จากที่สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ประธานาธิบดี โซรัน มิลาโนวิช แห่งโครเอเชีย ที่ได้ออกมาให้ความเห็นถึงคาบสมุทรไครเมีย ที่ถูกรัสเซียผนวกตั้งแต่ปี 2014 จะไม่มีวันกลับไปเป็นดินแดนของยูเครนอีกนั้น
โดย โซรัน มิลาโนวิช กล่าวอธิบายเหตุผลที่รัฐบาลซาเกร็บตัดสินใจไม่ส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่เคียฟ ช่วงเมื่อเดือน ธันวาคม ซึ่งสมาชิกรัฐสภาโครเอเชียปฏิเสธข้อเสนอเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) ในภารกิจสนับสนุนกองทัพยูเครน
มิลาโนวิช ยืนยันว่าไม่ต้องการให้โครเอเชียซึ่งเป็นชาติสมาชิกใหม่สุดของอียูเข้าไปพัวพันกับผลลัพธ์อันเลวร้ายของสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 11 เดือนแล้ว การที่ชาติตะวันตกระดมส่งอาวุธให้เคียฟอย่างไม่หยุดหย่อนนั้น เป็นเรื่องผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง เพราะไม่ใช่ทางออกของสงคราม
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโครเอเชีย ยังเตือนด้วยว่า การส่งมอบรถถังเลพเพิร์ด 2 (Leopard 2) ที่ผลิตโดยเยอรมนีให้ยูเครน เท่ากับผลักไสรัสเซียให้ไปจับมือกับ จีนมากขึ้นอีก
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่าน Blockdit เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ถึงท่าทีของจีนล่าสุดที่มีต่อสหรัฐอเมริกาว่า “จีนสั่งสอนอเมริกา
คนทั่วโลกเริ่มฉลาดขึ้นมากแล้ว และกล้าพูดว่าอเมริกุ๊ยนั่นเองที่เริ่มสงคราม ส่งคนไปล้มรัฐบาลยูเครนที่มาจากการเลือกตั้ง สังหารชาวยูเครนเชื้อสายสล๊าฟจำนวนมาก
ทดลองอาวุธชีวภาพเพื่อเล่นงานรัสเซีย ปลุกเร้าชาวยุเครนให้เกลียดชังรัสเซีย ปล้นทองคำจากยูเครนเอาไปอีก ๓๐ กว่าตัน ฯลฯ รัสเซียจึงจำใจต้องส่งทหารเข้าไปกวาดล้างสมุนมะกันในยูเครน
แต่รัฐบาลกุ๊ยพยายามสร้างภาพให้รัสเซียว่าก้าวร้าว เป็นฝ่ายรุกรานยูเครนเสียเอง ตอนนี้หลายๆฝ่ายกล้าฟันธงไปอย่างตรงๆ ว่ารัฐบาลกุ๊ยนี่เองที่เป็นตัวปัญหา ล่าสุดก็คือสีจิ้นผิง ผู้นำจีน”
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ ยังได้เผยแพร่ข้อความถึงท่าทีของอีกหนึ่งประเทศที่มีต่อสหรัฐอเมริกาในปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียว่า “ผู้นำโครเอเชียออกมาตำหนิอเมริกาที่รุกรานรัสเซียก่อน
ผู้นำโครเอเชียออกมาวิจารณ์ว่าอเมริกานั่นแหละตัวก่อปัญหาในยูเครน เพราะหาทางรุกรานรัสเซีย จึงยึดรัฐบาลยูเครนเสียก่อน รัสเซียเตือนแล้วเตือนอีกก็ไม่ฟัง สุดท้ายรัสเซียก็จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติการทางทหารตามมา นี่แหละครับคือรากฐานของปัญหาจริงๆ อเมริกุ๊ยนั่นเอง ไม่ใช่ใคร อย่างที่ผมนำเสนอมาตลอดนั่นแหละครับ”