จากกรณีที่เกิดบรรยากาศรอยร้าวขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องมาจากเสียงรัฐบาลแพ้โหวตในสภา จากญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคำสั่งคณะรักษาความสุขแห่งชาติ (คสช.) มาตรา 44 จนทำให้เกิดกระแสข่าวว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่สบายใจ???
ต่อมาได้มีการกำชับวิปรัฐบาลว่าจากนี้ไปเสียงโหวตในสภาจะแพ้ฝ่ายค้านไม่ได้นั้น โดยล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันนี้ (29 พ.ย.) ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “THAILAND RUBBER EXPO 2019”ได้พูดคุยกับนาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
รวมทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้ง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่งอยู่ข้างๆด้วย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด คาดว่า มีการหยิบยกประเด็นเสียงของรัฐบาลแตกจนทำให้สภาล่มซ้ำซากถึง 2 ครั้งมาหารือ รวมทั้งวิจารณ์การทำงานของรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เรากำลังเผชิญหน้าปัญหาเศรษฐกิจซึ่งประสบปัญหากันทั้งโลกและภูมิภาค ไม่มีประเทศไหนที่บอกว่าเศรษฐกิจดีเลย เพราะเป็นปัญหาห่วงโซ่ทั้งโลก
ไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุน และอุตสาหกรรม สิ่งสำคัญที่สุดโลกกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เข้าสู่ยุคดิจิทัลออนไลน์ ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญทุกเรื่อง วันนี้เราต้องร่วมมือกันเพื่อเร่งทุกภาคส่วนสร้างงานใหม่ แก้ปัญหาเรื่องคนตกงาน ดังนั้น ขอให้ทุกคนเชื่อใจและร่วมมือกันสร้างเสถียรภาพของประเทศ ของรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุดในเวลานี้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นปัญหาแก้ไม่ได้เพราะต้องแก้ด้วยทางรัฐบาลเอกชนภาคธุรกิจและประชาชนและมิตรประเทศทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
“ขอฝากพวกเราทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจไว้ด้วย เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตราบใดที่เรามีความสุข แต่ยังเห็นคนอื่นไม่มีความสุข เรากินข้าวอิ่ม แต่เขายังกินไม่อิ่ม แล้วเราจะกินลงหรือ เพราะฉะนั้นขอให้คิดถึงคนอื่นมากๆ ถือเป็นหัวใจการทำงานของรัฐบาล ราชการและหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งหมดจะต้องนึกถึงคำที่ผมพูด เพราะการเป็นประชากรโลกที่ต้องสร้างคุณประโยชน์ให้กับผืนแผ่นดิน พื้นน้ำ และอากาศที่เราอาศัยอยู่ เกิดเหตุการณ์หรือผลกระทบอะไรขึ้นก็จะเกี่ยวพันถึงทุกคนทั้งประเทศ ผมขอพูดเพราะนอกเรื่องสักนิด
ช่วงนี้เป็นช่วงแห่งความเข้าใจเป็นช่วงการสร้างมิตรภาพระหว่างกัน วันนี้ก็มีรัฐมนตรีมาจากหลายกระทรวงด้วยกันยืนยันว่าเรายังมีเสถียรภาพอยู่ทุกอย่างอย่ากังวลเสียงของรัฐบาลขอให้ทุกคนได้มั่นใจว่าตนในฐานะที่เป็นผู้นำก็จะทำเต็มที่และจะพัฒนาเรื่องยางให้เต็มที่เช่นกัน มีอุปสรรคปัญหาตรงไหนจะเร่งแก้ไขให้
ทั้งนี้พล.ประยุทธ์ เดินเยี่ยมชมบูธกิจกรรมภายในงานซึ่งระหว่างเยี่ยมชม เป็นที่น่าสังเกตว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกนายจุรินทร์ นายเฉลิมชัย และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้มาเดินอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น แม้กระทั่งในช่วงของการถ่ายภาพก็ยังคงเรียกให้สมาชิกทั้งหมดมาร่วมถ่ายภาพด้วยตลอดเวลา ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้จับมือกันเพื่อนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่สวยงามเราต้องร่วมมือกัน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้ยังมีความเหนียวแน่นอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหยุด พร้อมกับควงแขนนายจุรินทร์ เข้ามายืนใกล้ๆ รวมถึงนายเฉลิมชัย พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้มากันครบ ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป ตนคิดว่าทุกคนทุกพรรคมองประเทศชาติเป็นหลักอยู่แล้ว ก็อย่างว่าเป็นเรื่องของคนหมู่มาก ก็หาวิธีการกันต่อไป อย่าไปมองเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
เมื่อถามว่า การทำงานงานร่วมกันด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “ที่เดินอยู่ด้วยกันนี้ ก็เศรษฐกิจไม่ใช่หรือ” เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยิ่งกว่าเหนียวอีก” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งยิ้มก่อนเดินทางกลับ