โลกเปลี่ยนแปลง! “สนธิญาณ”ฟันธง CHINAผงาด USAทรุด หลังพ้นโควิด-19 ชี้ชัดประเทศไทยต้องปรับตัว
ในรายการ “ทิศทางไทยในช่วงเวลา 00.00 กับ สนธิญาณ” ทางช่องสถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ผ่านทางยูทูป ทางด้าน “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ของไทยและโลกขณะนี้ระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 กระทบกระเทือนเขย่าโลกทั้งโลก ดังนั้นสิ่งที่เราคนไทยและรัฐบาลไทยจะต้องตระหนัก ก็คือต้องปรับตัวและเดินตามสถานการณ์นี้ให้ทัน
การแก้ปัญหาของไทยในขณะนี้ต้องถือว่าเยี่ยมยอดเป็นอย่างยิ่ง มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ 2,700คน ยอมสะสมในแต่ละวันอยู่ที่ 20-30 คน(ข้อมูลณ วันที่17เม.ย.) อยู่ในระนาบที่ถือว่าดีที่สุด และจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นกลับบ้านได้แล้วถึง 1,689คน ผู้ที่ยังรักษาอยู่ที่รพ. ต่ำกว่าพันคน เหลือแค่ 964 คน นี่คือสถานการณ์ของประเทศไทย ดังนั้นมีแนวโน้มที่เราจะปลดล็อคได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่ต้องปลดด้วยความระมัดระวัง
“สนธิญาณ” ถึงสถานการณ์โลกนั้นหนักหนาโดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ครบ 1 เดือนพอดี ที่เกิดประเด็นปัญหาที่ทางการจีน ถูกประธานาธิปดีทรัมป์กล่าวหา ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดไวรัสโควิด-19 ขึ้น ทรัมป์ได้ตอกย้ำอีก เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาโดยเรียกไวรัสโควิด-19 ว่าไวรัสChina ซึ่งนั่นก็เป็นการกล่าวหา
ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ไมค์ ปอมเปโอ ได้โทรศัพท์ไปหา หวัง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีจีนแสดงความไม่พอใจ ขณะเดียวกันทางการจีนเองก็พยายามกล่าวหาว่า สหรัฐเป็นผู้ที่นำไวรัสโควิด-19 ไปภายในเมืองอู่ฮัน ประเทศจีน มาจากการแข่งขันกีฬากองทัพโลก ซึ่งกองทัพสหรัฐเป็นคนพาไปเผยแพร่ทำให้เกิดเป็นประเด็นปัญหาขึ้น
เรื่องดังกล่าวครบ 1เดือน ทรัมป์ ก็ยังยืนยันจะต้องสืบหาหลักฐานให้ได้ว่าไวรัสโควิด-19 มีต้นตอมาจากแล็ปในเมืองอู่ฮั่น หมายความว่ากล่าวหาว่า จีนเป็นผู้พัฒนาไวรัสตัวนี้ขึ้น ทางด้าน Fox news ได้รายงานว่า สหรัฐ ยังติดตามค้นคว้าแต่ก็ลดระดับลง ซึ่งความพยายามในการค้นคว้านั้นไม่ได้กล่าวหาว่าจีนพยายามสร้างเป็นอาวุธชีวภาพแต่เป็นความพยายามของจีนที่จะแสดงศักยภาพให้เห็นว่าเมื่อมีไวรัสหรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพอนามัยจีนคือผู้นำ..
“สนธิญาณ”กล่าวต่อว่า ในระหว่างหนึ่งเดือนที่มีปัญหา การต่อสู้ระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน เพราะเมื่อต้นเดือนเมษายน สหรัฐได้มีความพยายามในการจัดให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขึ้น โดยที่สหรัฐต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงชี้ไปว่าจีนเป็นต้นตอเป็นผู้ที่ทำให้เกิดปัญหาโควิด-19 ขึ้น แต่คณะมนตรีความมั่นคงไม่เอาด้วย ซึ่งปกติแล้วจะมีความเห็นเป็นไปตามทิศทางของสหรัฐ แต่ครั้งนี้ไม่ไหลไปตามสหรัฐ จนถึงวันนี้ทรัมป์พยายามที่จะยัดเยียดเรื่องนี้ให้จีน จะกลายมาเป็นประเด็นปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้เห็นว่าจีนมีความเข้มแข็งขึ้นในระดับเวทีสากล และถามก็ยังบ้าไปโจมตีองค์การอนามัยโลกว่าไปเข้าข้างจีนจะไม่ให้งบสนับสนุน
“สนธิญาณ”กล่าวย้ำถึง ขณะที่สถานการณ์เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 677,570 คน ผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ขึ้นมา 33,481 คน และญาติที่อยู่สหรัฐ โทรมาเล่าให้ฟังสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นทุกขณะ ถึงขนาดที่ว่าเงินชดเชยหรือเงินเยียวยาที่จะจ่ายหมดให้แล้ว ไม่มีจะจ่าย และยืนยันว่าภายใต้สถานการณ์ที่ยังเดินต่อไปแบบนี้ภายในไม่กี่วัน ยอดผู้ป่วยของสหรัฐจะถึงล้านรายซึ่งจีนพยายามเข้าไปช่วยเหลือ
ทางด้าน สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ทั้ง5ประเทศเป็น6อันดับแรกของโลก ที่มีผู้ป่วยทั่วโลกรวมกันกว่า2ล้านคน ซึ่งอยู่ที่สหรัฐกับยุโรปประมาณล้านกว่าเข้าไปแล้ว ที่ประเทศอื่นๆอยู่ในระดับ หมื่นทั้งสิ้น ตั้งแต่ประเทศจีนที่เกิดขึ้นตอบแล้ววันนี้ก็อยู่ประมาณ 82,000 คน อยู่ในอันดับ7 ประเทศไทยเอง ตอนนี้ดีอยู่ที่อันดับ51 อันดับที่ขยับนั้นแสดงถึงศักยภาพ
ดังนั้นจีนจะฟื้นตัวก่อนสหรัฐ และจะผงาดขึ้นเป็นผู้นำโลกอย่างแน่นอนภายหลังโควิด-19 คลี่คลาย ไทยเราจะต้องปรับตัวและเดินตามสถานการณ์ให้ทัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องไปเข้าข้างจีน แต่ต้องหมุนปรับตัวระบบกลไกการผลิต การค้าขาย และการเชื่อมโยงกับโลกภายนอก หวังว่าลุงตู่จะนำพาประเทศเราไปเดินไปข้างหน้าได้อย่างดี “สนธิญาณ”กล่าว