ในการต่อสู้สมัยใหม่ หน่วยงานที่ก้าวหน้าทั้งหมดในการต่อสู้โรมรัน สำหรับภาคพื้นดิน รถถังและกลุ่มยานเกราะเบาเคลื่อนที่ได้ต้องการพื้นที่โล่งสำหรับพื้นที่ปฏิบัติการ แน่นอนถ้าคุมพื้นที่ได้ ก็สามารถวาดดวงจันทร์บนพื้นดินด้วยปืนใหญ่ได้มากเท่าที่ต้องการ หากจะใช้การบินต่อสู้นั่นคือจะต้องควบคุมท้องฟ้า และผู้นั้นจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์อย่างแท้จริง
ตอนนี้ความเท่าเทียมกันบางอย่างได้พัฒนาขึ้นในแนวรบรัสเซีย – นาโต้ กองทัพอากาศยูเครนและกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียไม่สามารถแสดงภาพใด ๆ ได้โดยถูกผูกมัดความเหนือกว่าด้วยการทำงานของระบบป้องกันภัยทางอากาศอย่างเดียว แต่ไม่ว่าในกรณีใดภาพนี้จะต้องเปลี่ยนไป และหน่วยบัญชาการทหารของกองทัพยูเครนกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำเช่นนั้น โดยเร่งขอเครื่องบินรบและฝึกลูกเรือด้วยวิธีที่เป็นไปได้ทั้งหมด จากนั้นลดการสูญเสียจากขีปนาวุธร่อนของรัสเซียและโดรนของพลีชีพ จึงให้การสนับสนุนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แก่กองทหารที่กำลังจะมาถึงของนาโต้-เคียฟ ทุกอย่างค่อนข้างสมเหตุสมผล
วันที่ ๘ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวและยูเรเซี่ยนไทมส์ รายงานว่า หลังจากที่ฝรั่งเศสประกาศจะส่ง มิราจ๒๐๐๐(2000) ให้ยูเครนมาสู้รบกับรัสเซีย มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะส่งบินรบ Su-30 เข้าประกบ
ฝรั่งเศสมีความโดดเด่นในเรื่องการส่งมอบยุทโธปกรณ์ภาคพื้นดินให้กับกองทัพยูเครน เช่นปืนอัตตาจรซีซาร์, ปืนครกลากจูง TRF1, LRU MLRS, ระบบป้องกันภัยทางอากาศโครทัล (Crotal) และรวมถึงสัญญาของรถถัง ล้อ AMX-10 RC แต่ความสนใจของทหารฝรั่งเศสไปไกลกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าชาวยูเครนจะไม่ได้เห็น ราฟาเล(Rafale)ของกองทัพอากาศฝรั่งเศส แต่จะได้ Mirage 2000 ซึ่งประมาณ ๓๐๐ เครื่องยังคงประจำการในกองทัพอากาศของสาธารณรัฐ และอีก ๑๐๐ เครึ่งทั่วโลก ค่อนข้างเหมาะสำหรับบทบาทของของขวัญที่มีน้ำใจให้ยูเครนสู้ต่อไป
สงครามโดยทั่วไปเป็นโอกาสที่ดีที่จะตัดเครื่องบินเก่าออกและโหลดตามคำสั่งสำหรับโรงงานทางทหารใหม่ และเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสได้แสดงให้เห็นสิ่งนี้ในแนวทางที่ดีที่สุดด้วยนโยบายของพวกเขา เนื่องจากมิราจไม่ได้ผลิตมาเป็นเวลานานและถูกถอนออกจากกองทัพอากาศฝรั่งเศส และถูกแทนที่ด้วยราฟาเล
รัฐบาลของประเทศได้ระบุไว้อย่างเป็นทางการแล้วว่า “ราฟาเล” ไม่ได้ส่องแสงสำหรับยูเครน แต่เป็น “มิราจ” สื่อฝรั่งเศสเปิดเผยว่าการเจรจากำลังดำเนินอยู่ โดยทั่วไปแล้ว นี่เป็นวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมกัน ประเด็นทางการเมืองในฐานะนักสู้เพื่อทุกสิ่งที่ดีต่อทุกสิ่งที่เลวร้าย การกำจัดอุปกรณ์เก่าและผลิตใหม่ ผลประโยชน์จะตกถึงพวกเขา นั่นคือ – เงินดีกำไรงาม
ดังนั้น Mirage 2000 จึงมีโอกาสที่จะอยู่บนท้องฟ้าของยูเครน การพิจารณาปัญหานี้ผ่านสายตาของรัสเซียเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การพิจารณา ท้ายที่สุด หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าจะเป็นการเดินที่ง่ายดาย แม้ว่าฝรั่งเศสจะตระหนักดีถึงความสามารถของระบบป้องกันภัยทางอากาศและเครื่องบินรบของรัสเซียว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหนก็ตาม
