วันนี้ที่รอคอยของดอนบาสเป็นความจริงแล้ว เดนิส ปูชิลิน(Denis Pushilin) รักษาการหัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์กล่าวว่า เมืองโซเลดาร์ (Soledar) และ อาเตมอฟสค์ หรือบักมุต(Artemovsk/Bakmut) ของสาธารณรัฐกำลังได้รับการปลดปล่อย ในตอนท้ายของวันนี้ เราเห็นว่าศัตรูยังคงสูญเสียอย่างร้ายแรงที่นี่ทั้งกำลังคนและอาวุธ”
คำกล่าวอ้างของปูชิลิน ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งกล่าวในรายงานข่าวกรองเมื่อวันอังคารว่า“ในช่วงสี่วันที่ผ่านมา รัสเซียและ [บริษัททหารเอกชนของรัสเซีย] Wagner ได้รุกคืบทางยุทธวิธีเข้าไปในเมือง Donbass ขนาดเล็กของ Soledar และมีแนวโน้มว่า เป็นผู้ควบคุมการตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่”
โซเลดาร์ (Soledar) ตั้งชื่อตามเหมืองเกลือ ซึ่งมีประชากรราว ๑๐,๐๐๐คนก่อนเกิดความขัดแย้ง ตั้งอยู่ห่างจาก Bakhmut/Artyomovsk ไปทางเหนือ ๑๐ กิโลเมตร การควบคุมพื้นที่นี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับปฏิบัติการของรัสเซียในการปิดล้อมฐานที่มั่นสำคัญของยูเครนในแนวหน้าของดอนบาสที่เหลือ
มีรายงานว่าในการสู้รบอย่างดุเดือดกองทหารยูเครนติดอยู่ในเมือง Donbass ที่สำคัญ และ พันเอกแอนเดรีย บาเยฟสกี้(Andrei Bayevsky)ทหารอาสาสมัคร และสมาชิกสภานิติบัญญัติของโดเนตสค์ กล่าวว่า จำนวนปลอกกระสุนที่ยูเครนระดมใส่โดเนตสค์ (DPR) มีจำนวนลดลง จากวันละ ๒๐๐ นัดเหลือวันละ ๕๗ นัด บ่งชี้ถึงความสำเร็จของรัสเซียในการรุกที่โดเนตสค์ ปัจจุบันปีกด้านเหนือของเส้นติดต่อในทิศทางโดเนตสค์เป็นจุดที่มีการต่อสู้ร้อนแรงที่สุด และวันนี้ฝ่ายรัสเซียมีชัยชนะแน่ชัดแล้ว
วันที่ ๑๑ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า หน่วยของ Wagner Group ได้เข้าควบคุม“อาณาเขตทั้งหมด”ของ Soledar ผู้นำของบริษัท ทหารเอกชน Yevgeny Prigozhin ยืนยันในเย็นวันอังคารที่ผ่านทา การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในใจกลางเมือง ซึ่งมีทหารยูเครนไม่ทราบจำนวนถูกปิดล้อมอยู่
เยฟเจนี ปริโกซิน (Yevgeni Prigozhin)ผู้บริหารสูงสุด หน่วยรบพิเศษวากเนอร์ของรัสเซีย ยืนยันในเทเลแกรมส่วนตัวของเขาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาว่า “หน่วยของกองร้อยทหารเอกชน Wagner ได้เข้ายึดดินแดนทั้งหมดของ Soledar เวลานี้อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ใจกลางเมืองถูกปิดล้อม และสงครามในเมืองกำลังดำเนินอยู่ จำนวนเชลยจะประกาศในวันพรุ่งนี้”
วิดีโอที่แสดงเครื่องบินรบ วาร์กเนอร์-ทู(Wagner)จำนวน ๒ ลำยืนสงบนิ่งอยู่นอกอาคารบริหารเมืองได้รับการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงต้นของวัน การบันทึกดังกล่าวมักจะมาพร้อมกับพิกัดเชิงพื้นที่ มักใช้ในช่วงความขัดแย้งเพื่อประกาศการควบคุมดินแดนอย่างสมบูรณ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เซเลนสกี ยอมรับว่าสถานการณ์ในโซเลดาร์นั้นยากลำบากมาก”และเรียกมันว่า“หนึ่งในจุดที่นองเลือดที่สุดในแนวหน้า”สาบานว่ากองทหารยูเครนจะยังคงตรึงกำลังไว้“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” แต่โอเล็คซี่ อเรสโตวิช(Oleksiy Arestovich) ที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักงานของเซเลนสกี้กล่าวว่ากองกำลังของยูเครนกำลังหลบหนีจากแนวหน้าในเมืองอย่างอลหม่าน
