อเมริกานั่งไม่ติด ส่งทูตโผล่โซโลมอนผุดสนง. ผวาจีนขนอาวุธตั้งฐานทัพ จับตาแนวรบแปซิฟิกใต้

0

จากที่มีรายงานถึงรัฐบาลจีนในการเข้าไปเปิดสัมพันธไมตรีกับหมู่เกาะโซโลมอน ต่อมามีความเคลื่อนไหวของสหรัฐว่าได้เข้าไปทำบางอย่างในการขัดขวางจีน ซึ่งทำให้ทั่วโลกต้องจับตาถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแปซิฟิกตอนใต้

ทั้งนี้ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยผ่านการโพสต์ลง Blockdit ถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวด้วยว่า

“รัฐบาลจีนได้กระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศหมู่เกาะโซโลมอนเพื่อทำมาค้าขาย ส่วนอเมริกาหวาดกลัวว่าจีนจะขนอาวุธไปติดตั้งฐานทัพบนเกาะโซโลมอนซึ่งเป็นประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ จึงเข้าไปตั้งสถานทูตบนเกาะนี้ด้วย

นับจากนี้ไป ความสัมพันธ์ระหว่างหมู่เกาะโซโลมอนและจีนจะไม่ราบรื่น เพราะเมื่ออเมริกาส่งทูตของตนเข้าไป ก็จะเข้าไปจัดตั้งมวลชนต่อต้านจีน จัดตั้งกลุ่มสื่อมวลชนเพื่อโจมตีจีนเป็นระยะๆ แม้กระทั่งจัดกลุ่มผู้รับจ้างประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนที่หันไปผูกมิตรกับจีนเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศในขณะนี้ไปด้วย

https://www.reuters.com/world/us-opens-embassy-solomon-islands-blinken-says-2023-02-01/?utm_campaign=trueAnthem%3A%20Trending%20Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=facebook&fbclid=IwAR2wQK2yB5hm0jZK64KBeQUVj0Bnght9PWBmRCSTDjgvEoylzAHSzpNNO60

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในการแถลงของกระทรวงต่างประเทศจีนเมื่อวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 นายหวัง เหวินปิน โฆษกเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการลงนามกรอบความตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างจีนกับหมู่เกาะโซโลมอน ด้วยความเห็นชอบของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย

โดยมีนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กับนายเจเรเมียห์ มาเนเล รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้าของหมู่เกาะโซโลมอนเป็นตัวแทนผู้ลงนาม

โฆษกหวัง ยังย้ำด้วยว่า จุดมุ่งหมายของกรอบความตกลงฉบับนี้มิได้มุ่งเป้าประสงค์ไปยังชาติที่ 3 ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถของหมู่เกาะโซโลมอนในการรักษาความสงบสุขมั่นคงของประเทศ ทั้งในด้านการรักษาระเบียบของสังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการรับมือกับภัยธรรมชาติ

แน่นอนว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรไม่มีวันเชื่อน้ำมนต์ของจีน โดยเจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียกล่าวหาว่า จีนชิงลงมือ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ 2 คนคือ นายเคิร์ต แคมป์เบล และนายแดเนียล คริเทนบริงก์ จะไปเยือนหมู่เกาะโซโลมอนในสัปดาห์นี้

โดยเพื่อถ่ายทอดให้รัฐบาลกรุงโฮนีอารา รับทราบถึงความวิตกกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ซึ่งรวมทั้งออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ กรณีจีนเข้ามาดำเนินบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคนี้

ขณะเมื่อวันที่ 18 เมษายน นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตั้งข้อสังเกต เกี่ยวเนื้อหาของร่างข้อตกลง ซึ่งรั่วไหลออกมาว่า ขาดความโปร่งใส คลุมเครือและครอบจักรวาล ซึ่งอาจเปิดช่องให้จีนส่งกองทหาร หรือเข้ามาตั้งฐานทัพในหมู่เกาะโซโลมอนได้

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจทำให้หมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเพิ่งเกิดเหตุจลาจลวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปลายปีที่แล้ว ยิ่งเกิดความวุ่นวายและขัดแย้งกันมากขึ้น รวมไปถึงการไร้เสถียรภาพทั่วภูมิภาค”