จากกรณีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 เว็บไซต์ TOP WAR ของรัสเซีย ได้รายการเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในเมืองเครเมนนายา โดยสะพานใกล้กับ Kremennaya กลายเป็นสถานที่ชำระบัญชีอุปกรณ์ของกองทัพยูเครนนั้น
โดยสำหรับเนื้อหาบางช่วงระบุว่า กองทหารรัสเซียควบคุมการยิงอย่างต่อเนื่องเหนือหนึ่งในเส้นทางเสบียงสำหรับหน่วยงานของกองทัพยูเครนใกล้กับเมืองเครเมนนายา
กองกำลังยูเครนส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ในส่วนนี้ของแนวหน้าได้รับเสบียง ยุทโธปกรณ์ และกำลังเสริมตามถนนสายเดียวเท่านั้น ทำให้เครื่องบินรบของ RF Armed Forces สามารถทำลายยุทโธปกรณ์ของข้าศึกได้เป็นประจำ สถานที่ที่ดีได้รับเลือกให้เอาชนะข้าศึก ยานเกราะของยูเครนถูกบังคับให้ชะลอความเร็วที่หน้าสะพานที่ทรุดโทรมซึ่งสูญเสียช่วงหนึ่งไป
แม้ว่าเครื่องบินรบของรัสเซียจะทำลายยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครนบริเวณสะพานใกล้กับเครเมนนายาเป็นประจำ แต่กองบัญชาการของยูเครนยังคงใช้เส้นทางดังกล่าวในการจัดหากำลังพล เนื่องจากไม่มีเส้นทางเสบียงสำรอง หลังจากการสูญเสียแต่ละครั้ง ทีมของกองทัพยูเครนถูกส่งมาที่นี่ ซึ่งมีหน้าที่ในการเคลียร์ทางจากซากยานพาหนะ และทุกอย่างเริ่มต้นใหม่
ทั้งนี้ต่อมา Blockdit World Update ก็ออกมาเปิดเผยไว้เมื่อวันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงการโจมตีสะพานระหว่างการสู้รบของรัสเซียกับยูเครนด้วยว่า
“ล่าสุดเกิดความชอกช้ำขึ้นกับกองกำลังผสมอีกครั้ง เมื่อมีคำสั่งให้พวกเขาพยายามสร้างสะพานข้ามแม่น้ำดนีเปอร์ บริเวณแคว้นเคอร์ซอน ที่ฝ่ายรัสเซียควบคุมแม่น้ำทั้งหมด รวมทั้งบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ
แต่เมื่อถึงกลางแม้น้ำ กองกำลังผสมโดนประเคนอาวุธสารพัดโจมตีมาจากฝั่งบนบกด้านตะวันออกของแม่น้ำ ทหารกองกำลังผสมกลายเป็นเป้านิ่งกลางแม่น้ำสูญเสียครั้งใหญ่กลายเป็นอาหารปลา และบาดเจ็บจำนวนมาก
อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารที่หวังจะขนข้ามแม่น้ำจมหายไปใต้แม่น้ำพร้อมสะพานที่กำลังสร้าง นี่คือบทพิสูจน์หลักฐานความมีประสบการณ์ของกองทัพรัสเซีย ที่ถอนทหาร และขนย้ายพลเรือนข้ามแม่น้ำดนีเปอร์ ที่แคว้นเคอร์ซอนไป
เพราะแม่น้ำที่ลึกและกว้างใหญ่ คือ ปราการธรรมชาติ กลศึกพื้นฐานมาแต่โบราณ แสดงว่าฝ่าย NATO เก่งแต่คุยโวทฤษฏีตำรา แต่ขาดทักษะประสบการณ์การรบจริง กลยุทธห่างชั้นจากฝ่ายรัสเซียมาก
การทำสงครามนั้นแม่ทัพจะใช้แต่กำลัง และดื้อดึงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเชี่ยวชาญกลศึกและใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ ตั้งแต่รัสเซียถอนทหารข้ามแม่น้ำดนีเปอร์มา พวกเขาก็ปล่อยลูกยาวโจมตีไปที่อีกฝั่งของแม่น้ำลึกไปจนสุดระยะยิงหลายสิบ กม. ตลอดเวลา สร้างความบอบช้ำเสียหายให้ฝ่ายกองกำลังผสมจำนวนมาก โดยไม่ต้องใช้ทหารรัสเซียเลยแม้แต่นายเดียว
ขืนแม่ทัพกองกำลังผสมนั่งอยู่ในออฟฟิศ แล้วสั่งให้ทหารฝ่ายตนต่ออุปกรณ์ข้ามแม่น้ำ ท่ามกลางอาวุธรัสเซียแบบนี้ ต่อให้ส่งทหารมาเท่าไร ก็ไม่มีทางได้ยกพลขึ้นบกขึ้นฝั่งรัสเซียได้ เต็มที่พวกเขาก็เป็นอาหารปลาอยู่กลางแม่น้ำแน่นอน”