เมการะส่ำ!? จอร์เจียประกาศภาวะฉุกเฉิน อีก ๕ เมืองจัดกำลังเตรียมรับจลาจล BLM-แอนตี้ฟาคืนชีพอาละวาด

0

มลรัฐจอร์เจียประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ขณะที่เมืองใหญ่ ถึง ๕ เมือง แจ้งเตือนเหตุความไม่สงบจากการเคลื่อนไหวของกลุ่ม BLM หลังจากการจลาจลที่แอตแลนตาลามต่อหลายเมืองใหญ่มีการเคลื่อนไหวที่รีพับลิกันกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด

กรณีร้อนเกิดขึ้นเมื่อชายผิวสีถูกจับและเสียชีวิตในสภาพมีการถูกซ้อมระหว่างถูกควบคุมตัว ก่อความโกรธแค้นปลุกเร้าให้กลุ่ม Black Live Matter และกลุ่มแอนตี้ฟา คืนชีพ และกำลังเป็นที่จับตาว่าเบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะซ้ำรอยในสมัยทรัมป์ที่มีพรรคเดโมแครตหนุนหลังหรือไม่ เพราะหลังเลือกตั้งไบเดนชนะ ผู้นำBLM หลายคนร่ำรวยตามๆกัน ในขณะที่สถานภาพชีวิตของคนผิวสียังไม่มีอะไรกระเตื้องอย่างจริงจัง ความโกรธแค้นของคนผิวสีกลับมาลงกับอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ถูกปลุกปั่นว่าเป็นแหล่งต้นกำเนิดไวรัสโควิด-๑๙

“แอนติฟา” คือกลุ่มเครือข่ายนักเคลื่อนไหวซ้ายจัด เป็นกองกำลังแนวคิดสุดโต่งที่กระตุ้นให้เกิดการจลาจลระหว่างการประท้วงในหลายเมืองเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ “จอร์จ ฟลอยด์” สนับสนุนขบวนการของ BLM ในสมัยทรัมป์จะเคลื่อนไหวปะทะกับกลุ่มพราวด์บอยที่หนุนทรัมป์อยู่เสมอ

วันที่ ๒๘ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า ตำรวจในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี เตรียมเผยแพร่วิดีโอบอดี้แคมของการจับกุมไทร์ นิโคลส์ (Tyre Nichols) ชายผิวสีที่เสียชีวิตในโรงพยาบาล ๓ วันต่อมาจากการชันสูตรพลิกศพที่ระบุว่าเป็นการ “ทุบตีอย่างรุนแรง”

เมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการจลาจลหลังจากเหตุรุนแรงเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วในแอตแลนตารัฐจอร์เจีย เนื่องจากชายผิวสีคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากถูกจับกุม

ไบรอัน เคมพ์ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย(Georgia state Governor: Brian Kemp) ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลไปจนถึงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และเรียกกองทหารรักษาการณ์แห่งชาติ ๑,๐๐๐ นายเพื่อป้องกันในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นอีก

“ชาวจอร์เจียเคารพการประท้วงอย่างสันติ แต่ไม่ยอมรับการกระทำรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน” เคมพ์เขียนในคำสั่งของเขา โดยเน้นว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินท่ามกลาง “การชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ความรุนแรง การคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง การก่อกวนสันติภาพ และความร่มเย็นในภาวะนี้และภยันตรายที่มีแก่บุคคลและทรัพย์สิน”

มีรายงานว่าเมืองต่างๆ ที่ห่างไกลอย่างออสติน เท็กซัส ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย และวอชิงตัน ดี.ซี. กำลังเตรียมพร้อมที่จะป้องกันผู้ก่อการจลาจล

กรมตำรวจ เมืองเมมฟิสรัฐเทนเนสซี เตรียมเผยแพร่ภาพจากกล้องติดร่างกายของเจ้าหน้าที่ ๕ นาย ทั้งหมดเป็นชายผิวดำ บันทึกการจับกุมไทร์ นิโคลส์ เมื่อวันที่ ๗ ม.ค.ที่ผ่านมาในข้อหาขับรถโดยประมาท

