คืนดีหรือตีหนัก!? จีนประกาศรับทหารเพิ่ม ๒ รอบสร้างกองทัพระดับโลก ยินดีเมกามาคุย ยันซ้อมรบถี่ทะเลจีนใต้

0

เมื่อสหรัฐฯรุกหนักทางการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะที่ปล่อยยุโรปและรัสเซียติดหล่มสงครามตัวแทนยูเครน

เปิดฉากปีใหม่โฉมหน้าสถานการณ์ใหม่ๆเริ่มขึ้น เมื่อสหรัฐฯเตรียมส่งรมว.ต่างประเทศมาเยือนปักกิ่ง และโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนยืนยันว่า รมว.ต่างประเทศจีนยินดีต้อนรับวีไอพีสหรัฐฯ ด้านสื่อสหรัฐฯ Politico รายงานยืนยันว่า Blinken จะเดินทางในต้นเดือนกุมภาพันธ์และคาดว่าจะผลักดันให้มีการเจรจาเริ่มต้นใหม่ในหลายมิติ

ท่าทีแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตบหัวแล้วลูบหลังเป็นเรื่องถนัดของชั้นเชิงการทูตของสหรัฐฯที่เดินบทบาทพูดอย่างทำอย่างโดยมีข้ออ้างให้ฝ่ายตนเสมอ เรื่องนี่จีนย่อมมองออก ขณะที่สื่อตะวันตกแพร่ข่าวว่าสหรัฐจะคืนดีกับจีน จะไม่มีสงครามการค้าหรือสงครามเย็นครั้งใหม่ แต่ในทางปฏิบัติสหรัฐฯก็เดินหน้ากระตุ้นความขัดแย้งระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านไม่หยุดหย่อน ทั้งคำถามไต้หวัน คาบสมุทรเกาหลีและทะเลจีนใต้

วันที่ ๑๙ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวซินหัวและเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า “จีนยินดีต้อนรับการเยือนจีนของแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และกำลังสื่อสารกับฝ่ายสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจัดเตรียมการเยือนโดยเฉพาะ”

หวังชี้แจงรายงานที่ว่ารมว.ต่างประเทศสหรัฐฯจะเดินทางเยือนจีนในวันที่ ๕ ก.พ. ที่จะถึงนี้และจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ฉิน กัง (Qin Gang)ที่ปักกิ่ง

เขากล่าวย้ำว่า “จีนมองและพัฒนาความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ มาโดยตลอด โดยปฏิบัติตามหลักการ ๓ ประการ คือ การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะใช้การรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับจีน ยึดมั่นในการเจรจามากกว่าการเผชิญหน้า และแสวงหาผลลัพธ์แบบ win-win แทนที่จะเป็น Zero-sum game”

เขากล่าวเสริมว่า “เราหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถทำงานร่วมกับจีนเพื่อบรรลุความเข้าใจร่วมกันที่สำคัญระหว่างประมุขแห่งรัฐทั้งสองอย่างเต็มที่ และนำความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับคืนสู่เส้นทางที่มั่นคงและเติบโตอย่างมั่นคง” 

มีการเปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยสำหรับการเดินทางของนักการทูตชั้นนำของอเมริกา ซึ่งมองว่าอาจเป็นการปูทางให้สี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมเอเปคในซานฟรานซิสโก สหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้ด้วย

อีกด้านที่ยังไม่วายข่มจีน โฆษกของ Biden เรียกร้องให้ปักกิ่ง ‘โปร่งใสอย่างเต็มที่’ ในการจัดการกับโควิดซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ตั้งใจวาดภาพให้ร้ายจีนไม่เลิกทั้งๆที่สหรัฐหยุดรายงานยอดการป่วยและตายของคนอเมริกันติดโควิดมาตั้งนานจะถือเป็นความโปร่งใสแบบไหนกัน

ในขณะเดียวกัน ทางการทูตมีคำด้านบวกจากรมว.ต่างประเทศคนใหม่ของจีนต่อสหรัฐอยู่เนืองๆ แต่ก็มีด้านที่เปิดโปงผลงานสหรัฐ ปล้นน้ำมันในซีเรียเปิดเผยออกมาจากทางจีนเป็นระยะ  

