จากที่ Blockdit World Update รายงานถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ตลอดมาในช่วงหลายเดือน ซึ่งมีข้อมูลที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของชาติตะวันตกที่เข้าไปหนุนยูเครน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยแพร่อีกครั้ง ถึงเหตุการณ์หลังการบุกยึด เมือง Soledar ว่า
“ปัจจุบันในเมือง Soledar พบแต่นักรบ Wagner และนักรบหน่วยอื่นที่มาเสริมทำการลาดตระเวน เก็บกู้กับระเบิด และช่วยเหลืออพยพพลเรือนเด็ก ผู้หญิง คนชรา ตกค้างอีกเล็กน้อย ที่พวกเขาหลบอยู่ในห้องใต้ดินมาหลายเดือนตั้งแต่ปีที่แล้ว
ฝ่ายรัสเซีย ประเมินว่าเฉพาะเมือง Soledar และบัคมุท มีทหารรับจ้างต่างชาติจากกลุ่ม NATO ประมาณ 5 กองพล และหน่วยพิเศษต่างๆ คิดเป็นราว 50% ของกองกำลังผสม อีก 50% เป็นชาวยูเครน
สูญเสียไปแล้วสะสมรวมเกือบ 25,000 นาย แยกเป็นสูญเสียที่เมือง Soledar รวมกว่า 7,000 นาย และที่เมืองบัคมุทที่อยู่ใกล้กันสะสมอีกกว่า 17,000 นาย
ขณะนี้ทางผู้นำยูเครน บีบบังคับให้กองทัพยูเครน และกองกำลังผสม ทุ่มกำลังที่รอดชีวิตทั้งหมด ส่งกลับไปปักธงถ่ายรูปเซลฟีโชว์ชาติตะวันตก ในกระทะไฟเมือง Soledar
โดยกำลังรวมตัวที่เมือง Seversk และทางตะวันตกของเมือง Soledar เพื่อพยายามยึดคืน แต่คำสั่งแบบนี้ไม่มีประโยชน์เพราะฝ่ายรัสเซีย ได้เปรียบทั้งชัยภูมิบนพื้นดินและใต้ดินหมดแล้ว ส่งมาเท่าไรก็เป็นปุ๋ยเท่านั้น
ขณะนี้นักรบ Wagner อีกชุดได้ปิดล้อมครอบคลุม 3 ด้านเมือง Bakhmut แล้วระดมยิงปืนใหญ่อัดเข้าไปในเมืองที่ไม่สามารถส่งกำลังบำรุงชุดใหม่ได้ ใครหนีก่อนก็รอดก่อนคล้ายเมือง Soledar
หน่วยข่าวกรอง กลาโหมอังกฤษ ที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมในกองกำลังผสม NATO ในยูเครนมานานแต่ปีที่แล้ว ระบุว่าจนถึงเดือน พฤศจิกายนย 2022 ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ส่งทหารพลร่ม หน่วยชั้นยอดในกองทัพไปประจำการในฐานะกองกำลังสนับสนุนระยะยาวตามแนวหน้าในภูมิภาคเคอร์ซอน ตั้งแต่ต้นต้นปี มกราคม 2023
กองทัพรัสเซียได้ส่งหน่วยพลร่มเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนบดขยี้กองกำลังผสมใน กระทะไฟเมืองเครมินนา ภูมิภาคดอนบาส ที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักอยู่ห่างราว 20 กิโลเมตร ระหว่างเมือง ลิซิชาน และเมืองซีวีโรโดเนตสค์ เขตลูฮันสค์ ที่ฝ่ายรัสเซียยึดได้จนโด่งดังในปีที่ผ่านมา
คาดว่าหน่วยพลร่มรัสเซียนี้ จะถูกใช้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้เพื่อเป็นกองกำลังตอบโต้ชั้นสูงของกองทัพรัสเซีย บริเวณเขตลูฮันสค์ นี้ยังเต็มไปด้วยนักรบ Wagner และนักรบเชเชน
วิเคราะห์ว่าฝ่ายกองกำลังผสม กำลังระส่ำระสายสับสนในคำสั่งสายบังคับบัญชา ที่สั่งมาจากทั้ง NATO , หน่วยความมั่นคงภายใน และกองทัพยูเครน จนขาดเอกภาพ
สังเกตุได้จากกำลังพลปลอกแขนสีเหลือง , เขียว , น้ำเงิน ทำงานไม่ประสานกัน และการฝึกฝนชำนาญต่างกันมาก แม้หน่วยรบที่ฝึกจบหลักสูตรมาจากอังกฤษ ยังมาสิ้นชื่อสูญเสียเพียบที่เมือง Soledar อย่างง่ายดาย
คิวต่อไปคือที่เครื่องบดเนื้อเมืองบัคมุท ที่กองปุ๋ยเป็นภูเขาเลากาไปแล้ว ยิ่งถูกปิดล้อมตัดส่งกำลังบำรุงแบบนี้จะทำให้ NATO เสียเมืองชอกช้ำรอบที่ 2 ในเวลาแค่เดือนเดียว อันจะทำให้การจัดทัพภาพรวมระส่ำระสายหดหู่อย่างหนัก”
