ในที่สุดNATO ได้เข้าสู่การเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซียแล้วแม้จะไม่ได้ประกาศเป็นทางการ เรื่องนี้ รักษาการหัวหน้าโดเนตสค์ สรุปอย่างชัดเจน
เดนิส พุชซิลลิน รักษาการหัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) กล่าวว่า “นาโต้ได้เข้าสู่การเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย และการเสริมกำลังทางทหารของพันธมิตรใกล้พรมแดนรัสเซียนั้นปรากฏให้เห็นนานก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในยูเครนด้วยซ้ำ”
เขากล่าวย้ำว่า “นาโต้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้น และทุกวันพวกเขาแสดงตนอย่างเปิดเผยมากขึ้น เราเห็นการส่งอาวุธไปยังยูเครน การติดอาวุธใหม่และการฝึกอบรมกองกำลังของพันธมิตรแอตแลนติกเหนือ การติดตั้งกลุ่มการสู้รบใหม่ใน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปและในรัฐบอลติก”
ด้านสหรัฐฯและประเทศมาชิกนาโต้ตัวหลักพากันพูดบ่ายเบี่ยงว่า จะไม่ส่งF-16 ให้ยูเครนแต่ในทางปฏิบัติรัสเซียเชื่อว่าพูดอย่างแต่ทำตรงกันข้าม วันนี้เมกาเพิ่งประกาศจะส่งความช่วยเหลือเพิ่มให้ยูเครนมูลค่า ๒.๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมขีปนาวุธพิสัยไกล คอนเฟิร์มลุยกันแน่พร้อมสังเวยยูเครนตามวาระวอชิงตัน
วันที่ ๑ ก.พ.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและยูเรเซียนไทมส์ รายงานว่า กลาโหมรัสเซียได้เผยแพร่วิดีโอการต่อสู้ของการใช้ Su-35S Jet บนฐานปฏิบัติการทางทหารของยูเครนแล้ว ก่อนหน้านี้จะเห็นแต่ Su-25 ในบทบาทโจมตีนำร่องในแนวหน้าของภูมิภาคใหม่ทั้งสี่
เครื่องบินรบ Su-35S ของรัสเซียยิงเครื่องบินทหารยูเครนตก 3 ลำในการลาดตระเวนครั้งเดียว
เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ปี่ที่ผ่านมา กองทัพอากาศรัสเซีย อ้างจากกระทรวงกลาโหม ยิงเครื่องบินยูเครน ๓ ลำ เฮลิคอปเตอร์ MiG-29 จำนวน ๑ ลำ และเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 จำนวน ๒ ลำ ตกขณะระเบิดในอากาศ โดยเครื่องบินรบ Su-35S ลำเดียว
ตามมาด้วยMi-8 อีก 2 ลำที่ถูกยิงตกในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) ในวันรุ่งขึ้น ๓๐ ธ.ค. โดยเครื่องบินรบของรัสเซีย ดังนั้น ยูเครนจึงสูญเสียเฮลิคอปเตอร์ ๔ ลำและเครื่องบินไอพ่นแนวหน้า ๑ ลำให้กับเครื่องบินรบของรัสเซียภายใน ๒ วัน
Su-35S เป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับสองของรัสเซีย รองจาก Su-57 เจเนอเรชันที่ ๕ และในบรรดาเครื่องบินรบหลายบทบาทเจเนอเรชันที่ ๔++ ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
ความก้าวหน้าที่เหนือกว่าเครื่องบินรบ Su-30SM2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินทหารเชื่อว่า Su-35 นั้นอาจมีโอกาสที่จะยิง F-22 Raptor ของอเมริกาหรือ F-35 ได้ ในระยะใกล้หรือไกลกว่าระยะการมองเห็น ( BVR) แบบนี้ F-16 ยิ่งไม่อยู่ในสายตาหวั่นวิตกของรัสเซียแต่อย่างใด
ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมที่แนบมากับวิดีโอนี้กล่าวว่า “ลูกเรือของเครื่องบินรบเอนกประสงค์ Su-35S ทำการลาดตระเวนทางอากาศ รวมทั้งสนับสนุนเครื่องบินจู่โจมและเฮลิคอปเตอร์การบินกองทัพบก ในขณะที่ทำการโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารและยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครน ลูกเรือของ Su-35S ระบุเป้าหมายทางอากาศภายในเที่ยวบินใดเที่ยวบินหนึ่ง ระบุว่าเป็นเครื่องบินข้าศึก และทำลายมันด้วยขีปนาวุธ” ข้อมูลอ้างอิงเฉพาะเป้าหมายเดียวที่ Su-35 ระบุ
Sukhoi SU-35S ลำนี้สามารถบรรทุกเชื้อเพลิงได้ ๑๑.๕ ตัน ระยะไกลของ Su-35 ทำให้สามารถคุ้มกัน Su-24 interdictors ได้ เป็นเครื่องบินรบหลายบทบาทติดตั้งระบบการบินขั้นสูง รวมถึงเรดาร์อาร์เรย์แบบพาสซีฟ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการค้นหาและติดตามด้วยอินฟราเรด มันสามารถบรรทุกระเบิดหรือฝักด้วยจรวด ติดตั้งปืนใหญ่ GSh-301 ขนาด ๓๐มม. พร้อมกระสุน ๑๕๐ นัด
Su-35 สามารถบรรทุกกระเปาสงครามอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งทำให้มีความสามารถในการรบกวนที่ทรงพลัง มีรายงานว่าเครื่องส่งสัญญาณรบกวนขั้นสูงสามารถลดประสิทธิภาพของเรดาร์ศัตรูได้ มันสามารถ ปิดเรดาร์บนเครื่องบินที่พบในขีปนาวุธ เช่น AIM-120 AMRAAMได้ ราคาของเครื่องบินขับไล่ Su-35 อยู่ที่ประมาณ ๔๓ ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่รวยจริงรัสเซียเอามารบไม่ได้แน่
แนวรบทางอากาศที่รัสเซียรุกคืบอีกขั้น คือ เร่งผลิตกองทัพโดรน
บริษัทแห่งหนึ่งในเขตปริมอร์สกี้ (Primorsky Territory) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ได้เปิดตัวการผลิตโดรนอย่างต่อเนื่องสำหรับความต้องการของกองทัพรัสเซียในระหว่างปฏิบัติการทางทหารในยูเครน รัฐบาลภูมิภาคกล่าวเมื่อวันอังคาร คาดว่าจะปล่อย UAV เพิ่มอีกประมาณ ๖๐-๑๐๐ ลำอย่างเร็วที่สุด” รัฐบาลระบุในถ้อยแถลง
สิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวได้รับการตรวจสอบโดยรองนายกรัฐมนตรีรัสเซียและทูตประธานาธิบดีประจำเขต Far Eastern Federal District โดย ยูริ เชคุนคอฟ(Yury Trutnev) รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาตะวันออกไกลและอาร์กติก อเล็กเซย์ เชคุนคอฟ(Aleksey Chekunkov) และผู้ว่าการเขตปกครอง Primorsky โอเลก โคเชเมียโค(Oleg Kozhemyako) และทีมเจ้าหน้าที่ได้เยี่ยมชมสถานประกอบการของศูนย์อุตสาหกรรมการทหารในเมืองวลาดิวอสต็อก และตรวจสอบยุทโธปกรณ์ทางทหาร UAV โดรนแต่ละตัวมีน้ำหนักเพียง ๑.๕ กิโลกรัม ประมาณ ๓ ปอนด์ มีกลไกสำหรับการทิ้งระเบิดในพื้นที่วางกำลังของศัตรู ปัจจุบัน บริษัทได้ผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว ๔๕ เครื่องและกำลังเตรียมการ เพื่อเริ่มการผลิตจำนวนมาก
และล่าสุดRostec กำลังพัฒนา UAV สำหรับการใช้งานแบบกลุ่มเนื่องจากสรุปบทเรียนในสนามรบ ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติการ การส่งฝูงโดรนครั้งเดียวเป็นกลุ่มสามารถบรรลุภารกิจทุกครั้ง!!