จากที่สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2566
ทั้งนี้ในการเดินทางเยือนดังกล่าว มีขึ้นตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีมาร์กอส เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 เพื่อแสดงความยินดีต่อชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ พร้อมยืนยันการกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับฟิลิปปินส์
ล่าสุดวันนี้ 14มกราคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงกรณีผู้นำฟิลิปนส์ด้วยว่า
“หลังจากประธานาธิบดีมาร์กอสจูเนียร์ และภรรยาเดินทางไปเยือนจีน กระชับสัมพันธไมตรีกับจีนและเพื่อหาทางร่วมมือทางการค้ากับจีนมากยิ่งขึ้น

ผู้นำฟิลิปปินส์รู้ดีว่า ถ้าจะพัฒนาเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ให้ก้าวหน้าต้องสานสัมพันธ์กับจีนเท่านั้น จึงได้ออกคำสั่งปลดนายทหารที่เป็นทาสรับใช้อเมริกาลงจากตำแหน่งหัวหน้าเสนาธิการทหาร และแต่งตั้งคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของฟิลิปปินส์มากกว่ามาดำรงตำแหน่งแทน
นายทหารที่เป็นหุ่นเชิดอเมริกาที่เป็นใหญ่ในกองทัพ มักมีลักษณะคือ:-๑. เสนอให้ซื้ออาวุธสำหรับ ๓ เหล่าทัพจากอเมริกาเป็นหลักเป็นประจำ
๒. เสนอให้มีการซ้อมรบกับอเมริกา หรือ ดึงอเมริกาให้มีบทบาทภายในประเทศของตนมากยิ่งขึ้น ๓. เพราะโปรอเมริกาจึงพูดถึงอเมริกาในด้านดีอย่างเดียว ไม่เคยพูดถึงด้านเสียเพื่อความปลอดภัยของประเทศของตนเองเลย

๔. เจริญอานาปานสติหายใจเข้าหายใจออกเป็นอเมริกา ต่อต้านรัสเซียและจีน มิให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับกองทัพในประเทศของตน๕. รัฐบาลเมริกาให้ทำอะไรก็ทำ ดีไม่ดี อาจเป็นกลุ่มคนที่แอบให้ข่าวเชิงลึกในประเทศของตนแก่สายลับตะวันตกไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ เพื่อความปลอดภัยของฟิลิปปินส์ นายมาร์กอสจูเนียร์ จึงสั่งปลดเสีย แล้วเอาคนใหม่ขึ้นแทน ประเทศอื่นๆ แถวนี้ก็ควรศึกษาและทำอย่างเดียวกัน