เกาหลีเหนือประณามสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจส่งรถถังให้ยูเครน น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศกล้าว่าจะร่วมหัวจมท้ายกับกองทัพและประชาชนของรัสเซียไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เดือดระอุในสงครามตัวแทนยูเครน และสภาวะการถูกกระตุ้นความขัดแย้งในเอเชียที่ดำเนินการโดยสหรัฐฯผ่านยุทธศาสคร์อินโด-แปซิฟิก
ในขณะที่การเคลื่อนไหวของเกาหลีใต้ เผยแพร่ข่าวว่าจะมีการพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนืออีกครั้ง แต่กลับเดินหน้าร่วมมือกับสหรัฐและญี่ปุ่นซ้อมรบครั้งใหญ่ป้วนเปี้ยนในคาบสมุทรเกาหลี และยังปูดข่าวเตรียมจะซ้อมรบนิวเคลียร์สหรัฐฯอีก
วันที่ ๒๙ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และมิลิทารี่รีวิว รายงานว่า คิม โยจอง(Kim Yo-jong) น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือแสดงความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธในยูเครนและการเผชิญหน้าทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและกลุ่มประเทศตะวันตก เปียงยางเตือนว่า การแทรกแซงของสหรัฐฯ ในยูเครนจะจุดชนวนความขัดแย้งในวงกว้างทั่วยุโรป
น้องสาวผู้มีอิทธิพลของคิม จอง อึน ประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการจัดหารถถังต่อสู้ขั้นสูงให้ยูเครนเพื่อช่วยต่อสู้กับกองกำลังรัสเซีย โดยกล่าวหาวอชิงตันว่าล้ำเส้น “เส้นแดง” และเพิ่ม “สงครามตัวแทน” ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายล้าง มอสโกว์
คิม โยจอง กล่าวในถ้อยแถลง ซึ่งเป็นการกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนว่า “ฉันแสดงความกังวลอย่างมากต่อการที่สหรัฐฯ ยกระดับสถานการณ์สงครามด้วยการจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารแก่ยูเครนสำหรับการรุกภาคพื้นดิน” “สหรัฐฯ เป็นอาชญากรตัวฉกาจที่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงและท้าทายต่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย และผลักดันสถานการณ์ในภูมิภาคให้เข้าสู่ระยะร้ายแรงในปัจจุบัน”
ความคิดเห็นของคิม โยจองเน้นย้ำถึงแนวร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของเกาหลีเหนือกับรัสเซียเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ขณะเดียวกันก็เผชิญหน้ากับสหรัฐฯ และพันธมิตรในเอเชียเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่กำลังเติบโต
เธอกล่าวว่า “เกาหลีเหนือจะอยู่เคียงข้างรัสเซียเสมอ “ในร่องลึกเดียวกัน” กับกองทัพและประชาชนรัสเซีย”
น้องสาวของผู้นำเปียงยาง ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าแผนกของคณะกรรมการกลางของพรรคคนงาน รองผู้อำนวยการฝ่ายการตอบโต้และการโฆษณาของคณะกรรมการกลางแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือ DPRK
เธอตั้งข้อสังเกตว่าสหรัฐอเมริกาสูบฉีดยูเครนด้วยอาวุธกระตุ้นความไม่มั่นคงในโลก
Kim Yo-jong ตอกย้ำว่า “ประเทศตะวันตกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะไม่สามารถ “ทำลายจิตวิญญาณแห่งวีรบุรุษของ กองทัพและประชาชนของรัสเซีย” และอาวุธทั้งหมดที่พวกเขาส่งไปยังเคียฟ ย่อมจะ “มอดไหม้กลายเป็นเศษเหล็ก”
เกาหลีเหนือกล่าวโทษสหรัฐฯ สำหรับวิกฤตในยูเครน โดยยืนยันว่า “นโยบายเจ้าโลก” ของตะวันตกบังคับให้รัสเซียต้องดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ
เธอเป็นที่รู้จักของสังคมโลก จากคำพูดที่กล้าหาญเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในการเมืองระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ เธอพูดอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของทางการเกาหลีใต้เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของ DPRK ว่าเป็นการยั่วยุ เธอได้เปรียบเทียบทางการเกาหลีใต้กับ “สุนัขไร้บ้านที่แทะกระดูกที่สหรัฐฯ โยนทิ้ง” และยังเสริมด้วยว่า โซล “ไม่รู้จักวิธีใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย”
น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือยังตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรที่ประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ลงโทษเปียงยาง โดยเรียกการลงโทษเหล่านี้ว่าไร้ประโยชน์ และเสริมว่าโซลอาจบังคับใช้มากกว่านั้น “อย่างน้อยพันเท่า”
เกาหลีเหนือยังเป็นประเทศที่ยอมรับเอกราชของโดเนตสค์และลูฮานสค์ สองภูมิภาคในภาคตะวันออกของยูเครนที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว และแย้มเป็นนัยถึงแผนการส่งคนงานไปที่นั่นเพื่อช่วยเหลือในการสร้างเมืองใหม่ด้วย
ก่อนหน้านี้ จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวหาผู้นำเกาหลีเหนือว่าจัดหาอาวุธให้รัสเซีย โดยกล่าวหาว่าส่งให้กลุ่ม Wagner PMC มีพื้นฐานมาจากข้อมูลเกี่ยวกับ ตู้รถไฟของรัสเซียที่ส่งของไปยังเที่ยวบินไปกลับจากรัสเซียไปยังเกาหลีเหนือเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทางเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าวหลายครั้ง
ด้านมอสโกว์ได้เสนอคำเตือนที่คล้ายกันเกี่ยวกับการแทรกแซงของต่างชาติในยูเครน โดยให้เหตุผลว่า การขนส่งอาวุธที่ไม่หยุดยั้งเป็นเพียงการยืดอายุความขัดแย้งและเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าโดยตรงกับพันธมิตรนาโต้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีความช่วยเหลือทางทหารจำนวนเท่าใดที่จะขัดขวางรัสเซียจากการบรรลุเป้าหมาย โดยโฆษกของเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ประกาศว่า รถถังของตะวันตกจะ”ถูกเผา”ในสนามรบของยูเครน