ฝ่ายตะวันตกฮือฮากันใหญ่ว่า รัสเซียเปลี่ยนม้าศึกอีกแล้ว หารู้ไม่ว่าการที่ปธน.ปูตินประกาศทีมเสนาธิการใหญ่คุมภารกิจยูเครน เป็นความเคลื่อนไหวที่เชื่อมโยงกับขนาดสนามรบที่กำลังเพิ่มขึ้นและความซับซ้อนของการประสานงานกองกำลัง เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมได้มีการเปิดเผยรายชื่อทีมใหญ่นี้เป็นครั้งแรก แนวโน้มการขับเคี่ยวในสนามรบจะขยายพื้นที่มากขึ้น มีการประสานงานที่ซับซ้อนขึ้น เพราะศัตรูเปิดหน้าเล่นกันอย่างโจ่งแจ้งแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ภายใต้การนำของผู้บัญชาการสูงสุดคือ ปธน.ปูติน
วันที่ ๑๒ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิก รายงานว่านายพลวาเลรี เกราซิมอฟ ประธานเสนาธิการทหารรัสเซีย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังร่วมของมอสโกว์ในภารกิจยูเครน กระทรวงกลาโหมระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เซอร์เก ชอยกู (Sergei Shoigu) ได้เปิดเผยรายนามการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งใหม่ในปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี ๒๕๖๖
-พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ (Valery Gerasimov) เป็น ผู้บัญชาการกองกำลังผสมในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
-พลเอกเซอร์เกย์ ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) เป็น รองผู้บัญชาการกองกำลังผสมในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
-พลเอกโอเล็ก ซัลยูคอฟ (Oleg Salyukov) เป็น รองผู้บัญชาการกองกำลังผสมในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
-พลโทอเล็กซี่ คิม(Colonel General Aleksey Kim) เป็น รองผู้บัญชาการกองกำลังผสมในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
ชอยกูระบุว่า “ความจำเป็นในการยกระดับกองบัญชาการปฏิบัติการนั้นเชื่อมโยงกับ “ ขนาดที่เพิ่มขึ้นของภารกิจการสู้รบ ” และความจำเป็นในการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนสาขาต่างๆของกองทัพ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะปรับปรุงการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์และประสิทธิภาพการบังคับบัญชาสำหรับกองกำลังรัสเซียในยูเครนด้วย
ก่อนหน้านี้ประมาณสามเดือนกระทรวงกลาโหมได้แต่งตั้งให้พลเอกซูโรวิคินซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศรัสเซียเป็นผู้นำในภารกิจ และได้แสดงบทบาทกองกำลังแอร์ฟอร์ซของรัสเซียอย่างดีเยี่ยม ได้รับรางวัลและอิสริยาภรณ์มาแล้ว เพื่อแนวรบขยายตัว ภารกิจซับซ้อนจึงต้องตั้งการนำเป็นทีมอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่
เกราซิมอฟ เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซียและเป็นนักยุทธศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ผู้ซึ่งได้รับความเคารพจากวาเลอรี่ ซาลุชนี่ (Valery Zaluzhny) ผู้บัญชาการระดับสูงของเคียฟ ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน ซาลุชนี่บอกกับ Time ว่าเขาเรียนรู้จากเกราซิมอฟ
นายพลชาวยูเครนยอมรับในเวลานั้นว่า “ฉันอ่านทุกอย่างที่เขาเคยเขียน… เขาเป็นผู้ชายที่ฉลาดที่สุด และฉันก็คาดหวังในตัวเขาไว้มาก”
เกราซิมอฟไปเยี่ยมกองกำลังที่สู้รบในยูเครนหลายครั้ง เพื่อปรับปรุงการประสานงานระหว่างกองกำลัง แต่ไม่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติการโดยตรงจนถึงขณะนี้ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เคียฟยอมรับว่าพยายามสังหารเกราซิมอฟระหว่างการเยือนครั้งหนึ่งของเขาโดยไม่บอกล่วงหน้า เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๕ แม้ว่าสหรัฐฯ จะคัดค้านก็ตาม แต่ทำไม่สำเร็จ
