ชาวบ้านรวมตัวประท้วงเรียกร้องผลักดันแรงงานต่างด้าวชาวเมียร์ม่า จำนวน 32คน เรียกร้องให้ทางราชการเข้าตรวจสอบ พร้อมวัดไข้พบมีไข้สูง 37.5 จำนวน 5-6 คน บริษัทจึงยอมย้ายแรงงานออกจากพื้นที่
วันที่ 17 เมษายน 2563 ชาวบ้านรวมตัวประท้วงเรียกร้องผลักดันแรงงานต่างด้าวชาวเมียร์ม่า จำนวน 32คนของบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังที่เคลื่อนย้ายมาจาก จ.สงขลา เข้ามาในพื้นที่ เพื่อรับงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.ท่าศาลา และตั้งแคมป์พักอาศัยอยู่ในซอยลุงคล่อง(คลองเคย) ใกล้ปั้มเชลล์ท่าศาลา หมู่ 11 ต.ท่าศาลา เขตเทศบาลตำบลท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สร้างความหวาดผวากลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 11 หมู่ 5 หมู่ 9 เป็นอย่างมาก จนมีการเรียกร้องให้ทางราชการเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามาตรการของการควบคุมป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ผลักดัน และทาง อบต.และเทศบาลตำบลท่าศาลา ได้เข้ามาสอบทำประวัติพร้อมวัดไข้พบมีไข้สูง 37.5 จำนวน 5-6 คน
ในขณะที่นางโต๊ะนี่ เซ้งปุ่น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233/7 หมู่ 11 บ้านคลองเคย ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมชาวบ้านหมู่ 11 หมู่ 5 และหมู่ 9 ต.ท่าศาลา ได้ยื่นคำขาดให้ทางอำเภอท่าศาลาผลักดันแรงงานต่างด้าวทั้งหมดพ้นไปจากพื้นที่ภายใน 18.00 น.วันนี้ อย่างไรก็ตามในขณะนายพงษวิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา พยายามชี้แจงกับชาวบ้านที่รวมตัวเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตัวแทนชาวบ้านได้ตอบโต้การชี้แจงของนายพงษวิณัย ชูยก อย่างดุเดือดร้อน โดยระบุว่าหลังจากพื้นที่ อ.ท่าศาลา มีผู้ติดเชื่อคนแรก ชาวบ้านทั้งไทยพุทธ มุสลิม ได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติการตามมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด โดยมีนายอภินนท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา เป็นแกนนำในการระดมกำลังทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้ยุติลงได้ ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกเลย
“เจ้าที่ทุกภาคส่วนทั้ง อบต., เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และประชาชนจิตอาสาทุ่มเททำงานหามรุ่งหามค่ำแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในอำเภอท่าศาลากลับไม่ให้ความสำคัญปล่อยปละละเลยเสียเอง ท่านนายอำเภอมีอำนาจเต็มในการสั่งการท่านต้องเอาจริงเอาจัง แม้แต่ลูกบ้านที่เดินทางไปต่างประเทศ ต่างจังหวัดจะกลับมากำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นไม่ยอมให้กลับเข้ามาในพื้นที่จนกว่าจะผ่านการตรวจสอบและกักตัว 14 วัน แต่กลับมาการนำแรงงานต่างดาวชาวพม่าข้ามจังหวัดเข้ามาถึง 32 คนรวมเด็กเล็กอีก 2 คน โดยไม่แจ้งให้ทราบและไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดกรอง ตรวจวัดไข้ตามมาตรการที่กำหนด ชาวบ้านใน ต.ทาศาลาทุกหมู่บ้านรับไม่ได้ และจะเดินทางมารวมตัวเรียกร้องมากกว่านี้หลายเท่า แต่ชาวบ้านยังให้เกียรตินายอำเภอจึงมารวมตัวกันไม่มากนัก จึงขอให้รีบผลักดันออกจากพื้นที่โดยเร็ว”
ทางนายพงษ์วิณัย ชูยก พร้อมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอจึงขอให้นายเปิ้ล ผู้ควบคุมคนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างนำแรงงานต่างด้าวออกไปจากพื้นที่ แต่ปรากฏว่านายเปิ้ล มีท่าทีไม่ยินยอมโดยอ้างว่าไม่มีรถยนต์บรรทุกนำแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก และพากันตะโกนขับไล่พร้อมกรูกันเข้าไปกดดันขับไล่แรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่
จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ อส.ต้องเขาขวางเพื่อป้องกันเหตุการณ์รนแรงบานปลาย ในที่สุดนายเปิ้ล จึงยินยอมนำแรงงานต่างด้าวชาวเมียร์ม่าออกจากพื้นที่ทันทีโดยใช้รถยนต์ 6 ล้อเป็นพาหนะนำกลับไปอยู่ในไซส์งานที่เดิมใน อ.ระโนด จ.สงขลา แต่ขอเหลือคนงานไว้ 4 คนเพื่อเก็บข้าวของให้เรียบร้อยก่อนนำรถบรรทุก 6 ล้อกลับมาขนข้าวของเดินทางตามไปในเย็นวันเดียวกันนี้ ท่ามกลางเสยงไชโยโห่ร้องของชาวบ้านด้วยความดีใจ
ซึ่งก่อนเดินทางนายฤทธิรณ บุญฤทธิ์ หรือผู้ใหญ่โดด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้ควักเงินส่วนตัวซื้อข้าวกล่องและน้ำมาเลี้ยงแรงงานต่างด้าวเมียร์ม่าทุกคน พร้อมกล่าวย้ำกับแรงงานต่างด้าวว่า ชาวท่าศาลาไม่ได้รังเกียจหรือรังแกชาวเมีย์ม่า ชาวท่าศาลาพร้อมที่จะอ้าแขนรับทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา แต่ในสถานการณ์วิกฤติลักษณะนี้บ้านเมืองมีกฎระเบียบ มีกติกาที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะมาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎระเบียบบ้านเมืองไม่ได้ ชาวท่าศาลาเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎกจิกาอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน เพื่อให้สถานการณ์ที่เลวร้ายกลับมาปกติโดยเร็ว
จึงขอให้ชาวเมียร์ม่าทุกคนเข้าใจด้วย ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดคลี่คลายและเมื่อชาวเมียร์ม่ากินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับไป จ.สงขลาทันที ในขณะที่นายอภินันท์ เชาวลิต นายกอบต.ท่าศาลา ได้ออกหนังสือเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ทั้งของ อบต.ท่าศาลา และเทบาลตำบลท่าศาลา เขารวมปรุมวางแผนในการกำหนดมาตรการในระดับพื้นที่ในวันเสาร์ที่ 18 เม.ย. 2563 ณ.ห้องประขุม อบต.ท่าศาลา เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
ข้อมูลจาก : คมชัดลึก
