เปิด 3 นายทุนใหญ่สหรัฐฯ จ้องฮุบแร่หายากในยูเครน ส่อถูกรัสเซียชิงตัดหน้า นำผลิตอาวุธหนักโต้กลับ

0

เปิด 3 นายทุนใหญ่สหรัฐฯ จ้องฮุบแร่หายากในยูเครน ส่อถูกรัสเซียชิงตัดหน้า นำผลิตอาวุธหนักโต้กลับ

จากกรณีสถานการณ์การสู้รบในยูเครน โดยกองทัพรัสเซีย ได้บุกยึดเมืองหลายแห่ง พร้อมกับทำลายอาวุรธยุทโธปกรณ์ของชาติตะวันตกที่ส่งมาให้ยูเครนพังเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ฝ่ายสหรัฐและชาตินาโต้ ก็ยังคงส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเมื่อวานนี้ (30 มกราคม 2566) ทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีรัสเซียจ่อชิงแหล่งแร่ไทเทเนียมในยูเครน เพื่อนำมาผลิตอาวุธใหญ่ โดยบอกว่า “ที่ใดมีทรัพยากรมาก ที่นั่นมีสงคราม” คือ คอนเซปของฝ่ายระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวมาตลอด การที่สหรัฐ และ NATO ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย โดยใช้ยูเครนเป็นฉากหน้า นอกจากต้องการจะทำให้รัสเซีย ที่มีทรัพยากรมากล้น อ่อนแอ จนแตกสลายให้เป็นประเทศเล็ก เพื่อแย่งชิงทรัพยากรมาเป็นของชาวตะวันตกแล้ว

นิตยสาร Newsweek ยังระบุว่า สหรัฐ ทำสงครามในยูเครน เพื่อแย่งชิง “แร่ไทเทเนียม” เพราะยูเครนเป็น 1 ใน 5 ประเทศของโลก ผู้ผลิตแร่ไททาเนียมเข้มข้น หากยูเครนชนะ สหรัฐ และ NATO จะได้ประโยชน์มหาศาลในการทำเหมืองแร่ไทเทเนียม

แร่ชนิดนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารขั้นสูงในชาติตะวันตก สหรัฐฯ จึงน้ำลายสออย่างเปิดเผยเหนือแหล่งแร่ไททาเนียม ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เปิดเหมืองจำนวนมากของยูเครน ใต้ดินของ ยูเครน มีความมั่งคั่งทางแร่ธาตุจำนวนมหาศาล เป็นแหล่ง Supply แร่ไททาเนียมให้กับสหรัฐฯ และ NATO ที่พวกเขาต้องการในการสร้างเครื่องบินรบ เรือรบ รถถัง ขีปนาวุธพิสัยไกล และอาวุธอื่นๆ ที่จำเป็นในการเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีน
ที่มีแร่แรเอิร์ธเป็นของตนเอง อันดับต้นของโลก ชาติใดครองแร่ไทเทเนียม ยูเรเนียมจะเป็นมหาอำนาจทางอาวุธ ชาติใดครองแร่แรเอิร์ธอื่นจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

ยูเครน มีแหล่งแร่ธาตุแรเอิร์ธ หายากจำนวนมาก จึงดึงดูดให้ชาติตะวันตกมาทำสงครามกับรัสเซีย เพื่อช่วงชิงแร่ไททาเนียม สหรัฐ หวังว่าแร่ชนิดนี้จะสามารถเพิ่มการผลิตเครื่องบินขาย สามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ขายได้มากขึ้น
เมื่อก่อนสงครามคราวนี้ รัสเซียเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์แร่หลักแก่สหรัฐ ที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าแร่เหล็กมากกว่า 90% และสหรัฐ ก็ไม่มีสต็อคสำรองแร่ไททาเนียมไว้ในคลังผลิตอาวุธของตน

ปัจจุบัน สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากเย็นแสนเข็ญต่อการครอบครองธาตุหายากเหล่านี้ของจีน แม้แต่เครื่องบินรบเทพ F-35 ที่แพ้นก ก็ยังต้องก้มหน้ายอมอายพึ่งพาแร่หายากจากจีน ทำให้สหรัฐ ปวดใจมาก
จึงส่องหาและต้องการใช้ทรัพยากรมหาศาลแร่ไทเทเนียมและแร่ธาตุอื่นๆ ในยูเครน เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่สามารถผลิตแร่ไททาเนียมในปริมาณมหาศาล ที่เป็นพื้นฐานของโลหะ

