ฝรั่งเศสพังยับเยิน! ม็อบฮาร์ดคอร์อาละวาด ก่อจลาจล ปะทะจนท.เดือดแรง ชัตดาวน์ทุกระบบทั้งปท.แล้ว
จากกรณีเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ชาวฝรั่งเศส ได้รวมตัวกันบนท้องถนนของกรุงปารีส ประท้วงคัดค้านนโยบายต่างๆ ของฝรังเศสที่มีต่อรัสเซีย และเรียกร้องให้ประเทศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของนาโต้ ท่ามกลางความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ อันเนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูง ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย
ล่าสุดวันนี้ (23 มกราคม 2566) ทาง World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีสถานการณ์ในฝรั่งเศสที่มีการประท้วงกันอย่างหนัก และเกิดเหตุปะทะกันอย่างรุนแรง โดยบอกว่า ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลถังแตก ชาติในยุโรป จึงได้ขยายอายุเกษียณกันระนาว เช่น อิตาลีและเยอรมนี กำหนดอายุเกษียณ 67 ปี , สเปน 65 ปี , สหราชอาณาจักร 66 ปี เพื่อชลอการจ่ายเงินบำนาญซื้อเวลาออกไปลดความเสี่ยงการล้มละลาย ทำให้ชาวยุโรปที่ทำงานมาทั้งชีวิตเดือดร้อน และสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรง
ปี 2019 ประธานาธิบดีมาครง ผู้นำฝรั่งเศส เคยพยายามจะปฏิรูปเงินบำนาญขยายอายุจากเดิม 62 ปี เป็น 64 ปีแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจอม็อบเสื้อกั๊กเหลืองก่อการจราจลเผาบ้านเผาเมืองทุก 1 สัปดาห์ ยาวนานกว่า 1 ปี ทำลายทุกสิ่งในกรุงปารีส จนรัฐบาลต้องยอมแพ้ยกธงขาวเลิกตรากฎหมายนี้ ตอนนี้รัฐบาลฝรั่งเศสติดหล่มสงครามยูเครน เศรษฐกิจถดถอย คลังถังแตกจึงไม่มีเงินจ่ายบำนาญ และเสี่ยงจะหายนะล้มละลาย จึงไม่เข็ดโดยจะเสนอกฎหมายใหม่เร่งด่วนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 23 ม.ค.2023 นี้
หลักๆ คือ ขยายอายุเริ่มรับบำนาญจากเดิม 62 ปี เพิ่มเป็น 64 ปี รัฐบาลอ้างว่าคนฝรั่งเศสสุขภาพดีขึ้นจึงต้องทำงานให้นานมากขึ้น แต่เป้าแท้จริงคือจะยื้อจ่ายเงินบำนาญไปอีก 2 ปี หวังจะช่วยให้รัฐบาลประหยัดและมีเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น 17,700 ล้านยูโร เอาไปติดหล่มสงครามต่อ
อีกประเด็นคือ ต้องทำงานครบ 43 ปี จึงจะได้รับบำนาญ ทำให้คนที่เรียนนานต่อเนื่องในระดับที่สูงขึ้นเสียเปรียบ เพราะกว่าจะจบทำงานอายุก็มากแล้วจึงไม่ถึงเกณฑ์ครบอายุ ภายใต้ระบบปัจจุบันของฝรั่งเศส มีคนจำนวนน้อยมากที่มีแผนเตรียมเงินบำนาญส่วนตัวหลังเกษียณ เพราะคนทำงานทุกคนต่างหวังรับเงินจากรัฐบาล
กฎหมายแบบนี้ย่อมเป็นประโยชน์เอื้อต่อรัฐบาลและนายทุนชนชั้นสูง ที่กำลังถังแตกจากสภาพเศรษฐกิจฝรั่งเศสถดถอย แต่เสียผลประโยชน์รุนแรงเป็นภาระสำหรับชนชั้นที่ยากจนของสังคม จากโพลสำรวจความคิดเห็นมีประชาชนต่อต้านกฎหมายการเงินนี้มากถึง 68% , ฝ่ายค้านในสภาโต้แย้งว่า ในขณะนี้เงินบำนาญยังไม่ได้ขาดดุลวิกฤติ จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องปฏิรูป และยังมีทางเลือกอื่น ปมขัดแย้งที่กระทบคนส่วนใหญ่จึงกลายเป็นจุดแตกหักฟางเส้นสุดท้าย สหภาพแรงงานทั้งหมดในฝรั่งเศส รวมถึงฝ่ายค้านในสภา ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาผนึกกำลังกันออกมาประณามและต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง
เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาม็อบสหภาพแรงงานและชาวฝรั่งเศส จุดติดพรึบลุกฮือกว่า 2 ล้านคนหยุดงานประท้วงหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น คนขับรถไฟ พนักงานรัฐ และพนักงานโรงกลั่นน้ำมัน ครู ฯลฯ และแน่นอนว่าฝ่ายค้าน กับม็อบเสื้อกั๊กเหลืองที่น่ากลัวร่วมผสมโรงทันที เกิดการชัทดาวน์ไปทุกระบบการทำงาน จุดเดือดคือเมืองหลวงกรุงปารีส จำนวนม็อบกว่า 1 ล้านคน
มากอย่างไม่เคยพบมาก่อน มีการก่อจราจลเผาและทุบทำลายหนักมาก วุ่นวายไปหมด ปะทะกับตำรวจอย่างรุนแรง พวกเขามีกองกำลังชายชุดดำเป็นการ์ด มีประทัดยักษ์ โล่ และไม้ เข้าปะทะกับตำรวจปราบจราจล ที่ใช้แก๊สน้ำตา แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ถูกตำรวจจับได้ 38 ราย , ล่าสุดถึงคิวขบวนการเยาวชนและพรรคการเมืองของฝรั่งเศส ก่อการจลาจลอย่างรุนแรงต่อ ต่อยอดจากม็อบสหภาพแรงงาน
พวกเขาโกรธเกรี้ยว ทุบทำลายหน้าต่างร้านค้า ธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม ข้างถนน พร้อมวางเพลิงจุดไฟเผาถังขยะ ปะทะตำรวจ และถูกจับไปอีก 3 ราย การก่อจราจล 2 ครั้งในสัปดาห์เดียว สร้างความเสียหายอย่างยับเยินให้นครปารีสสถานการณ์วุ่นวายนี้แค่แค่เริ่มต้น เพราะม็อบที่เดือดร้อนไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ ประจวบกับเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจากพรรคของนายมาครง เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา
จึงถูกบีบให้ต้องขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคอื่นอีกอย่างน้อย 60 คน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักยามคราวเคราะห์แบบนี้ หาก ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ยอมก็ไม่ผ่านสภา และกองทุนบำนาญอาจล้มละลายไป กระบวนการรัฐสภาจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์ รัฐบาลฝรั่งเศส จะต้องเผชิญกับม็อบประท้วงอย่างต่อเนื่องที่ขยายวงขึ้น จะเกิดผลร้ายที่สุดสำหรับรัฐบาลจากการหยุดงานประท้วงในคลังเชื้อเพลิง ขนส่ง โรงพยาบาล จะชัทดาวน์ประเทศ
ให้จับตาในทุกสัปดาห์จำนวนม็อบจะทวีคุณมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตามมาด้วยความรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ด้วยกำลังตำรวจ และจะมีมือมืดก่อเหตุแทรกซ้อนซ้ำขึ้นมาเพื่อโยนบาปให้รัฐบาล สุดท้ายต้องมีฝ่ายหนึ่งต้องชนะและอีกฝ่ายยอมแพ้รัฐบาลฝรั่งเศส มีไม่กี่ทางเลือกนัก ทางเลือกแรกยื้อเวลาต่อไป แต่ต้องแลกด้วยจราจลทะเลเพลิง และการทุบทำลายลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ธุรกิจร้านค้าเสียหายย่อยยับ
ทางเลือกที่สองยกเลิกกฎหมายปฏิรูปบำนาญยอมขายหน้า และจะนำมาซึ่งการล้มละลายกองทุนบำนาญ , ทางเลือกสุดท้ายคือรัฐบาลไขก็อก โบกมือลา แต่คาดว่ารัฐบาลฝรั่งเศสขี่หลังเสือแล้วลงยากจึงจะเลือกแบบ 1 จนบ้านเมืองเละน่วมมากวิกฤติแล้วจึงจะเลือกแบบ 2 ตามมา ระยะต่อจากนี้ให้จับตามวยคู่เอกระหว่างม็อบฮาร์ดคอร์กับตำรวจปราบจราจล จะซัดกันน่วม เปลวเพลิงแดงฉาน ทุบทำลายข้าวของ ประชาธิปไตยต้นแบบ ส่งเสียงดังตุ่บพลั่กแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454