“ไม่น่าเชื่อ แต่จริง เราถูกคุกคามอีกครั้งโดยรถถังเลพเพิร์ต (Leopard) ของเยอรมัน” เป็นคำพูดของ ปธน.ปูตินรัสเซีย กล่าวถึงเมกา-นาโต้ส่งมอบรถถังที่ผลิตโดยชาติตะวันตกให้แก่ยูเครน และเตือนว่าการตอบโต้ของมอสโกว์ต่อภัยคุกคามจะครอบคลุมเกินกว่าแค่ยานเกราะ ผู้นำรัสเซียแสดงจุดยืนในพิธีฉลองการรำลึกครบรอบ ๘๐ ปีแห่งชัยชนะในสมรภูมิสตาลินกราด มหาสงครามแห่งความรักชาติที่ตัดสินชะตากรรมโลกในสงครามใหญ่ครั้งที่สอง
ในขณะเดียวกันทางฝ่ายยูเครน มีรายงานว่านักบินกองทัพอากาศของกองทัพยูเครนโวยวายผ่านสื่อThe Financial Times ฉบับภาษาอังกฤษว่าเครื่องบินรบอาจยุติในยูเครน เพราะ“สถานการณ์เลวร้ายลงทุกวัน”
นักบินยูเครนที่มีรหัสเรียกขานว่า “Juice” ให้สัมภาษณ์ว่า “ยูเครนในอนาคตอันใกล้อาจถูกทิ้งไว้โดยไม่มีเครื่องบินขับไล่ จำนวนเครื่องบินในกองทัพอากาศของกองทัพยูเครนลดลงอย่างรวดเร็ว
วันที่ ๓ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวในงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ ๘๐ ปีของการรบที่สตาลินกราด โดยเน้นย้ำว่ารัสเซียยังมีมิตรสหายทั้งในทวีปอเมริกาและยุโรป และทุกคนที่ดึงประเทศที่ไม่เป็นมิตรเข้าสู่สงคราม กับสหพันธรัฐรัสเซีย จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับผลที่ตามมา
เขาย้ำว่า “ผู้ที่ชักจูงประเทศเหล่านี้เข้าสู่สงครามรัสเซียครั้งใหม่ และประกาศว่าสิ่งนี้สำเร็จลุล่วง ผู้ที่คาดหวังจะเอาชนะรัสเซียในสนามรบ ต้องเข้าใจว่าสงครามสมัยใหม่กับรัสเซียจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงสำหรับพวกเขา เราไม่ส่งรถถังของเราไปที่ชายแดนเท่านั้น แต่เรามีบางอย่างที่ต้องตอบโต้ และการใช้รถหุ้มเกราะของตะวันตกจะไม่ยุติเรื่องนี้ ทุกคนควรเข้าใจสิ่งนี้”
และวันรุ่งขึ้นสื่อตะวันตกก็จะพาดหัวทันทีว่าปูตินขู่พวกเขาด้วยระเบิดนิวเคลียร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบอร์ลินเปลี่ยนจุดยืนในการจัดหาชุดเกราะสมัยใหม่ให้เคียฟ โดยให้คำมั่นว่าจะส่งมอบรถถัง เลพเพิร์ต ๒ จำนวน ๑๔ คัน รวมทั้งอนุญาตให้ประเทศในยุโรปส่งออกซ้ำยานยนต์ที่ผลิตในเยอรมันจากคลังของตนเอง จำนวน รถถังเลพเพิร์ตที่คาดว่าจะส่งไปยังยูเครนมีจำนวนประมาณ ๑๑๒ คัน นอกจากนี้ วอชิงตันยังให้คำมั่นว่าจะส่งรถถังเอบรามส์ (Abrams) จำนวน ๓๑ คัน แต่คาดว่าจะไม่ส่งมอบให้เร็วที่สุดจนถึงปลายปี ๒๐๒๓
ด้านแนวรบที่แนวหน้ามีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียรุกหนักในพื้นที่โดเนตสค์ในช่วงวันที่ผ่านมา
พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า “เครื่องบินปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองกำลังขีปนาวุธ และปืนใหญ่ของกลุ่มกองกำลังรัสเซียโจมตีหน่วยปืนใหญ่ ๗๘ หน่วยที่ตำแหน่งยิง กำลังพล และยุทโธปกรณ์ทางทหารในพื้นที่ ๑๐๕ แห่ง”
ในลูกันสค์ทิศทางของคูเปียนสค์ เครื่องบินของกองทัพบกและปืนใหญ่ของกลุ่มการสู้รบทางตะวันตกได้โจมตีหน่วยของกองพลยานยนต์ที่ ๙๒ ของกองทัพยูเครน ใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของโนวอสโยลอฟสโกเย
ในทิศทางของแครสนีลิมัน (Krasny Liman) หน่วยของ battlegroup Center ถล่มกองพลน้อยโจมตีทางอากาศที่ ๙๕ ของยูเครนในพื้นที่ที่ตั้งถิ่นฐานของ คาร์มาซินอฟก้า(Karmazinovka) ในลูฮันสค์ และป่าไม้เซเรบริยันสค์ (Serebryansky) ดัวยการยิงปืนใหญ่และการรุกที่ประสบความสำเร็จ
ความสูญเสียของข้าศึกในพื้นที่เหล่านั้นในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวนบุคลากรยูเครนมากกว่า ๑๐๐ คน ยานเกราะต่อสู้หกคัน และปืนครก D-30 หนึ่งกระบอก
ในภูมิภาคคาร์คอฟ (Kharkov) ทหารยูเครนกว่า ๒๕ นาย ยานเกราะต่อสู้ ๑ คัน และยานยนต์ ๒ คันถูกกำจัด ในพื้นที่ที่ตั้งถิ่นฐานของโวลชันสค์(Volchansk) เครื่องยิงจรวดหลายลำของการ์เดียนกราด (Gradian Grad) ของยูเครน ๒ เครื่องถูกทำลาย
ตลอด ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา การป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้ยิงจรวด ๔ ลูกของระบบจรวดหลายลำกล้อง HIMARS และทำลายโดรนของยูเครน ๕ ลำ ใกล้กับ โกลิโคโว, ครีเมนเนยา(Golikovo and Kremennaya) ในสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์, เบเรสโตวอย(Berestovoye) ในภูมิภาคคาร์คอฟ (Kharkov) และ เปสชันนอย(Peschanoye) ในภูมิภาคเคอร์ซอน (Kherson)”
โฆษกสรุปตัวเลขโดยรวมถึงเป้าหมายยุทโธปกรณ์ยูเครนที่ถูกทำลายตั้งแต่เริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารพิเศษว่า เครื่องบิน ๓๘๑ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๒๐๖ ลำ ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ๓,๐๐๑ ลำ ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ๔๐๒ เครื่อง รถถังและยานเกราะต่อสู้อื่นๆ ๗,๗๑๙ คัน จรวดหลายลูก ๑,๐๐๓ ลูก ปืนกลและปืนครกภาคสนาม ๓,๙๘๑ กระบอก และยานยนต์พิเศษทางทหาร๘,๒๔๙ คัน
