จากที่มีรายงานถึงผู้นำอังกฤษสั่งตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งการส่งอาวุธโละสต็อคไปให้ยูเครน ขณะเดียวกันก็ยังไม่ผลิต หรือ จัดซื้ออาวุธใหม่นั้น
ล่าสุดวันนี้ 06 กุมภาพันธ์ 2566 Blockdit World Update ออกมาเผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญในการเคลื่อนไหวของผู้นำอังกฤษอีกครั้งว่า “เมื่อก่อนนี้ สหราชอาณาจักร อยู่ในสหภาพยุโรป (EU) แต่เสือ 2 ตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ สหรัฐ จึงวางแผนให้อังกฤษ ออกจากกลุ่ม EU ก่อน เพื่อจะได้ตลบหลังทำสงครามการค้าทุบเยอรมนีและ EU ได้อย่างถนัดมือ
ปี 2559 พลเมืองสหราชอาณาจักร 51.8% ลงประชามติเห็นชอบให้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หลังจากเป็นสมาชิกมา 47 ปี
ปี 2563 อังกฤษ ออกจากกลุ่ม EU โดยสมบูรณ์ แต่ยังคงอยู่ในตลาดเดียวของสหภาพยุโรป และสหภาพศุลกากร อังกฤษ และ EU สามารถเจรจาข้อตกลงการค้าและความร่วมมือในช่วงเวลาดังกล่าว ตั้งแต่นั้นมาสหรัฐ ก็ทำสงครามการค้ากับ EU อย่างหนักชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่ยังไม่สบช่องคว่ำ EU ลงได้ สงครามการค้าอังกฤษ กับ EU ก็ดุเดือดไม่แพ้กัน จน 3 ปีที่ผ่านมาทั้งอังกฤษ และ EU อ่วมด้วยพิษเศรษฐกิจตกต่ำไปด้วยกัน
ปี 2565 สหรัฐ สบช่องทำลาย EU โดยปั่นสงครามยูเครน บีบบังคับให้ EU ไปตกหล่มสงคราม และเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย เพื่อยืมมือมาทำลายสหภาพยุโรปให้จมธรณี
กลางปีที่แล้วช่วงสงครามขยายตัว อังกฤษก็แผลงฤทธิ์ซ้ำเติมเล่นงาน EU ดอกแรก โดยรัฐบาลอดีตนายกจอห์นสัน ออกกฎหมายแก้ไขพิธีสารไอร์แลนด์เหนือเพียงฝ่ายเดียว เกิดความขัดแย้งตึงเครียดระหว่างสหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปทวีความรุนแรงขึ้นทันที เนื่องจากทำให้เกิดความล่าช้าและการหยุดชะงักในการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับส่วนอื่นๆ ของ EU
การเปลี่ยนแปลงกฎภาษี ทำให้ศาลยุโรปขาดบทบาทในฐานะผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแต่เพียงผู้เดียว กระตุ้นความโกรธของสหภาพยุโรป ดำเนินการทางกฎหมายกับอังกฤษ
กลุ่ม EU ยุยงไอร์แลนด์เหนือ ที่สมัครเป็นสมาชิก EU ให้แยกประเทศออกจากสหราชอาณาจักร รัฐบาลอังกฤษ สวนกลับโดยพยายามถ่วงเวลาการเจรจาต่อรองกับ EU ให้ยืดเยื้อและซับซ้อน เพื่อพยายามที่จะหย่าร้างขาดจากกลุ่ม EU เบ็ดเสร็จ
สหราชอาณาจักร เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ผลัดผู้นำรัวๆ อีก 2 ครั้ง เป็นนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak เชื้อสายอินเดีย เขาแสบมาก เมื่อสมคบกับสหรัฐ หลอก EU ไปติดหล่มสงครามยูเครน จนเศรษฐกิจย่ำแย่ถดถอยพังกันทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะเยอรมนีเป้าหมายหลักอาการหนักสุด GDP ปีที่แล้วถึงติดลบ -0.2% คลังถังแตกต้องกู้เพิ่มอื้อ
ผู้นำอังกฤษ คนใหม่จึงวางแผนเจาะยาง EU ทุบกระหน่ำซ้ำโดยการตั้งเป้ายกเลิกกฎหมายของสหภาพยุโรป จำนวนกว่า 2,400 ฉบับภายในสิ้นปี 2566 เปิดสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบแทง EU ข้างหลังช่วงล้ม
โดยมีสหรัฐ ออกกฎหมายกีดกันการค้า EU และแกล้งดันหลังเข้าสู่สงครามยูเครนตลอดเวลา ทำให้ EU ห่วงหน้าพะวงหลัง ทำสงครามรอบด้านไปหมด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าผู้นำสหภาพยุโรปกำลังกัดฟันสู้อังกฤษ ประชุมลับในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เตรียมมาตรการตอบโต้ฝ่ายเดียวเอาคืนอังกฤษ มาตรการเหล่านี้ เช่น กำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้าของสหราชอาณาจักรที่เข้าสู่ตลาดเดียวของสหภาพยุโรป ฯลฯ
เปิดสงครามการค้าหวังจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ภายในปีนี้มวยคู่เอกระหว่างมุมแดงฝ่ายสหรัฐ อังกฤษ กับมุมน้ำเงินฝ่าย EU นำโดยเยอรมนี ฝรั่งเศส จะปะทะกันเดือดไม่น็อคเอ้าท์ไม่เลิก
ถ้าขืนฝ่าย EU ยังติดชนักหลังตกหล่มสงครามยูเครน เป็นปฏิปักษ์รัสเซีย คงไม่รอดถูกฝ่ายสหรัฐ และผู้นำอังกฤษเชื้อสายอินเดีย ทุบเศรษฐกิจยำใหญ่ทรุดหนัก”