โดยทั่วไปแล้ว Mirage 2000 เป็นเครื่องบินขนาดเบาบนแพลตฟอร์มเดียวกับ MiG-29 แต่ MiG-29 กำลังค่อยๆ ถูกถอนออกจากเขตสู้รบ ดังนั้นโอกาสที่จะพบเพื่อนร่วมรุ่นจึงมีน้อยมาก แต่การกำเนิดของ Su-27 ที่ตามมาซึ่งกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียมีอยู่ในปัจจุบันนั้นง่ายมากรวมถึง Su-30 ด้วยเหมือนกัน
ทำไมต้อง “ซู-สามสิบ”? เพียงเพราะเครื่องบินลำนี้จะสามารถพบได้บ่อยที่สุดในเขต่อสู้ ในฐานะเครื่องบินรบ เพราะมีอยู่พร้อมสรรพในคลังของรัสเซียสั่งเมื่อไหร่ก็ออกมาอวดโฉมเมื่อนั้น
“มิราจ” เป็นเครื่องบินที่ดีมาก น้ำหนักเบามันสามารถบรรทุกกระสุนน้อยกว่า Su-30 เพียง ๒ ตัน “มิราจ” ในปี 2000 เขาได้พบกับ Su-30 เฉพาะในการต่อสู้ทางทฤษฎีและการฝึกอบรมที่จัดขึ้นทางตะวันออก นั่นคือในกองทัพอากาศอินเดียซึ่งเครื่องบินรบทั้งสองประจำการอยู่ ยิ่งกว่านั้น Su-30 ยังอยู่ในปริมาณสองเท่าของจำนวนที่เปิดเผยในกองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซีย
นักวิจัยชาวอินเดียมีโอกาสได้ศึกษาเครื่องบินทั้งสองลำอย่างใกล้ชิด และจากผลการวิจัยของพวกเขา เราสามารถคาดการณ์ได้ในกรณีที่เครื่องบินของฝรั่งเศสปรากฏบนท้องฟ้าของยูเครน
Su-30 ยังคงไว้และทวีคูณคุณลักษณะทั้งหมดของ Su-27 ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของมัน ได้กลายเป็นเครื่องบินขับไล่ลำแรกของรัสเซียที่ได้รับความเหนือกว่าในการสู้รบทางอากาศ เครื่องบินอยู่ในประเภทของเครื่องบินรบหนักนั่นคือ – มวลมาก, สองเครื่องยนต์, ความสามารถในการอยู่รอดเพิ่มเติม, ระยะยิงและ ความสามารถในการใช้อาวุธมากขึ้น
คุณสมบัติหลักของ Su-27และ Su-30 คือความสามารถในการใช้การรบแบบอิสระ การแก้ปัญหาของภารกิจโจมตี โดยปราศจากการกำหนดเป้าหมายและการวางแนวจากศูนย์ควบคุมภาคพื้นดิน รวมถึงบุกเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนศัตรู
Mirage 2000 เป็นเครื่องบินขับไล่แบบคลาสสิก มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องบินรบป้องกันภัยทางอากาศ โดยส่วนใหญ่ใช้ช่องทางข้อมูลจากศูนย์ควบคุมภาคพื้นดิน โดยธรรมชาติแล้วมีรัศมีการต่อสู้ที่เล็กกว่ามากและมีอาวุธน้อยกว่า
คุณสมบัติหลักและจุดอ่อนในเวลาเดียวกันนั้นอยู่ที่ความจริงที่ว่า Mirage นั้นอ่อนแอมากในแง่ของการปฏิบัติการในระยะทางที่ไกลจากศูนย์กำหนดเป้าหมายและสนามบิน ปัจจัยหลักในการประเมินระดับความสามารถทางเทคนิคและการรบของเครื่องบินคือประสิทธิภาพการบิน ชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบิน และชุดอาวุธ เปรียบเทียบกันแล้ว มิราจของฝรั่งเศสยังห่างชั้นกับซู-๓๐ ของรัสเซียมากนัก ดังนั้นหากเราพูดถึงความจริงที่ว่า Mirages จะกลายเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อทำให้ยูเครนเหนือกว่าก็ยิ่งไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม การมีภาพลวงตายังดีกว่าไม่มีอะไรเลย มันคือข้อเท็จจริง เครื่องบินที่คุ้มค่าแต่ล้าสมัยชุดนี้จะไม่ได้รับชัยชนะ อย่าหลอกตัวเองเลยว่าทั้งเคียฟและปารีสกำลังทำเงิน ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้!!?
