จากที่กองกำลังผสมนาโต้ที่มีชาติตะวันตกหลายประเทศร่วมเข้าไปสู้รบกับรัสเซียในยูเครน ซึ่งปรากฏรายงานออกมาเป็นระยะถึงผลที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับกองกำลังผสมหรือทหารรับจ้างนั้น
ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวไว้อย่างน่าติดตามว่า “สงครามยูเครนกับฝ่าย NATO ในช่วงต้นปีที่แล้ว 2022 กำลังทหารรัสเซียขยายตัวเพิ่มเป็น 1.15 ล้านนาย
เมื่อควบรวม 4 ดินแดนใหม่กำลังพลจึงขยายเป็น 1.5 ล้านนาย งบประมาณกลาโหมรองรับกำลังพลเหล่าทัพใหม่เหล่านี้ที่กำลังปฏิบัติงานแนวหน้าอีก 3.5 แสนนาย รวมของเดิมแล้วขยายเป็น 1.5 ล้านนาย โดยไม่ต้องระดมพลเพิ่ม
ส่วนกองกำลังผสม NATO มีชาวต่างชาติ 50% อีก 50% เป็นชาวยูเครน , ล่าสุด พ.อ.ดักลาส แมคเกรเกอร์ อดีตที่ปรึกษาหัวหน้ากลาโหมสหรัฐ ระบุว่าจากข้อมูลข่าวกรองเพนตากอน ในส่วนของทหารเกณฑ์ยูเครนเริ่มจากวัยรุ่นอายุ 13 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้พิการทุพพลภาพ เกณฑ์เข้าสู่กองทัพ เวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมากองกำลังผสมสูญเสียไปแล้วสะสม 150,000 นาย
ปัจจุบันกองกำลังผสม NATO พร้อมรบทุกแคว้นเหลือกำลังพลไม่เกิน 150,000 นาย เคยมีประจำการในเขตดอนบาส 86,000 นาย แต่ผลจากความพ่ายแพ้ในเมืองโซเลดาร์ และเมืองโดยรอบ ส่งผลให้ 15 กองพลๆละ 4,000 นาย รวม 60,000 นาย คิดเป็นราว 70% ถอยหนีออกมาจากเมืองที่ถูกรัสเซียยึด
และเหลือกองกำลังผสมในเมืองบัคมุท (อาร์ตีแมอฟ) อีกราว 26,000 นาย กำลังถูกนักรบ Wagner ปิดล้อมตัดเส้นทางส่งอาวุธ อาหาร เวชภัณฑ์ และทำลายสูญเสียไปช้าๆ จนกว่าจะหมดทุกนาย
ส่งผลให้ฝ่ายรัสเซีย บล็อคกองกำลังผสมติดในวงล้อมเมืองบัคมุท นี้ที่เคยถูกเตรียมไว้สำหรับการโจมตีทางตอนใต้ ตอนนี้มันจบแล้วพวกเขาคงไม่รอดและคงถูกฝ่ายรัสเซียทำลายทิ้งทั้งหมด จากนั้นเมืองบัคมุท จะถูกฝ่ายรัสเซียยึดผนวกดินแดนตามกฎหมาย และจะถูกเปลี่ยนชื่อกลายเป็นเมืองอาร์เตมอฟสค์ในภาษารัสเซียในที่สุด
พ.อ.แมคเกรเกอร์ ยอมรับว่าทางการยูเครนไม่เคยบอกความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายลงในแนวหน้า การจัดส่งอาวุธให้กู้เพิ่มจาก NATO มากมายแค่ไหนก็จะไม่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์สงคราม เนื่องจากไม่มีกำลังพลพร้อมรบที่มีขีดความสามารถทางเทคนิคในการใช้อุปกรณ์ตะวันตกจำนวนมาก
และขาดความเชี่ยวชาญที่จะสามารถบริหารจัดการอาวุธที่พังเพิ่มทุกวัน ส่งไปใหม่เท่าไรก็หายไปเท่านั้น จำนวนเงินที่สหรัฐ ลงทุนทางทหารในยูเครนในช่วงปีที่ผ่านมา 110,000 ล้านดอลลาร์ (3.63 ล้านล้านบาท) ทำให้ยูเครน ที่ทำหน้าที่เพียงรับจ้างรบ เป็นเสมือนรัฐที่ 51 ของสหรัฐ และผู้นำยูเครนเป็นแค่เทียบเท่าผู้ว่าการรัฐหนึ่งของอเมริกา
นโยบายภายในประเทศของยูเครน จึงเป็นนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ สั่งการมา ในความจริงสหรัฐ ได้ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซียนั่นเอง ดังนั้นความขัดแย้งนี้จะไม่ยุติลงโดยง่าย จนกว่าจะหมดชาวยูเครนคนสุดท้าย
จากการดักฟังและแจมสัญญาณเข้ารหัสสอดแนมของฝ่ายรัสเซีย พบว่าในเมืองอาร์เตมอฟสค์ กองกำลังผสม NATO กำลังอ่อนแอ จากทหารมีอัตราสูญเสียในระดับสูง ขวัญกำลังใจต่ำ และสภาพจิตใจย่ำแย่ จิตตกจากการถูกโจมตีอาวุธหนักจากหลายทิศทาง นักรบ Wagner รัสเซีย รายงานว่าผลจากการจับกุมเชลยศึกหลายร้อยนายที่ยอมแพ้ในเมืองโซเลดาร์
จับกุมตัว ไมเคิล วินเทอร์ นาวิกโยธินสหรัฐ ปะปนอยู่ในหมู่เชลยศึก จากการสอบสวนเขาเคยร่วมรุกรานของกองสหรัฐ ในซีเรีย อิรัก ลิเบีย ฯลฯ ไมเคิล ได้ยินยอมให้ข้อมูลที่มีค่ามากมายเกี่ยวกับภาระกิจของสหรัฐในยูเครนและที่อื่นๆ
ล่าสุดฝ่าย NATO บีบให้ทางการยูเครนสั่งการระดมเกณฑ์ทหารเพิ่มครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อแลกกับอาวุธกู้ล็อตใหญ่ และมีสาเหตุสำคัญมาจากการสูญเสียกำลังในเมืองอาร์เตมอฟสค์
การเกณฑ์ทหารยูเครน จะกวาดรวบรวมหมดจากแรงงานจากภาคธุรกิจ ผู้คนตามท้องถนน และจับแม้แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงอื่น ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของบริษัทยูเครน วิศวกร และคนงานก่อสร้าง จะถูกบังคับกวาดต้อนส่งไปฝึกอบรมการรบหลักสูตรระยะไม่กี่วันเพื่อให้เป็นทหารรับจ้างกองกำลังผสม ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ส่งมาให้กู้จากชาติตะวันตกเพื่อรุมรัสเซีย”
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
Cr.https://www.blockdit.com/world.update