เปิดลึกเหตุเฮลิคอปเตอร์รตม.มหาดไทยยูเครนตก! พบซากคล้าย “ระบบต่อต้านฯนาโต้” ส่อทำงานพลาด-ยิงกันเอง
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (18 มกราคม 2566) มีรายงานว่า บุคคลสำคัญ 3 คน ในกระทรวงมหาดไทยของยูเครน เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกใกล้กับโรงเรียนอนุบาลชานกรุงเคียฟด้านตะวันออก
นายเดนิส โมนาสเตียร์สกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของยูเครนวัย 42 ปี เสียชีวิตพร้อมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและปลัดกระทรวง
ต่อมาทาง World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยบอกว่า ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งปีนเกลียวไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายบริหารยูเครน กับฝ่ายทหาร และหน่วยความมั่นคง SBU ที่สาดน้ำลายใส่กันไปมาจนสับสนอลหม่าน จนนายอริชโตวิช ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ที่ออกมาแฉว่าระบบต่อต้านอากาศยานเทพ NATO ทำงานผิดพลาดโจมตีอพาร์ทเมนท์ที่พักอาศัย 9 ชั้นเมืองดนีโปเปตรอฟ จนมีผู้เสียชีวิต 45 รายแล้ว
ผลการพูดความจริงของเขาทำให้สมาชิกสภา และทหาร หัวร้อนไม่พอใจทำให้แผนโฆษณาชวนเชื่อโยนบาปให้รัสเซียพังไม่เป็นท่า เขาจึงตัดสินใจถอย ด้วยลาออกเพื่อลดความขัดแย้งกับฝ่ายทหาร ล่าสุดเกิดเหตุแปลกขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ แอร์บัส H225 (เดิมชื่อ Eurocopter EC225 Super Puma) ฝรั่งเศส เป็นรุ่นมีตำหนิปัญหาทางเทคนิคตกบ่อยชื่อเสียงไม่ดีนัก ใช้โดยหน่วยบริการฉุกเฉิน ที่ใช้พาบรรดารัฐมนตรีบุคคลสำคัญจำนวนมากบินขึ้นจากเมืองหลวงกรุงเคียฟ ของยูเครน เดินทางไปทำธุรกิจลับส่วนตัว
มันโดนอะไรเข้าไปไม่รู้ “เกิดไฟลุกไหม้ขณะที่ยังลอยอยู่ในอากาศ” ปีกหมุนเครื่องบินฉีกขาดตกลงมาเกี่ยวสายไฟ ระเบิดไฟลุกไหม้ในอาณาเขตของโรงเรียนอนุบาลในโบรวารี ห่างใจกลางกรุงเคียฟราว 8 กม. สำนักงา ประธานาธิบดียูเครน ยืนยันการตกของเครื่องบินในอาณาเขตของโรงเรียนดังกล่าวว่าเป็นความจริง เครื่องบินตกลงบนสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม
Klymenko หัวหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว 16 ราย โดย 9 ราย คือบุคคลสำคัญที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว เช่น นาย Denis Monastyrsky รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย , Yevgeny Yenin รัฐมนตรีช่วยว่าการคนที่ 1 , หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญอื่นๆ ต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ และมีเด็ก 3 รายในโรงเรียนอนุบาลรับเคราะห์ลูกหลงไปด้วย
มีผู้บาดเจ็บรวม 25 รายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 10 ราย , ทางการยูเครน บ่ายเบี่ยงไม่ได้ระบุสาเหตุการตก อ้อมแอ้มว่าเรากำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ ที่น่าสนใจคือ ในที่เกิดเหตุพบซากชิ้นส่วนบางอย่างคล้ายระบบต่อต้านอากาศยานเทพ ซึ่งทางการยูเครน พยายามปกปิดห่อไว้ด้วยวัสดุสำหรับพิสูจน์หลักฐาน
พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่านักบินจงใจขับเฮลิคอปเตอร์ “ที่ไฟลุกไหม้ หมุนคว้าง” ไปทางด้านข้างอาคารเรียนอนุบาล 2 ชั้น นายเดนิส โมนาสตีร์สกี รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ เขาเพิ่งคุยโวเมื่อวันก่อนว่า เขาจะมีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงภายในของยูเครน เพื่อทวงคืนไครเมีย และดอนบาส รวมทั้งต่อสู้กับรัสเซีย แต่วันนี้เขาไปก่อนแล้ว
นาง Melania Podolyak ภริยาของที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุแบบกินปูนร้อนท้องทันทีอ้างว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย โดยทางตรงหรือทางอ้อม สังหารรัฐมนตรีหลายคนของยูเครน มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุแรก จุดนี้ห่างจากใจกลางเมืองหลวงราว 8 กม. หมอกหนา ก่อนขึ้นบินไม่ได้ประสานงานแจ้งระบบต่อต้านอากาศยานเทพของ NATO ที่มีหลายแบรนด์ จำนวนมากวางไว้รอบกรุงเคียฟ ระบบสื่อสารและไฟฟ้ายูเครนขัดข้อง ระบบเทพจึงเปิดตัวเองขึ้นมาอัตโนมัติโจมตีขึ้นไปเพราะคิดว่าเป็นอากาศยานฝ่ายตรงข้ามที่แปลกปลอม
สาเหตุที่สองคือความขัดแย้งแทงข้างหลังกันเองระหว่างฝ่ายทหาร และการเมืองที่กำลังง่อนแง่น เพราะรู้ว่าเครื่องบินลำนี้มีบุคคลสำคัญทางความมั่นคงทางการเมืองจำนวนมาก จึงเปิดระบบต่อต้านอากาศยานประเภทประทับบ่า MANPADS สอย หรือก่อวินาศกรรมเฮลิคอปเตอร์ซะเลยเพื่อแก้เผ็ด หรือช่วงชิงเก้าอี้ใหญ่ ซึ่งเรื่องแบบในมีได้ช่วงชุลมุน
สาเหตุที่สามคือ โดนระบบต่อต้านอากาศรัสเซียเข้าไป เพราะรัสเซียติดตั้งระบบห่างไปแค่ราวไม่เกิน 200 กม.แถวชายแดนเบลารุส และชายแดนรัสเซีย สาเหตุที่สี่ คือ โดนแจมสัญญาณจากระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์รัสเซีย จนเฮลิคอปเตอร์สับสนทำงานผิดปกติควบคุมไม่ได้
สาเหตุที่ห้า คือ เกิดอุบัติจริงๆ จากสภาพเครื่องยนต์เก่า ท่ามกลางอากาศเย็นติดลบ ไฟลุกไหม้ จนเกิดการทำงานผิดปกติ เสียการทรงตัว ตกลงมาใบพัดไปเกี่ยวสายไฟ วิเคราะห์ว่า เพื่อไม่ให้เรื่องราวภายในบานปลาย รัฐบาลยูเครน คงจะโยนบาปมุขเดิมว่าเป็นความผิดของรัสเซีย , อ้างอุบัติเหตุ หรือโทษดินฟ้าอากาศให้จบๆ ง่ายไป ดูท่าภายในยูเครนตอนนี้ จะไว้ใจใครไม่ได้ซะแล้วระหว่างฝ่ายการเมือง และฝ่ายทหาร ขึ้นอยู่กับว่าลูกพี่ใหญ่จะเชิดใคร ในยามบ้านเมืองวิกฤติอะไรก็เกิดขึ้นได้แน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454