20 มกราคม 2566 สำนักข่าว RT News รายงานว่า นายพลโปแลนด์ แนะนำให้ตะวันตก ฝึกผู้อพยพยูเครนร่วมสงคราม หลังกองกำลังผสมนาโต้ร่อยหรอ อาวุธก็โดนรัสเซียทำลายเกลี้ยง
ชาติตะวันตกควร“ระดมกำลัง”ชาวยูเครนที่หนีความขัดแย้งในบ้านเกิด ฝึกฝนพวกเขา และส่งพวกเขาไปยังแนวหน้า นายพล Waldemar Skrzypczak ผู้เกษียณอายุราชการของโปแลนด์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม อดีตผู้บัญชาการกองกำลังทางบกของโปแลนด์แสดงความสงสัยเกี่ยวกับว่ามีอะไรที่ตะวันตกสามารถทำได้เพื่อช่วยให้เคียฟเอาชนะความขัดแย้งกับมอสโกได้หรือไม่
นาโต้ควรเริ่มจัดตั้ง”กองทัพ” ยูเครน ในโปแลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส Skrzypczak กล่าวกับสำนักข่าว Wpolityce ของโปแลนด์ จากคำกล่าวของ Skrzypczak ประเทศตะวันตกไม่ควรแม้แต่จะถามชาวยูเครนว่าพวกเขาต้องการสู้รบหรือไม่ “คุณต้องระดมกำลัง เกณฑ์พวกเขา เข้ากองทัพ แค่นั้น”เขากล่าว
ในขณะเดียวกัน นายพลผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของกระทรวงกลาโหมโปแลนด์และแม้แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็วาดภาพที่ค่อนข้างน่ากลัวเกี่ยวกับอนาคตของเคียฟในความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่
“ไม่มีโอกาสทางทหารสำหรับยูเครนที่จะชนะสงครามครั้งนี้”เขากล่าว พร้อมเสริมว่าวิธีเดียวที่จะเอาชนะรัสเซียได้คือ“บีบบังคับ” รัสเซีย ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ Skrzypczak เชื่อว่าแม้แต่การส่งมอบรถถังสมัยใหม่ที่ผลิตในตะวันตกก็แทบไม่มีผลในสนามรบ
“แม้แต่รถถัง 100 คันก็ไม่เปลี่ยนสถานการณ์ ซึ่งรัสเซียกำลังสร้างความได้เปรียบหลายเท่าเหนือกองทัพยูเครน ชาวยูเครนจะไม่เอาชนะรัสเซียด้วยเสือดาวหนึ่งร้อยตัว”นายพลกล่าว
ก่อนหน้านี้ วอร์ซอว์และเฮลซิงกิพิจารณาส่งรถถังต่อสู้ Leopard 2 ที่ผลิตในเยอรมันไปยังยูเครน ลอนดอนยังให้สัญญากับเคียฟว่าจะมีรถถัง Challenger 2 จำนวนหนึ่งโหล เบอร์ลินซึ่งต่อต้านแนวคิดนี้มานาน เตือนว่าการส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ผลิตในเยอรมันไปยังยูเครนโดยไม่ได้รับความยินยอมจะผิดกฎหมาย
Skrzypczak ยืนยันว่าการควบคุม Donbass นั้นอยู่ในกำมือของมอสโก และการสูญเสียจะทำให้ยูเครนกลายเป็น”ประเทศเกษตรกรรม” นอกจากนี้เขายังสงสัยว่ารัสเซียวางแผนที่จะยึดครองยูเครนทั้งหมดโดยเรียกแนวคิดดังกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้
ความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกทำให้ชาวยูเครน“ต่อสู้ได้แต่ไม่ชนะ”นายพลกล่าว พร้อมสงสัยว่า“ชาวยูเครนทั้งหมดจะต้องตายในสนามรบหรือไม่”
มอสโกเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยอ้างถึงความจำเป็นในการปกป้องประชาชนในดอนบาส รวมถึงความล้มเหลวของเคียฟในการดำเนินการตามข้อตกลงมินสค์ปี 2557–2558 เคียฟยืนยันว่าการโจมตีนั้นไม่ได้รับการยั่วยุอย่างสมบูรณ์
มอสโกเตือนตะวันตกหลายครั้งว่าการส่งอาวุธไปยังเคียฟรังแต่จะยืดเวลาการสู้รบและเพิ่มความเสี่ยงในการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียและนาโต้