ล่าสุดทางการจีนจัดการประชุมทางไกลว่าด้วยการเกณฑ์ทหาร ในกรุงปักกิ่งของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนในวันพุธที่ ๑๘ ม.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า จีนตั้งเป้าเกณฑ์ทหารที่มีความสามารถสูงเพื่อสร้างกองทัพระดับโลกสานฝันตามมติชี้แนะของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ ๒๐ อย่างเต็มรูปแบบ

การประชุมชี้ว่าจีนจะดำเนินการคัดเลือกทหาร ๒ รอบในปี ๒๐๒๓ นี่้ ซึ่งระหว่างนั้นจะมีการปรับใช้หลักการชี้แนะกองทัพฯ การคัดเลือกปีนี้ยังคงมุ่งความสนใจไปที่นักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย โดยให้ความสำคัญกับนักศึกษาวิชาเอกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ รวมถึงผู้ที่มีทักษะจำเป็นสำหรับความพร้อมรบในทุกๆด้าน

การประชุมสนับสนุนการเกณฑ์ทหารแบบตรงเป้าหมาย และการรับสมัครล่วงหน้า ปฏิบัติ เช่นเดียวกับการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีการบังคับใช้กฎระเบียบและข้อบังคับ เพื่อการเกณฑ์ทหารที่สุจริตอย่างเคร่งครัด

การเกณฑ์ทหารในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จะจัดระหว่างวันที่ ๑๕ ก.พ.-๓๑ มี.ค. ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปีจะจัดระหว่างวันที่ ๑๕ ส.ค.-๓๐ ก.ย.

ในด้านการทหารสหรัฐฯยังมีท่าทีแข็งกร้าวอีกเรื่องหนึ่งคือ แตกตื่นกับการเติบโตของกองทัพเรือจีน ที่ผ่านมาผู้นำเพนตากอนระบุว่าจีนเป็น “ภัยคุกคาม”ที่สำคัญ ของกองทัพสหรัฐฯ และก็ผลักดันให้กลายเป็นภัยคุกคามของญี่ปุ่นด้วย  ตัวเลขขนาดกองเรือของจีนแสดงให้เห็นว่ากองทัพสหรัฐฯ ไม่สามารถเติบโตตามขนาดและศักยภาพของกองทัพเรือจีนได้

กองทัพเรือกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLAN) แซงหน้ากองเรือสหรัฐฯ ในด้านขนาดตั้งแต่ประมาณปี ๒๐๒๐ และปัจจุบันมีเรือรบประมาณ ๓๔๐ ลำ ตามรายงานแสนยานุภาพทางทหารของจีนประจำปี ๒๐๒๒ ของเพนตากอนที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว  รายงานระบุว่ากองเรือของจีนจะเพิ่มเป็น ๔๐๐ ลำในอีกสองปีข้างหน้า

ในขณะเดียวกัน กองเรือสหรัฐฯ มีเรือน้อยกว่า ๓๐๐ ลำ และเป้าหมายของเพนตากอนคือมีเรือประจำการ ๓๕๐ ลำ ซึ่งยังคงตามหลังจีนอยู่มากภายในปี ๒๐๔๓ ตามแผนการเดินเรือปี ๒๐๒๒ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ 

และการซ้อมรบร่วมระหว่างจีนรัสเซียและพันธมิตรตะวันออก ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ไปพร้อมๆกับส่งเรือพิฆาตลาดตระเวน ประกบการซ้อมรบของสหรัฐและพวกในย่านนี้อย่างไม่เกรงกลัว บ่งบอกว่า แม้การทูตจะเดินหน้าต่อไปด้วยถ้อยคำสวยหรู แต่การปฏิบัติการของกองทัพปลดแอกก็คึกคักห้าวหาญไม่อ่อนข้อ ทำให้ยากที่จะเชื่อว่าสหรัฐและจีนจะคืนดีเป็นปกติได้อย่างแท้จริง ผู้สังเกตุการณ์ทั้งหลายยังมองออก แล้วจีนจะมองไม่ออกเชียวหรือ แม้จีนจะชอบค้าขายมากกว่ารบ แต่ถ้าจะรบก็ไม่น่าจะยอมถอยเพราะวันนี้จีนไม่ได้อ่อนแอและไม่ได้สู้อย่างโดดเดี่ยว!??