จากที่สาธารณสุขระบุขณะนี้ผู้ติดไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกทะลุ 2,250, 751 ราย เสียชีวิตแล้ว 154,261 ราย โดยสหรัฐผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 710,021 ราย เสียชีวิตรวม 37,158 ราย ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ในสหรัฐ ซึ่งสรุปเป็นรายงานมาเสนอดังนี้ 1.สำนักข่าว CNN รายงานว่ามีการประท้วงต่อต้านคำสั่ง “อยู่บ้าน” เพื่อลดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายรัฐในอเมริกา 2.รัฐที่มีผู้ออกมาประท้วงคือ มิชิแกน โอไอโอ เคนทักกี นอร์ท แคโรไลน่า และยูทาห์ 3.แกนนำผู้ประท้องมีทั้งฝ่ายพรรคริพับลิกันและพรรคเดโมแครต
4.ทั้งหมดให้เหตุผลแบบเดียวกันเรื่องความพังพินาศของระบบเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่กว่าการหยุดยั้งการแพร่ระบาด(โควิด-19) 5. การประท้วงในหลายที่เช่น มิชิแกน ผู้ประท้วงจะขับรถออกมาและประท้วงอยู่ในรถ โดยเรียกการประท้วงนี้ว่า “ปฏิบัติการกริดล็อค” (operation gridlock) มีขบวนรถประท้วงยาวนับไมล์ 6.คนที่ไม่มีรถออกมาเดินบนถนนก็จะอ้างว่ามีการรักษาระยะห่างระหว่างผู้ประท้วงด้วยกันเอาไว้
7.หนึ่งในผู้ประท้วงที่มิชิแกนกล่าวว่า “เราเข้าใจว่าเรื่องเชื้อไวรัส(โควิด-19)ก็สำคัญ แต่เรากำลังไปสู่ประเด็นที่ว่า เราปิดกันจนเกินกว่าที่จะปิดแล้วหรือยัง 8.ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน Gretchen Whitmer พรรคเดโมแครต กล่าวว่า ผู้ประท้วงมีเพียงส่วนน้อย และเป็นสิทธิของพวกเขาที่จะประท้วง ผู้คนรู้สึก “ใกล้บ้า” เวลาอยู่บ้าน(แบบนี้)และเป็นกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ยิ่งออกมาประท้วงมากเท่าไหร่ ยิ่งใช้เวลาประท้วงกันนานขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสกระจายเชื้อเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
9.ที่มินนิโซตา ผู้ประท้วงได้อ้างคำพูดของผู้ว่าการรัฐที่เคยกล่าวว่า “แม้จะมีการแพร่ระบาด(ไวรัสโควิด-19)แต่เราต้องไม่สูญเสียความเป็นประชาธิปไตยของเรา” และกล่าวว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้คือการรักษาสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญข้อแรกของอเมริกา 10.ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ยังกล่าวว่า การขยายตรวจด้วยชุดทดสอบและระบบการติดตามต้องมีก่อนที่จะ”กลับมาเปิดสังคมอีกครั้ง” และจำเป็นต้องทำในขนาดที่มหาศาล
11.ที่เคนทักกี ผู้ว่าการรัฐ Andy Beshear กล่าวว่าผู้นำประท้วงยื่นคำขาดให้สั่งให้กลับมาเปิดสังคมในทันที “นั่นคือการฆ่าคน…มันคือการฆ่าแน่ๆ” 12.สมาคมพยาบาลมิชิแกนระบุว่า การประท้วงนี้เป็นการกระทำที่ “ไม่รับผิดชอบ” และเป็นการส่งสารที่ตรงข้ามกับสิ่งที่แพทย์ และพยาบาลกำลังวิงวอนร้องขออยู่คือการยับยั้งการแพร่ระบาด(ไวรัสโควิด-19)ที่ดีที่สุดคือ “ได้โปรดหยุดอยู่บ้าน”
อย่างไรก็ตามการยกเลิกคำสั่งปิดเมืองในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า รัฐที่ควรเริ่มเปิดเมืองก่อน ได้แก่ มินเนโซตา มิชิแกน และเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีผู้ว่าการเป็นสมาชิกสังกัดพรรคฝ่ายค้านเดโมแครต
หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการประท้วงเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐดังกล่าวยกเลิกมาตรการหยุดอยู่บ้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเรียกประชุมผู้ว่าการรัฐเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันให้ผู้ว่าการรัฐเป็นคนตัดสินใจ
ขณะที่นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา กล่าวด้วยว่า พยายามขอหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ หลังทราบเรื่องดังกล่าว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถหารือได้ โดยเขายังยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าใช้มาตรการปิดเมืองต่อไป เพราะหากปล่อยให้ประชาชนกลับไปทำงานได้ตามปกติ พวกเขาก็จะยิ่งเสี่ยง เนื่องจากระบบการป้องกันและรักษาไวรัสโควิด-19 ยังไม่รองรับ
ด้านนายเจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่าการแนะให้ทั้ง 3 รัฐยกเลิกการบังคับใช้มาตรการปิดเมืองของผู้นำสหรัฐฯ เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการฝ่าฝืนกฎหมายและทำให้เกิดอันตรายอย่างมาก เพราะจะทำให้ประชาชนหลายล้านคนกลับไปเสี่ยงชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส(โควิด-19)อีกครั้ง
ที่มา : https://edition.cnn.com/2020/04/16/us/protests-coronavirus-stay-home-orders/index.html