ในขณะที่แนวหน้ารุกรบกันดุเดือด ปธน.ปูตินได้จัดประชุมผู้เกี่ยวข้องกำหนดภารกิจสำคัญให้กองทัพรัสเซีย เขาย้ำว่าจะต้อง“ขจัดความเป็นไปได้” ที่ยูเครนจะทิ้งระเบิดบริเวณชายแดนของประเทศ หรือแม้แต่โครงสร้างพื้นฐานภายในรัสเซีย นั่นหมายถึงการยกระดับรุกเข้าพื้นที่ลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย เพื่อยั่วยุให้รัสเซียใช้อาวุธหนักต่อยูเครนและหรือประเทศสมาชิกนาโต้ให้ได้ การเปิดหน้าส่งรถถังและเตรียมส่งอาวุธชั้นสูงให้ยูเครนสู้ต่อ ด้านรัสเซียจึงมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญเปิดเผยต่อสาธารณะ คำสั่งล่าสุดของปธน.ปูตินอาจบ่งบอกชัดว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อปกป้องดอนบาสจะไม่จำกัดขอบเขตแค่๔ ภูมิภาคใหม่อีกต่อไป เพราะถ้าไม่ปราบเคียฟ-นาโต้ให้พ่ายแพ้เด็ดขาด ไม่เปลี่ยนอำนาจรัฐของยูเครนรัสเซียจะไม่มีวันปลอดภัยอีกต่อไป
ขณะที่พันธมิตรใกล้ชิดก็เคลื่อนไหวคึกคัก กองทัพเบลารุสได้เปลี่ยนไปใช้การปฏิบัติการอัตโนมัติเต็มรูปแบบของคอมเพล็กซ์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี ทีมงานที่ทำงานกับ Iskanders ประกอบด้วยทหารมืออาชีพและที่ได้รับมอบหมาย สื่อบางแห่งตีความว่าเป็นทหารรับจ้าง แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการของเบลารุสแต่อย่างใด นั่นหมายถึงกองทัพเบลารุสก็พร้อมแล้วทั้งกำลังคนและอาวุธเช่นกัน
วันที่ ๒ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า ปธน.ปูตินได้กำหนดภารกิจเร่งด่วนให้กองทัพรัสเซีย
ปธน.ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมทางวิดีโอเกี่ยวกับงานโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนของเบลโกรอด ไบรอันสค์ และเคิร์สต์ รวมถึงไครเมีย ว่า “ภารกิจสำคัยอันดับแรกคือต้อง“ขจัดความเป็นไปได้” ที่ยูเครนจะทิ้งระเบิดบริเวณชายแดนของประเทศ นี่เป็นภารกิจของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ” ความเห็นของเขามีขึ้นหนึ่งวันหลังจากกระสุนของยูเครนตกใกล้กับท่อส่งน้ำมันในภูมิภาค บริยันสค์(Bryansk) และท่ามกลางข่าวลือว่าสหรัฐฯ กำลังเตรียมที่จะมอบขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับเคียฟ
รองนายกรัฐมนตรีมารัต คุชนูลิน (Marat Khusnullin) กล่าวในที่ประชุมว่า ประชาชนราว ๓,๗๐๐ คนในหมู่บ้านชายแดนในเขตเบลโกรอดต้องพลัดถิ่นเพราะการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของยูเครน พร้อมเสริมว่ารัฐบาลได้กันเงินไว้เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยและทุกสิ่งที่จำเป็น
เจ้าหน้าที่ในเบลโกรอดและบิรอันสค์ถูกยูเครนโจมตีด้วยปืนใหญ่สองครั้งในวันอังคาร ในภูมิภาคบริอันสค์กระสุนปืนลูกหนึ่งตกลงในสนามใกล้กับสถานีย่อยของท่อส่งน้ำมันดรัชบา (Druzhba) การไหลของน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบ แต่เจ้าหน้าที่ท่อส่งน้ำมันอยู่ในภาวะตื่นตัวสูง บริษัททรานส์เนฟต์(Transneft) กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
รัฐบาลในกรุงเคียฟได้ขอหลายครั้ง ให้ผู้สนับสนุนชาติตะวันตกของตนสนับสนุนขีปนาวุธพิสัยไกล เช่น MGM-140 Army Tactical Missile System (ATACMS) ซึ่งมีพิสัยทำการประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ตามรายงานของ Wall Street Journal สหรัฐฯได้ลอบดัดแปลงระบบปืนใหญ่จรวด HIMARS ที่ส่งไปยังยูเครน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถยิง ATACMS ได้แม้ว่าเคียฟจะได้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากสหรัฐฯเพิ่มมาก็ตาม
แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า วอชิงตันกำลังเตรียมที่จะรวมขีปนาวุธชนิดอื่นที่มีพิสัยไกลถึง ๑๕๐ กม. ซึ่งยังคงเปิดทางให้กองกำลังของเคียฟโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย Ground Launched Small Distance Bomb (GLSDB) ประกอบด้วยระเบิดบนเครื่องบินซึ่งติดตั้งอยู่บนเครื่องยนต์จรวดและสามารถยิงได้จาก HIMARS
ขณะเดียวกัน คิริลล์ บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครนขู่ว่า“จะมีปัญหาเกิดขึ้นภายในรัสเซีย”จนกว่าเคียฟยึดคืนพรมแดนตามที่อ้างสิทธิ์ คำพูดของบูดานอฟเป็นไปตามความคิดเห็นสาธารณะของอเล็กเซย์ ดานิลอฟ หัวหน้าสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติของยูเครน ซึ่งพูดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาว่ามีโอกาสที่จะเกิด “ระเบิด”ทั่วรัสเซีย นั่นบ่งบอกแผนการก่อการร้ายในพื้นที่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียจะหนักขึ้น
ตามคำกล่าวของประธานาธิบดี ปัญหาของการป้องกันปลอกกระสุนอยู่ในอำนาจของฝ่ายทหาร หลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน กองทัพยูเครนได้ยิงใส่การตั้งถิ่นฐานชายแดนในภูมิภาคเบลโกร้อด, บริยันสค์และ เคิร์สค์ (Belgorod, Bryansk, Kursk) ของประเทศเป็นระยะ ทำให้ที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะถูกทำลาย มีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ดังนั้นวิธีเดียวที่จะหยุดการถล่มดินแดนของรัสเซียจากยูเครนได้ คือกองทัพยูเครนต้องประสบความพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง ซึ่งจะอนุญาตให้เปลี่ยนระบอบการเมืองที่มีอยู่ในยูเครนขณะนี้ที่มุ่งเป้าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัฐรัสเซีย
ด้านพันธมิตรที่ใกล้ชิดอย่างกองทัพเบลารุส ก็ได้เริ่มใช้ระบบขีปนาวุธอิสกานเดอร์ (Iskander) ซึ่งได้รับมาจากรัสเซียโดยอิสระ กระทรวงกลาโหมเบลารุสประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “ทหารของเบลารุสได้เริ่มปฏิบัติการอิสระอย่างเต็มที่ของระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีอิสกานเดอค์” กระทรวงฯ ระบุอีกว่า “ทหารปืนใหญ่ของเบลารุสเข้ารับการฝึกในสหพันธรัฐรัสเซีย หลังจากจบหลักสูตรทฤษฎีแล้ว ทหารปืนใหญ่ก็เข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติร่วมในพื้นที่ทางทหารของเบลารุส”
กระทรวงกลาโหมเบลารุสระบุว่าเจ้าหน้าที่ในระบบประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายพิเศษ และทหารอาชีพเท่านั้น
รัสลัน เชคอฟ(Ruslan Chekhov) ผู้บัญชาการกองกำลังจรวดและปืนใหญ่ของเบลารุสกล่าวว่า “ประสบการณ์ของปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนยืนยันว่าระบบปืนใหญ่ที่ผลิตโดยสหภาพโซเวียต – 2S1 Gvozdika, 2S3 Akatsiya, ปืนใหญ่ 2S5 ไจแอทซินต์(Giatsint) และ BM-21 แกรด(Grad) ซึ่งเป็นระบบจรวดหลายลำกล้อง ต่างให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ขณะนี้การอัปเกรดกำลังดำเนินการในโรงงานอุตสาหกรรมและทางทหารในสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐเบลารุส”
ปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา หัวหน้าแผนกการศึกษาอุดมการณ์ของกระทรวงกลาโหม Leonid Kasinsky ประกาศว่าทหารเบลารุสที่ปฏิบัติการระบบ Iskander และระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ได้รับการฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกทหารร่วมระหว่างรัสเซียและเบลารุส
ก่อนหน้านี้ อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุสกล่าวว่า ระบบ เอส-๔๐๐ และขีปนาวุธอิสกานเดอร์(S-400 and Iskander) ที่ผลิตในรัสเซียได้ถูกนำไปใช้งานในสาธารณรัฐแล้ว ทางเบลารุสมีสต็อคขีปนาวุธอิสกานเดอร์อย่างเพียงพอ