส่งอาวุธทั้งภาคพื้นดินและท้องฟ้ามาช่วย เพื่อให้เป็นหลักในการยันกับรัสเซียในภูมิภาคนี้ ส่วนตัวเองไปลุยกระตุ้นสงครามขัดแย้งในเอเชีย-แปซิกฟิกต้านจีนหนักขึ้น นานาชาติเริ่มมองเห็นความจริงที่ว่า สหรัฐฯคือตัวปัญหาหลักของโลกที่ต้องการสร้างสงครามแก้ปัญหาความล้มเหลวของตนเอง ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ประชาธิปไตยและสันติภาพของโลกอย่างที่กล่าวอ้าง!!