จากยูเครนลามมาถึงเตหะราน เมื่อคนใกล้ชิดของเซเลนสกี้ยื่นปากไปซ้ำเติมอิหร่านเรื่องถูกโดรน ๓ ตัวโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ยูเครนเตือนคุณแล้่ว ประหนึ่งรับสมอ้างว่า เคียฟเป็นตัวการลงมือ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีสถานที่ทางทหารของอิหร่าน เตือนว่าการกระทำของผู้ก่อการร้ายอาจมี “ผลที่ตามมาที่คาดเดาไม่ได้”
รัสเซียเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำยั่วยุ ผู้สนับสนุนของพวกเขา และผู้ที่รู้สึกหยิ่งยโสพอที่จะกระทำการดังกล่าว ให้เข้าใจว่าความหวังของพวกเขาในการทำให้อิหร่านอ่อนแอลงนั้นไม่มีทางสำเร็จ
ด้านอิหร่านยืนยันว่า การโจมตีโดยใช้โดรนไม่ประสบผลสำเร็จ โดรน ๒ ลำถูกยิงตกและอีก ๑ ลำระเบิดบนหลังคาอาคารของศูนย์เสียหายเล็กน้อย แต่เมื่อวีไอพียูเครนออกมาแสดงท่าทีเย้ยหยันข่มขู่ เตหะรานแสดงความไม่พอใจเรียกอุปทูตมาคุยและขอให้ชี้แจงอย่างเป็นทางการทันที
วันที่ ๓๑ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และ ILNA รายงานว่า อิหร่านประณามความคิดเห็นอย่างเป็นทางการของผู้ช่วย Zelensky ที่กล่าวสนับสนุนการโจมตีด้วยโดรนภายในประเทศอิหร่าน
เตหะรานได้ประท้วงอุปทูตยูเครน เกี่ยวกับคำแถลงของที่ปรึกษาอาวุโสของเคียฟเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรนที่ศูนย์ปฏิบัติการทางทหารของอิหร่าน เจ้าหน้าที่ยูเครนชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้เชื่อมโยงกับความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียและยูเครน สื่อท้องถิ่นของยูเครนระบุเมื่อวันจันทร์
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มิคาอิล โปโดเลียก (Mikhail Podoliak)ผู้ช่วยระดับสูงของปธน.เซเลนสกี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีเมื่อวันเสาร์ ที่เขตอุตสาหกรรมทางทหารของอิหร่าน ในเมืองอิสฟาฮาน ทางภาคกลางของประเทศ โดยทวีตว่า “ตรรกะของสงครามเป็นสิ่งที่ไม่ยอมให้อภัยและเป็นการฆาตกรรม มันออกใบเรียกเก็บเงินจากผู้เขียนและผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างเข้มงวด ค่ำคืนแห่งการระเบิดในอิหร่าน ลงโทษการผลิตโดรนและขีปนาวุธ, โรงกลั่นน้ำมัน ยูเครนเตือนคุณแล้ว”
เคียฟและพันธมิตรตะวันตกกล่าวหาอิหร่านหลายครั้งว่าจัดหาโดรนให้รัสเซียเพื่อใช้ในความขัดแย้งในยูเครน ทั้งรัสเซียและอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหา ในขณะเดียวกัน เตหะรานยอมรับว่าได้ขายโดรนบางส่วนไปยังมอสโกว์ก่อนรัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งถือเป็นการค้าขายปกติ
ตามรายงานของสำนักข่าว ILNA ของอิหร่าน จากทวีตของโปโดเลียกเป็นการแสดงให้เห็นถึง“การยอมรับโดยปริยายของการมีส่วนร่วมของเคียฟ ในการโจมตี รายงานกล่าวว่าอุปทูตยูเครนถูกเรียกตัวไปยังกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านซึ่งเขาถูกขอให้อธิบายสิ่งนี้
กระทรวงกลาโหมอิหร่านเปิดเผยผลการโจมตีเมื่อวันเสาร์ว่า“ไม่ประสบความสำเร็จ”และไม่มีผู้เสียชีวิต โดรนสามารถสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยต่อหลังคาโรงปฏิบัติงาน”
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานอ้างแหล่งข่าวสหรัฐฯว่า การโจมตีดำเนินการโดยหน่วยมอสสาดของอิสราเอล ในขณะเดียวกัน รายงานของสื่ออาหรับ อัลอาราบิยา (Al-Arabiya) ระบุว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ และ“อีกหนึ่งประเทศ”เข้าร่วมในการโจมตี แม้ว่าเพนตากอนจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ และอิสราเอลก็งดแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ออกมาปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น แต่แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงอิหร่านเผยกับสื่อทาซซ์ของรัสเซียว่า “การเน้นย้ำของยูเครนต่อภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านสามารถเป็นพื้นฐานในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เกี่ยวกับสงครามในยูเครน และการนำแนวทางใหม่มาใช้ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของรัฐบาลเคียฟ”
ในความเคลื่อนไหวที่เดือดระอุนี้ ปรากฎรายงานข่าวว่า ผู้บริหารซีไอเอ ไปเยือนทางการปาเลสไตน์และต่อเครื่องไปยังอิสราเอล ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคนเยือนอิสราเอล พบกับเนทันยาฮู ผู้นำคนใหม่ของอิสราเอล ที่กำลังเผชิญกระแสต่อต้านจากประชาชนอิสราเอลว่าเป็นรัฐบาลสุดโต่งที่จะทำให้อิสราเอลพบกับภัยพิบัต
นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงเทลอาวีฟเมืองหลวงของอิสราเอล ในวันจันทร์ที่ ๓๐ ม.ค.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้อิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ผ่อนคลายความตึงเครียดหลังจากความรุนแรงที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ภูมิภาคนี้ตกอยู่ในอันตราย การนองเลือดทำให้ฝ่ายบริหารของ ไบเดน ตื่นตระหนกในขณะที่พยายามหาจุดร่วมกับรัฐบาลฝ่ายขวาใหม่ของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ในวันเดียวกันไม่นาน ก่อนที่บลิงเคนจะมาถึงอิสราเอล กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เปิดเผยว่ากองกำลังของอิสราเอลสังหารชายชาวปาเลสไตน์อีกคนหนึ่งในเมืองเฮบรอน (Hebron) ซึ่งทำให้จำนวนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารในเดือนมกราคมอยู่ที่ ๓๕ คนแล้ว
คำพูดสวยหรูของวีไอพีสหรัฐฯ ไม่ได้ช่วยให้่สถานการณ์ดีขึ้น การเข่นฆ่าทำลายของกองกำลังอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไป การโจมตีด้วยจรวดในเวสต์แบงก์ก็เริ่มขึ้นแล้วโดยอิสราเอลอ้างตอบโต้กลุ่มฮามาสที่โจมตีแก้แค้น สถานการณ์ร้ายแรงแค่ไหน ขนาดผู้นำทางการของปาเลสไตน์ที่มีสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐและอิสราเอลมาโดยตลอดถึงกับประกาศยุติสัมพันธ์กับอิสราเอลจนกว่าจะหยุดปราบปราม
โลกกำลังจับตาดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในจุดวาบไฟของตะวันออกกลางทั้งในเวสต์แบงก์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และเตหะรานกับเทลอาวีฟ ภายใต้วาระวอชิงตันจะโหมไฟเพิ่มหรือจะสยบเดือด???