นิโคลซึ่งวิ่งหนีจากเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งก่อนที่จะถูกอีกกลุ่มหนึ่งจับได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในอีกสามวันต่อมา ผลชันสูตรเบื้องต้นจากครอบครัวของเขาพบหลักฐานของ “เลือดออกมากที่เกิดจากการถูกตีอย่างรุนแรง” เจ้าหน้าที่ทั้ง ๕ นายถูกไล่ออก ถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย และประพฤติมิชอบ

ด้านเมืองออสติน(Austin PD) เปิดเผยว่า “จะเข้าสู่สถานะการแจ้งเตือนทางยุทธวิธีตั้งแต่เช้าวันศุกร์”

กรมตำรวจนครบาลวอชิงตัน (MPD) กล่าวว่าได้ “เปิดใช้งานเจ้าหน้าที่สาบานตนทั้งหมดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมการแก้ไขทันที ที่อาจเกิดขึ้นในเขตโคลัมเบีย” ซึ่งหมายถึงการคุ้มครองเสรีภาพในการพูดตามรัฐธรรมนูญ

MPD กล่าวว่าเข้าใจดีว่าวิดีโอบอดี้แคม “มีเนื้อหาที่สร้างความไม่พอใจซึ่งไม่ได้แสดงถึงคุณค่าที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสาบานว่าจะรักษาไว้”

คดีของนิโคลส์ สะท้อนถึงคดีการทุบตีของเจ้าหน้าที่ตำรวจลอสแองเจลิสต่อ รอดนีย์ คิง(Rodney King) ในปี ๑๙๙๑ หลังจากที่เขานำรถตำรวจทางหลวงไล่ล่าด้วยความเร็วสูง ผ่านย่านที่อยู่อาศัยภายใต้อิทธิพลของการดื่มและยาเสพติด และการเสียชีวิตกรณีของ จอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ในปี ๒๐๒๐ ขณะที่เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ในมินนิอาโปลิสระหว่างการจับกุม

การพ้นผิดของเจ้าหน้าที่ที่ทุบตี รอดนีย์ คิงจุดชนวนให้เกิดจลาจลในแอลเอ ขณะที่การเสียชีวิตของฟลอยด์มีส่วนทำให้เกิดการประท้วงและการจลาจลทั่วประเทศระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี ๒๕๖๓ กลุ่มBLMขยายการเคลื่อนไหวไปสู่ระดับสากลทั่วโลก

ผู้ก่อการจลาจลสวมหน้ากากชุดดำในนามกลุ่ม ‘แอนติฟา’ พากันไปตามถนนในแอตแลนตา ห่างจากเมมฟิสมากกว่า ๓๐๐ ไมล์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงที่ตำรวจสังหารนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางการระบุว่าเป็นผู้ยิงทหารของรัฐ

ผู้ก่อการจลาจลทุบหน้าต่างและจุดพลุไฟนอกอาคารที่มูลนิธิตำรวจแอตแลนตา ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน เป็นผู้อบรมการวางแผนและฝึกพื้นฐานแก่กรมตำรวจของเมือง ธุรกิจในท้องถิ่นก็พลอยถูกโจมตีเช่นกัน

ผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย ๖ คนถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาฐานก่อการร้ายในประเทศ พบบางรายมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองทั้ง ๖ คนซึ่งระบุตัวได้ เป็นคนขาวที่มีแนวคิดสุดโต่งทั้งหมด มีชื่อว่า อีวาน เฟอร์กูสัน แห่งเนวาดา; เกรแฮม เอวัตต์(Graham Evatt) แห่งดีเคเตอร์ จอร์เจีย; นัดจา เกียร์(Nadja Geier) จากแนชวิลล์ เทนเนสซี; มาเดลีน ฟีโอลา (Madeleine Feola) แห่งสโปแคน วอชิงตัน; ฟรานซิส คาร์รอล แห่งเคนเนบังค์พอร์ต รัฐเมน; และเอมิลี เมอร์ฟี่ (Emily Murphy) จากกรอสส์ ไอล์ (Grosse Isle) รัฐมิชิแกน