แม้วันนี้เซเลนสกี้ยังปฏิเสธรัวๆว่าไม่ได้ถูกยึด แต่ความจริงไม่อาจปฏิเสธภาพการเคลื่อนกำลังยึดใจกลางเมืองทั้งที่โซเลดาร์และบักมุตของวาร์กเนอร์ได้อีกต่อไป งานนี้เคียฟ-นาโต้แพ้ยับเยิน
“เมื่อวันที่ ๙ ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กลาโหมเขียนในช่องเทเลแกรมว่า กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อย Bakhmut บนดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์แล้ว” และก็ตามมาด้วยการยึดเมืองโซเลดาร์โดยวาร์กเนอร์ในวันที่ ๑๐ ม.ค.นี้ทำให้กองกำลังทหารเคียฟตื่นตระหนกอย่างมาก ไม่ว่าเซเลนสกี้จะแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น ที่ผ่านมาเคียฟส่งกำลังรบไปบู้กับกองทหารรัสเซีย ประมาณ ๗ กองพัน ก่อนสิ้นปีที่แล้ว หน่วยรบของสหรัฐฯได้วิเคราะห์ว่าเคียฟเสียทหารไปถึง ๗๐%ในการสู้รบที่บักมุต
แล้วเมืองบักมุตสำคัญอย่างไร? ทุกสายตาจับจ้องไปที่นี่ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นโรงบดเนื้อในเขต Donbass ของกองทัพยูเครนที่กำลังสูญเสียอย่างหนักที่นั่น
มาร์ค สเลโบดา(Mark Sleboda) ทหารผ่านศึกและนักวิเคราะห์กิจการระหว่างประเทศและความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้อธิบายว่าทำไมเมืองนี้จึงมีความสำคัญต่อความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“ประการแรกจากระดับความสำคัญ ด้วยความที่ตั้งอยู่ในใจกลางของภูมิภาคโดเนตสค์ บัคมุตมักถูกเรียกว่าเป็นกุญแจสู่โดเนตสค์ แน่นอนว่าพื้นที่ทั้งหมดนั้นจะต้องได้รับการปลดปล่อย เป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ที่สำคัญเพราะมีทางหลวงสองสายที่ตัดกัน และทางรถไฟที่วิ่งขึ้นเหนือไปจนถึงมอสโกว์ จากนั้นจึงผ่านไปทางใต้แล้วโค้งลงไปยังเมืองโดเนตสค์”
ประการที่สอง บักมุตเป็นหลักสำคัญของแนวป้องกันที่สองของระบอบการปกครองเคียฟ ที่นี่แตกหมายถึงแนวรบระหว่างสลาฟยันสค์ (Slavyansk) และ ครามาตอร์สค์(Kramatorsk) ซึ่งอยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันตกจะพังตามไปด้วย”
ประการที่สาม การยึดบักมุต คุกคามความก้าวหน้าในทิศทางอื่นของยูเครนเนื่องจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ในที่สุด จะช่วยให้สามารถควบคุมคลองโดเนตสค์-เซเวอร์สกีซึ่งส่งน้ำให้กับเมืองโดเนตสค์ได้มากขึ้น ซเลโบดาเปิดเผยว่า เคียฟตัดการจ่ายน้ำให้กับโดเนตสค์เมื่อ๕ปีที่แล้ว พวกเขาทำในไครเมียเช่นกัน ต่อไปนี้ก็จะทำไม่ได้”
ศึกครั้งนี้เป็นชัยชนะสำคัญที่ส่งสัญญาณชัดถึงความเหนือกว่าทางการรบของรัสเซียต่อยูเครนและผู้สนับสนุน เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่รัสเซียที่รู้ว่า สหรัฐ-นาโต้เป็นผู้สนับสนุนหลักของยูเครนอย่างเปิดเผย โลกก็ประจักษ์ชัด เมื่อเคียฟแพ้ยับก็หมายถึงสหรัฐและนาโต้พ่ายแพ้ต่อรัสเซียนั่นเอง!!