รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวคำปราศรัยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อทางการของรัสเซียระบุว่า วิกฤตในยูเครนยังตึงเครียดอยู่ในระดับแนวหน้า มอสโกว์ถูกขังอยู่ในการต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์กับวอชิงตัน โดยสหรัฐฯกีดกันอียูจากการแสดงท่าทีที่เป็นอิสระ และพันธมิตรชาติตะวันตกไม่ต้องการให้การสู้รบยุติลง ทั้งยังประเมินว่ามอลโดวาจะตกอยู่ในฐานะ ‘ยูเครนรายต่อไป’
เขากล่าวย้ำว่า การจัดหาอาวุธระยะไกลจากตะวันตกไปยังเคียฟ ในที่สุดจะบีบให้มอสโกว์ต้องผลักดันกองทัพยูเครนให้ถอยห่างจากพรมแดนมากขึ้น
วันที่ ๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อทีวีในหลายประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน โดยจัดประเด็นร้อนสำคัญๆโดยย่อใน ๖ เรื่องคือ
๑.ยูเครนเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์ ประเทศตะวันตกต้องการคว่ำบาตรรัสเซียให้เป็นอัมพาต เพื่อเพื่อให้รัสเซียเข้าสู่“ทศวรรษแห่งการถดถอย” เขาอ้างถึงคำพูดของประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอนที่ว่า “เราอยู่ในศูนย์กลางของการต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ต้องสงสัยเลย”
ทหารรัสเซียที่สู้รบในยูเครนล้วนเป็น“วีรบุรุษ”ซึ่งกระทำการเพื่ออนาคตของมนุษยชาติ ซึ่งจะโค่นทำลายการเป็นเจ้าโลกของสหรัฐโดยสมบูรณ์”
๒.ความเชื่อของสหรัฐในความพิเศษของตนมั่นใจว่าจะทำลายรัสเซียสำเร็จ
สหรัฐฯ“ปราบปราม”นักการเมืองยุโรป คว้า“ร่องรอยสุดท้ายของความเป็นอิสระ”จากสหภาพยุโรป ประเภทของ”ประชาธิปไตย”ที่พวกเขาสนับสนุนกลายเป็น “สิทธิสำหรับพวกเขาที่จะกำหนดคนอื่นว่าประชาธิปไตยควรเป็นอย่างไร” วอชิงตันกดดันประเทศอื่นๆ ให้ดำเนินการตามความต้องการของตัวเอง โดยไม่เสนอผลประโยชน์ใดๆ ในการปฏิบัติตามและขู่ลงโทษต่อผู้เห็นต่าง
๓.ความตั้งใจของตะวันตกในยูเครน ความขัดแย้งในยูเครนยังคงโหมกระหน่ำต่อไปเพราะชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯไม่ยอมหยุด “จนกว่าพวกเขาจะสรุปว่าพวกเขาขจัดภัยคุกคามต่อความเป็นเจ้าโลกได้แล้ว” เคียฟถูกชาติตะวันตกห้ามไม่ให้แสวงหาสันติภาพกับมอสโกว์
เขาระบุว่าเซเลนสกีน่าจะรู้สึกละอายใจบ้างที่ถูกตะวันตกควบคุมและบงการและใช้วิธีฉายภาพทางจิตวิทยามากกว่าเสนอข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับเสบียงอาวุธตะวันตกที่อัดฉีดให้ยูเครน ลาฟรอฟกล่าวว่า “รัสเซียพยายามผลักดันกองทัพยูเครนให้ถอยห่างจากจุดที่จะไม่เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป “ยิ่งรัฐบาลเคียฟได้รับอาวุธระยะไกลจากตะวันตกมากเท่าไหร่ มอสโกว์ก็ยิ่งต้องผลักดันมันออกจากพื้นที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศของเรามากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะกับดินแดนใหม่ทั้งสี่เข้าร่วมกับรัสเซียหลังการลงประชามติ การเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟมีแต่จะนำไปสู่การยกระดับปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย”
๔.การต่อต้านรัสเซียลำดับต่อไป ลาฟรอฟถูกถามว่าชาติใดจะกลายเป็น”ผู้ต่อต้านรัสเซีย”รายต่อไป ซึ่งเป็นคำที่ผู้นำรัสเซียใช้อธิบายยูเครนในสถานะปัจจุบัน รัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่ามอลโดวาอาจได้รับเลือกให้รับบทนี้เนื่องจากบุคลิกของประธานาธิบดีไมอา ซานดู
ลาฟรอฟประเมินว่า “ซานดู“ได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศด้วยวิธีการเฉพาะที่ห่างไกลจากคำว่าเสรีภาพและประชาธิปไตย เธอมีสัญชาติโรมาเนีย พร้อมที่จะรวมมอลโดวาเข้ากับโรมาเนีย และพร้อมทำทุกอย่างที่จะพุ่งเข้าเป็นสมาชิกนาโต้”นักการทูตแย้ง
๕.รัสเซียไม่ต้องการความช่วยเหลือสำหรับปฏิบัติการพิเศษในยูเครน
รัสเซียไม่มีความตั้งใจที่จะขอให้พันธมิตรของตนในองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม CSTO เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารในยูเครน ลาฟรอฟระบุว่า “เรามีทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ เพื่อยุติสงครามซึ่งตะวันตกเริ่มต้นผ่านระบอบการปกครองของเคียฟหลังการรัฐประหารปี 2557 ในยูเครนมาก่อนหน้านี้”
๖.พันธมิตรจีนใช้แนวคิดโลกาภิวัตน์ที่ออกแบบโดยสหรัฐฯ
ลาฟรอฟกล่าวถึงความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนในปัจจุบันว่าแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมเสริมว่าพวกเขาไม่มีข้อจำกัดและไม่มีปัญหาใดที่จะอภิปรายถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่สำคัญทั้งมอสโกว์และปักกิ่งต่างต้องการพัฒนาประเทศภายใต้กรอบบรรทัดฐานของการค้าระหว่างประเทศที่มีอยู่”
เขาย้ำว่า“จีนจะเอาชนะอเมริกาบนสนามหญ้าของตัวเองภายใต้กฎของจีนเอง”
ในสายตาของมอสโกว์ รูปแบบของโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน“ไม่มีลักษณะเชิงบวกอีกต่อไป” ลาฟรอฟกล่าวเสริมว่า“เรารู้ตัวเร็วกว่านี้เพราะเราเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” รัสเซียหมกมุ่น และพัวพันน้อยกว่าจีนในระบบการเงินโลกที่ได้รับอิทธิพลจากสหรัฐฯ ตลอดจนกลไกอื่นๆ ซึ่งตอนนี้วอชิงตันใช้ในทางที่ผิด และมันกำลังย้อนกลับมาทำลายสหรัฐฯเองในที่สุด!!