สถานการณ์ล่าสุดในเอเชีย สหรัฐฯได้เผยแพร่เกมจำลองสงครามที่ดำเนินการโดยศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ หรือ CSIS ชื่อเต็มว่า Center for Strategic and International Studies ซึ่งมีฐานอยู่ในวอชิงตัน จีนเย้ยเจ็บว่า ไม่คู่ควรแก่การยึดถือว่าถูกต้อง เนื่องจากได้รับการออกแบบเพื่อเผยแพร่ทฤษฎี “ภัยคุกคามจากจีน” หรือ Shinophobia และเพื่อเสนอแนะว่าสหรัฐฯ ควรติดอาวุธอย่างเต็มที่ที่เกาะแห่งนี้ ให้ไต้หวันป้องกันไว้ก่อน และยุยงให้กองทัพสหรัฐฯ เข้าแทรกแซงทันทีหากเกิดความขัดแย้งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจากจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเป็นแค่การโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐฯ ที่หวาดกลัวศักยภาพของจีนจะแซงหน้าสถานะอำนาจขั้วเดี่ยว
วันที่ ๑๑ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์ และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า คลังความคิดของสหรัฐฯ สร้างโมเดล สถานการณ์จำลองสงครามไต้หวัน บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาะไต้หวันจะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ในการเอาชนะกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) หากเกิดความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๙
จากมุมมองทางเทคนิค การจำลองมีความลำเอียงและตั้งค่าภายใต้สถานการณ์ของการคิดเพ้อฝัน เนื่องจากพวกเขาประเมินขีดความสามารถของ PLA ต่ำเกินไป และประเมินกองกำลังสหรัฐและญี่ปุ่นสูงเกินจริง
เว่ย ดองซู(Wei Dongxu) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารในปักกิ่งกล่าวว่า “การจำลองเกมสงครามของสหรัฐฯดังกล่าวไม่ใช่มืออาชีพ” เพราะคลังความคิดของสหรัฐฯ ไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดการวางกำลังพลและข้อกำหนดยุทโธปกรณ์ของ PLA ได้ ดังนั้นข้อมูลที่ใช้ในการจำลอง จึงเห็นได้ชัดว่ามีอคติและเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันเท่านั้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า “นี่เป็นการจงใจยุยงให้สหรัฐฯ และญี่ปุ่นแทรกแซงทางทหารในคำถามของไต้หวัน และสนับสนุนกองกำลัง “เอกราชของไต้หวัน” ในการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนอย่างโจ่งแจ้ง”
เว่ยกล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำนายเกมสงครามของ CSIS นั่นคือสหรัฐฯและญี่ปุ่นจะถูกทิ้งให้พิการอย่างแน่นอน หากพวกเขาแทรกแซงกรณีไต้หวัน”
และแน่นอนจีนได้ตอบโต้การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯอย่างเด็ดเดี่ยว ด้วยการเคลื่อนกองทัพเข้าใกล้ไต้หวันทันที ครั้งแรกในปี ๒๕๖๖ นี้ เจ้าหน้าที่จีนระบุว่า การซ้อมรบร่วมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกีดกันการแบ่งแยกดินแดน
พันเอกซือยี่ โฆษกกองบัญชาการตะวันออกแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA)Colonel Shi Yi, the spokesman for the Eastern Theater Command of the People’s Liberation Army (PLA) กล่าวว่า “การซ้อมรบทางทะเลและน่านฟ้ารอบไต้หวัน จะเน้นที่การโจมตีทางบกและการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก การฝึกรบครั้งนี้ออกแบบมาเพื่อทดสอบความสามารถในการสู้รบร่วมกันของทหาร และต่อต้านการกระทำที่ยั่วยุของกองกำลังภายนอกและผู้แบ่งแยกดินแดน ‘เอกราชไต้หวัน’ อย่างเฉียบขาด”
ไต้หวันเป็นเกาะของจีนที่ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการสุดท้ายของกองกำลังชาตินิยมในช่วงสงครามกลางเมืองในทศวรรษที่ ๑๙๔๐ ปกครองตนเองแต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีนโดยประเทศส่วนใหญ่ ภายใต้นโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ
การฝึกซ้อมครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางการเยือนไต้หวัน ของคณะผู้แทนจากพรรคประชาธิปไตยเสรีของเยอรมัน กลุ่มนี้นำโดย มารีแอกเนส(Marie-Agnes), สแตรค ซิมเมอร์มาน (Strack-Zimmermann) ประธานคณะกรรมการป้องกันบุนเดสแทก (Bundestag) แลโจฮันเนส โวเกล (Johannes Vogel) รองประธานพรรคฯ
นอกจากนี้คณะผู้แทนจากลิทัวเนียนำโดย ลอนินาส แคสซิวนาส (Laurynas Kasciunas) ประธานคณะกรรมการความมั่นคงและป้องกันแห่งชาติของรัฐสภาได้มาถึงเกาะนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าในวันอาทิตย์ ส.ส.อีกกลุ่มมาจากปารากวัยนำโดยคาร์ลอส มาเรีย โลเปซ ประธานรัฐสภา
เรียกว่าสหรัฐฯระดมบริวารมาแสดงจุดยืนหนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ แบบนี้จะบอกว่าเตรียมฟื้นความสัมพันธ์กับจีนคงเป็นไปไม่ได้
หวัง เหวินปินโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบโต้ การเยือนไต้หวันของคณะผู้แทนเยอรมัน เขาเน้นย้ำว่า“คำถามเกี่ยวกับไต้หวันเป็นหัวใจสำคัญของผลประโยชน์ของจีน” ขอเรียกร้องให้เบอร์ลินเคารพหลักการจีนเดียว โดยยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่แบ่งแยกไม่ได้”
ปักกิ่งถือว่าการปฏิบัติต่อเกาะแห่งนี้ในฐานะประเทศอธิปไตย รวมถึงการเยือนอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ เป็นการดูหมิ่นอำนาจอธิปไตยของจีนโดยตรง
หวังกล่าวว่า“ต้นตอ”ของความตึงเครียดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างไต้หวันและจีนคือ“กฎหมายป่าเถื่อน ลัทธิเจ้าโลก ลัทธิล่าอาณานิคม และลัทธิทหาร”ซึ่งสร้าง“ความทุกข์ยาก”แก่จีนมาหลายปี
เขาเตือนเข้ม ว่า “ประชาชนจีนมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับลัทธิจักรวรรดินิยม ลัทธิเจ้าโลก และลัทธิล่าอาณานิคม และรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของชาติ เราจะไม่ยอมให้กองกำลังใดเปลี่ยนเอเชียแปซิฟิกให้กลายเป็นเวทีของเกมภูมิรัฐศาสตร์อีกครั้งเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้”
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและไทเปจะตึงเครียดมาโดยตลอด แต่ความตึงเครียดก็ปะทุสูงขึ้นหลังจากที่แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนเกาะดังกล่าวในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
จีนเตือนหลายครั้งว่าจะใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อควบคุมเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่ ทั้งยืนยันว่าจะหาทางออกทางการทูตเป็นสำคัญ แต่มาตรการทางทหารก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงหากจำเป็น
