จากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ นายเยฟกินี พริโกซิน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย ผู้ก่อตั้งและเจ้าของวากเนอร์ กล่าวว่า สามารถยึดอาณาเขตทั้งหมดของเมืองโซเลดาร์ ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนได้แล้ว
ขณะที่กระทรวงกลาโหมยูเครน ออกแถลงการณ์ว่า ทหารยูเครนยังคงตั้งมั่นอยู่ตามฐานในเมืองโซเลดาร์ เพื่อต้านทานการโจมตีของกองทัพรัสเซียและวากเนอร์ ซึ่งยังคงต้องการยึดครองเมืองโซเลดาร์ เหมืองเกลือขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป แล้วใช้เป็นเส้นทางเชื่อมไปยังเมืองบัคมุต เมืองใหญ่อีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน
ล่าสุดวันนี้ 21 มกราคม 2566 Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงกรณีเหมืองเกลือของยูเครนที่ถูกยึดไปแล้ว ซึ่งมีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือว่า
“สื่อ Washington Post รายงานว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน นายวิลเลียม เบิร์นส์ หัวหน้า CIA สหรัฐ ย่องนั่งรถไฟไปเมืองหลวงกรุงเคียฟ และพบกับประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน เพื่อแจ้งคำเตือนข่าวกรองแผนทางทหารของรัสเซียที่จะลุยขนานใหญ่ยึดพื้นที่ยูเครนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธร้ายแรงในดินแดนยูเครน
ผู้นำยูเครน ได้เน้นย้ำขอกู้อาวุธเทพดีๆ ส่งมาเยอะๆ มีเท่าไรขนให้มาให้หมดคลังแสง ส่งของมาเร็วๆ อย่าชักช้า ผู้อำนวยการ CIA สหรัฐ บอกว่าอาวุธหลายอย่างจะลดลง
เนื่องจากเกิดการต่อต้าน การให้ยูเครนกู้อาวุธในหมู่ชาวอเมริกันขยายวงขึ้น ไม่เกินเดือนสิงหาคม 2023 ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมัน เพราะสหรัฐ ก็ถังแตกหนี้สินล้นพ้นตัวชนเพดานหนี้ไปแล้ว
ด้วยนักรบ Wagner รัสเซีย ได้ยึดเหมืองเกลือเมืองโซเลดาร์ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำให้เกลือขาดตลาดในยูเครน และราคาแพงขึ้น
ล่าสุดเบลเยียม เตรียมส่งออกเกลือจำนวน 3,000 ตันไปให้ยูเครนกู้ตามออร์เดอร์ เพื่อใช้ในการประกอบอาหารและกิจการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการเปลี่ยนสถานะยูเครนครั้งใหญ่ในรอบ 140 ปี
จากผู้ส่งออกเกลือรายใหญ่เบอร์ต้นของยุโรป กลายเป็นผู้นำเข้าเกลือแทน อันจะส่งผลให้ Supply Chain เกลือในภาพรวมยุโรปในระยะยาวไม่เพียงพอ จนดันราคาเกลือแพงขึ้นไปอีก
ถ้ายูเครนไม่รีบละทิ้งคำสั่ง NATO เริ่มนั่งลงเจรจากับรัสเซีย คงสูญเสียทรัพยากรหมดไปเรื่อยๆ และต้องขอกู้ทุกสิ่งมากินใช้ในประเทศ เพราะแค่แบกหนี้สินค่าอาวุธชาติตะวันตกก็ต้องใช้หนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคนแน่นอน”