ปัจจุบัน จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย คาซัคสถาน อินเดีย มีอุตสาหกรรมผลิตแร่ไททาเนียม หลายร้อยตัน แต่สหรัฐ และชาติตะวันตก กระหายหิวแร่นี้ในปริมาณมากขึ้นหลายพันหรือหลายหมื่นตัน เพื่อปรนเปรอความต้องการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ขาย แร่ไททาเนียมปริมาณมหาศาลยังจำเป็นสำหรับการผลิตเครื่องบินพาณิชย์ ขาเทียม สีบางประเภท เครื่องมือผ่าตัด อุปกรณ์โทรคมนาคม และอื่นๆ ดังนั้นชาติตะวันตก จึงต้องการดินแดนของยูเครน เป็นอาณานิคมทรัพยากรของพวกตน เพราะแร่ไททาเนียมและลิเธียม จะเป็นที่ต้องการอย่างมากขึ้นในอนาคต

ยูเครน จึงทำให้ชาติตะวันตกน้ำลายสอ ในโอกาสทางธุรกิจแร่ที่ไม่ใช่ Supply ให้แค่สหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้งโลกด้วย แต่หากรัสเซียได้ควบคุมทรัพยากรเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ไป จะส่งเสริมอิทธิพลร่วมกับจีน ต่อชาติทั่วโลกในการจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว

ยุโรปจึงพยายามทำสัญญาระยะยาวกับยูเครนเพื่อสร้างรากฐานทางวัตถุดิบแร่ที่ยั่งยืน ทั้งในแง่ของการผลิตอาวุธขายและเศรษฐกิจ โดยแร่ไททาเนียม เป็นเพียงหนึ่งในทรัพยากรหลายสิบชนิดที่ยูเครนมีอยู่ใต้ดินอย่างล้นเหลือ
นอกจากนี้พื้นที่ยูเครน ยังจัดเป็นทุ่งเชอร์โนเซม (ดินดำ) อันกว้างใหญ่ไพศาลเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงซึ่งอุดมไปด้วยสารประกอบฮิวมัส ฟอสฟอรัส และแอมโมเนีย รวมถึงโลหะอื่นๆ เช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน และยูเรเนียม

ปลายปีก่อน 2565 กองทุนเฮดจ์ฟันด์ BlackRock ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ลงนามกับรัฐบาลยูเครน เพื่อเป็นที่ปรึกษาในการฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน มีประวัติทำธุรกิจมายาวนานร่วมกับกองทุน Black Rock นี้ กองทุนนี้คือเจ้าหนี้สาธารณะรายใหญ่ที่สุดของยูเครน รองลงมาคือนักลงทุนต่างชาติตะวันตก ธนาคารและสถาบันการเงินระดับโลก ทำให้ในปี 2020 รัฐสภาของยูเครนได้ออกกฎหมาย “ขายพื้นที่การเกษตรที่อุดมด้วยเชอร์โนเซม”

เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถกว้านซื้อที่ดินเท่าไรก็ได้ทันที จากเดิมที่จะต้องเช่าที่ดิน และเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการที่ชาติตะวันตกให้กู้เงินและอาวุธมาทำสงคราม ปัจจุบันกองทุน BlackRock , JPMorgan และ Goldman Sachs คือสปอนเซอร์เจ้าหนี้รายใหญ่ในสงครามยูเครน ศูนย์อุตสาหกรรมทางทหารของสหรัฐฯ ก็คาดหวังจะทำธุรกิจขนาดใหญ่จากทรัพยากรยูเครน ตั้งแต่อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร ไปจนถึงการก่อสร้าง , การสื่อสาร , ไอที , การเกษตร , การขนส่ง , ธนาคาร , การแพทย์ ฯลฯ

ที่ดินทุกตารางนิ้วในยูเครน จึงถูกชาติตะวันตกจับจองหมดแล้วตามสัดส่วนหนี้ ใครเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่มากสุดก็จะได้ทรัพยากรมากตามไปด้วย โปแลนด์จึงทุ่มอาวุธเพื่อหวังจองที่ดินทางแคว้นลวิฟ ตะวันตกยูเครน ส่วนสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี จองภาคใต้และตะวันออก แต่ถูกรัสเซียชิงดินแดนไปแล้วกว่า 20% และกำลังชิงดินแดนที่มีแร่แรเอิร์ธ ทุ่งเชอร์โนเซม (ดินดำ) ส่วนใหญ่ ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน

สหรัฐ และ NATO แพ้สงครามในอัฟกานิสถาน เสียเหมืองแร่แรเอิร์ธให้จีนไปแล้วจนหลังชนฝาขาดวัตถุดิบผลิตอาวุธ ถ้าแพ้สงครามยูเครนอีก ชาวตะวันตกจะถูกรัสเซีย-จีน ปิดล้อมตัด Supply แทบไม่เหลือแหล่งแร่ในการผลิตอาวุธร้ายแรง เหลือแค่สวีเดน ออสเตรเลีย ละตินอเมริกา แอฟริกา ที่พอจะก่อสงครามแย่งชิงทรัพยากรแร่แรเอิร์ธ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สหรัฐ และ NATO คงต้องผลิตอาวุธจากธนูไม้ ขายแทนรถถัง เครื่องบิน และจรวดแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454