จากที่กองกำลังผสมนาโต้ในยูเครนถูกกองทัพรัสเซียโจมตีทำลายยุทโธปกรณ์อย่างมากมาย ทั้งยังสูญเสียกำลังพล โดยฝ่ายชาติตะวันตกก็เข้ามาสนับสนุนยูเครนทั้งอาวุธและเงินในรูปแบบของการกู้ยืมนั้น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ซึ่ง Blockdit World Update ได้นำมาโพสต์เผยแพร่ไว้อย่างน่าชวนติดตามว่า
“ทหารรับจ้าง Wagner group ของรัสเซียนั้น มีทหารต่างชาติที่เข้ามาร่วมรบหาประสบการณ์ด้วย กองพัน Pavel Sudoplatov มาจากเซอร์เบีย พวกเขาดูแลปกป้องพรมแดนในแคว้นซาโปริชเซีย
พวกเขาล้วนเป็นตำรวจ ทหาร อาจารย์สอนการต่อสู้ ฯลฯ เพราะขณะนี้ชาติ NATO กำลังปั่นสถานการณ์ความขัดแย้งในเขตเซอร์เบีย พวกเขาจำเป็นต้องเตรียมการต่อต้านการรุกรานของ NATO ต่อดินแดนของเซอร์เบียเช่นกัน
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เพิ่งประกาศว่าได้ทำการประจำการระบบขีปนาวุธข้ามทวีป RS-24 Yars ที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์เข้าในกองทัพอากาศสำหรับการเตรียมพร้อมทำมหาสงครามกับชาติตะวันตก
โดยกลาโหมรัสเซีย ได้เคลื่อนขีปนาวุธ Yars เข้ามาประชิดชายแดนอีกราว 100 กิโลเมตร ในภูมิภาคตเวียร์ใกล้กับชายแดนเบลารุส เพื่อทดสอบในสภาพภูมิประเทศและอากาศที่เปลี่ยนแปลงหนาวเย็น
ฝึกซ้อมการประสานงานกับอุปกรณ์ทางเทคนิค การพรางตัว และการป้องกันภาคสนาม เพื่อยืนยันว่าดินแดนทั้งหมดทุกตารางนิ้วของยูเครนที่มีอาวุธ และกองกำลังผสม NATO อยู่ในระยะยิงของขีปนาวุธนี้
RS-24 Yars จัดเป็นหนึ่งในขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยที่สุดของกองทัพรัสเซีย มีความยาว 20.9 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร น้ำหนักถึง 49 ตัน
สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ตั้งแต่ 3 – 6 หัวรบด้วยพลังและความเร็วที่สูงมาก จนสื่อตะวันตกขาสั่นเหงื่อแตก ขนานนามว่าเป็น “บุตรแห่งซาตาน”
ช่วงนี้ไปถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 มีการซ้อมรบรัสเซีย ในเขตตะวันตกของเบลารุส เป็นการลาดตระเวนทางอากาศ การเบี่ยงเบนการโจมตี การคุ้มกันทางอากาศและการสื่อสาร ท่ามกลางความวิตกกังวลของ NATO ว่ารัสเซียจะฉวยจังหวะนี้โจมตียูเครนทางภาคเหนือใกล้โปแลนด์
อาวุธ RS-24 Yars นี้ถ้ารัสเซีย จะทดสอบความแม่นยำ ยิงใส่เมืองที่มีกองกำลังผสมวางกำลัง ก็ไม่จำเป็นต้องติดหัวรบนิวเคลียร์ แค่ติดหัวรบระเบิดธรรมดาก็พอ เพื่อรื้อทำลายตึกทั้งเมืองทิ้งไป
ไม่ถือว่าละเมิดกติกาใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน เนื่องจากหัวรบนิวเคลียร์ 6,000 หัวรบนั้น ต้องเก็บของดีไว้สำหรับระดับชาติตัว Top ของ NATO ในยามที่ความขัดแย้งบานปลายหาทางออกเจรจากันไม่ได้ เมื่อนั้นจะถึงบทบาทที่จะเป็นตัวช่วยให้การเจรจากับบรรดาชาติ NATO ตกลงกันง่ายขึ้นแน่นอน”