การบินไทยเหลือเงินจ่าย พนง.ถึงแค่สิ้นเดือนเมษายนนี้ รออนุมัติให้การบินไทยกู้เงิน 70,000 ล้านบาท ยืนยันต้องลดขนาดองค์กร ฟื้นฟูการบินไทยให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูการบินไทย ร่วมกับผู้แทนกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม โดยหลังการประชุม นายสมคิด ยืนยันว่า ปัจจุบันการบินไทยยังมีสถานะเป็นสายการบินแห่งชาติ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต้องทำให้การบินไทยแข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ การบินไทยเป็นสายการบินอยู่คู่ไทยมานาน และประสบปัญหาการดำเนินงานมาตลอด โดยเฉพาะช่วงสถานะการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด ฉะนั้นในมุมมองของรัฐบาลจะดูแลการบินไทยให้เป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง แต่มีเงื่อนว่าการบินไทยต้องเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
ล่าสุด กระทรวงคมนาคมเห็นว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุด ที่จะฟื้นฟูการบินไทยให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ การบินไทยจะต้องยอมที่จะมีการปรับขนาดองค์กรให้เล็กลง ส่วนงานไหนที่ไม่สร้างรายได้จะต้องยอมปรับลด หรือยุบทิ้ง ส่วนจำนวนพนักงานหากมีบุคคลากรมากกว่าเนื้องานที่รับผิดชอบก็จะต้องปรับลดลง ซึ่งจะต้องไปหาแนวทางที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย
มีรายงานว่า ขณะนี้การบินไทยมีเงินในมือประมาณ 10,000-12,000 ล้านบาทเท่านั้น และสามารถนำเงินมาจ่ายเงินเดือนพนักงานได้แค่ภายในสิ้นเดือน เม.ย. 63 นี้ ส่วนที่เหลือจะเป็นการจ่ายให้กับเจ้าหนี้ที่การบินไทย จึงจำเป็นต้องเร่งหาเงินกู้โดยเร็ว
การหารือเบื้องต้น การหาเงินมาช่วยเสริมสภาพคล่อง ที่ฝ่ายบริหารการบินไทยได้เสนอให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม อนุมัติให้การบินไทยกู้เงิน 70,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อนำมาฟื้นฟูการบินไทย ภายใต้เงื่อนไข สถานการณ์โควิด-19 จะต้องสิ้นสุดลงภายในเดือนตุลาคม นี้ และการบินไทยสามารถมาทำการบินใหม่ได้