ในตะวันตก เกราซิมอฟ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เขียน”หลักคำสอนของ Gerasimov” คำสรุปนี้ถูกบัญญัติขึ้นในปี ๒๐๑๓ โดยนักเขียนและ ‘ผู้เฝ้าดูชาวรัสเซีย’ชื่อ มาร์ก กาเลออัตติ และถูกสื่อตะวันตกโฆษณาเกินจริงว่าเป็นคู่มือระบบสงครามลูกผสมของรัสเซียที่ไม่เหมือนใคร โดยผสมผสานวิธีการทางทหารและไม่ใช่ทางทหารเข้าด้วยกัน มอสโกว์ไม่เคยยืนยันการมีอยู่ของหลักคำสอนดังกล่าว แต่เกราซิมอฟ เองเคยกล่าวไว้ในปี ๒๐๑๙ ว่าฝ่ายตะวันตกกำลังใช้วิธี “สงครามลูกผสม” กับรัสเซียก่อนการเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วยซ้ำ
นายพลอีกสองคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายทหารผู้ทำงานใกล้ชิด ในการรณรงค์ทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน หนึ่งในนั้นคือผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซีย นายพลโอเลก ซัลยูนอฟ (Oleg Salyukov) เขาเป็นนายทหารอาชีพที่มีประสบการณ์ เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันและหัวหน้าเขตทหารตะวันออกไกล ก่อนจะมาเป็นรองหัวหน้าเสนาธิการทั่วไปและผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดิน
อีกคนคือพันเอกอเล็กซี่ย์ คิม รองหัวหน้าเสนาธิการทหาร ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นหัวหน้าสถาบันผสมอาวุธของกองทัพรัสเซีย และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารที่มีประสบการณ์ เขายังเป็นศาสตราจารย์และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาด้านวิทยาศาสตร์การทหาร
นอกจากเปิดตัวทีมใหญ่แล้ว ในการประชุมคณะรัฐบาล ปธน.ปูตินยังสรุปสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐและพวกไว้อย่างชัดเจนว่า “ศัตรูคาดผิดว่ารัสเซียจะล่มสลาย แต่ระบบการเงินและการธนาคารของรัสเซียและเศรษฐกิจโดยรวมกลับมีเสถียรภาพและกำลังพัฒนาในเชิงรุก การคว่ำบาตรและแรงกดดันจากนานาชาติไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของรัสเซียได้ ตะวันตกกลับจมในกับดักเศรษฐกิจถดถอยเสียเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง”
เขากล่าวย้ำว่า “เรามั่นใจได้เลยว่าระบบการเงินและการธนาคารของประเทศและเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในสภาพที่มั่นคงและกำลังพัฒนาในเชิงรุก มีเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เชื่อได้ว่าอัตราดังกล่าวจะยังคงอยู่ในปี ๒๕๖๖”
ปธน.ปูตินขอบคุณรัฐบาลสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพตลอดปี ๒๕๖๕ ซึ่งช่วยให้รัสเซียต้านทานแรงกดดันจากนานาชาติ ท่ามกลางการคว่ำบาตรที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งกำหนดโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร
เขาเน้นย้ำข้อเท็จจริงที่ว่า ควรมีความพยายามมากขึ้นในการจัดหากองกำลังรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครนที่จะยืดเยื้อเพราะฝ่ายสนับสนุนจะเข้ามีบทบาทมากขึ้นในพื้นที่สู้รบ นอกจากนี้ รัสเซียควรขยายขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของเศรษฐกิจของตน และสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรมใหม่สร้างงานให้เพียงพอขณะเดียวกันก็เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการเงิน อุตสาหกรรมการเกษตร และสาขาเศรษฐกิจอื่นๆด้วย
ท่ามกลางการขับเคี่ยวของสงครามทำลายล้างประชาชาติรัสเซียจากสหรัฐและพวก ปธน.ปูติน, นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ ได้รับตำแหน่งนักการเมืองยอดนิยมประจำปี ๒๐๒๒ จากโพลสำรวจประจำปีของสำนักงานรัฐบาลฯ ชนะศึกหรือจะสำคัญเท่าชนะใจประชาชน!!