ไส้เน่า!! นาโต้ปั่นป่วนประท้วงใหญ่ใกล้จลาจล เยอรมัน-อังกฤษ-ฝรั่งเศส-เนเธอร์แลนด์ ต้านรัฐซัดเลิกหนุนยูเครน

0

การประท้วงครั้งใหญ่ในฝรั่งเศสเพื่อต่อต้านรัฐบาลมาครง (Macron) เรื่องนโยบายเศรษฐกิจ วิกฤตค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการหลับหูหลับตาหนุนสงครามในยูเครนไม่หยุด แต่เจอการปราบปรามการชุมนุมอย่างหนักที่ปารีส สะท้อนความผุกร่อนของประเทศแกนนำสำคัญของนาโต้และอียู ที่ต่างก็เจอกับการประท้วงใหญ่ขับไล่รัฐบาลต่อต้านนาโต้อย่างดุเดือด สถานการณ์ไม่ต่างกันทั้งปารีส ฝรั่งเศสในแฟรงก์เฟิร์ต เบอร์ลินเยอรมันนี และอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ จนวันนี้ยังไม่หยุดประท้วง

ที่ฝรั่งเศส ฟิลิปป์ มาร์ติเนซ หัวหน้าสมาพันธ์แรงงานทั่วไป (CGT) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานชั้นนำของฝรั่งเศส เตือนว่า ฝรั่งเศสจะเห็นการนัดหยุดงานจำนวนมากในต้นปี ๒๕๖๖ แน่ หากรัฐบาลไม่ยกเลิกนโยบายการปฏิรูปเงินบำนาญ แต่เอาเงินภาษีไปอุดหนุนสงครามในยูเครน นอกจากกลุ่มเคลื่อนไหวเสื้อกั๊กเหลือง ยังมีแพทย์-พยาบาล และอาชีพอื่นก่อหวอดชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

ด้านเยอรมนี ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปและเป็นผู้นำที่สำคัญของอียูและนาโต้ที่รัฐบาลต่างๆพากันถูกปั่นให้กลัวรัสเซีย แต่ยอมก้มหัวให้สหรัฐเอาเปรียบ ต่างกับภาคประชาชน ที่กำลังโกรธแค้นนาโต้และอียูที่บีบคั้นให้ประชาชนต้องเป็นฝ่ายรับเคราะห์จากการต่อต้านรัสเซีย  การประท้่วงนัดหยุดงานต่อต้านรัฐบสลและขับไล่นาโต้ในลักษณะเดียวกันยังเกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป รวมทั้งเนเธอร์แลนด์และสหราชอาณาจักร ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง ๑๑% 

สำหรับสหราชอาณาจักรอาการหนัก รัฐบาลซูแน็กกำลังดำเนินการปราบปรามอย่างเผด็จการต่อสิทธิในการนัดหยุดงานของคนงาน บรรดารัฐมนตรีตั้งใจที่จะใช้กฎหมายใหม่เพื่อยัดเยียดการตัดค่าจ้าง การตกงาน ท่ามกลางมาตรฐานการครองชีพที่ตกต่ำที่สุด เพื่อหาทุนสนับสนุนผลกำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นเพื่อนหนุนยูเครนตามคำสั่งวอชิงตัน

ขณะเดียวกันนักเศรษฐกิจหลายค่ายต่างฟันธงว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวและเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ด้วยนโยบายเพิ่มดอกเบี้ย เพื่อกดภาวะเงินเฟ้อของรัฐบาลต่างๆในยุโรปที่เดินตามก้นสหรัฐ แม้มีเสียงเตือนหนักหน่วงทั้งจากภาคประชาชนและนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ รัฐบาลแห่งนาโต้ต่างไม่สนใจยังคงเดินหน้าประกาศสนับสนุนยูเครนทั้งเงินและอาวุธต่อไปอย่างมืดบอด

วันที่ ๑๐ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และเพรซทีวี รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของยูโรโซนฟันธงว่า ภูมิภาคนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง” 

ประเด็นนี้ ไฟแนนเชียลไทมส์(Financial Times) รายงานโดยอ้างนักเศรษฐศาสตร์หลายที่ กล่าวถึงวิกฤตพลังงานที่ยืดเยื้อจะทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนถดถอยหนักขึ้นในปีนี้ 

ตามรายงาน เงินเฟ้อในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยมากกว่า๖% และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก ๖.๕% ปัจจุบันเป็น ๗.๑% ภายในสิ้นปี ๒๕๖๖ อัตราเงินเฟ้อที่สูงและการขาดแคลนพลังงานจะนำไปสู่การลดลงในการผลิต และทำให้สถานการณ์ในตลาดแรงงานย่ำแย่ลง ต่อจากนั้นภายในสิ้นปี เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว ๐.๐๑%

เชียรา แซนกาเรียลี่(Chiara Zangarelli) นักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกนสแตนเลย์ (Morgan Stanley) กล่าวว่า “ตลาดก๊าซในยุโรปยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ การหยุดชะงักของอุปทานเพิ่มเติม หรือฤดูหนาวที่หนาวเย็นเป็นพิเศษ อาจนำไปสู่ความตึงเครียดครั้งใหม่และราคาสูงขึ้นอีกครั้ง ทำให้ต้องปรับตัวอีกรอบและทำลายอุปสงค์ในตลาด” 

วิกฤตการณ์พลังงานในสหภาพยุโรปเลวร้ายลงในช่วงฤดูร้อนเมื่อการคว่ำบาตรและความพ่ายแพ้ทางเทคนิคนำไปสู่การหยุดชะงักครั้งแรกของการจัดหาก๊าซจากรัสเซีย แม้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่กล่าวว่ายุโรปได้ผ่านพ้นวิกฤติพลังงานที่เลวร้ายที่สุดในปีนี้ไปแล้ว แต่หลายคนกังวลว่าโอกาสของการปันส่วนพลังงานอาจกลับมาอีกครั้งในฤดูร้อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเดือนที่จะมาถึงมีอากาศหนาวเย็นและทำให้ปริมาณสำรองก๊าซเพิ่มขึ้น

ซิลแวน โบรเยอร์(Sylvain Broyer) จาก เอสแอนด์พีโกลบัลเรทติ้ง(S&P Global Ratings) กล่าวว่า “ความเสี่ยงของการปันส่วนก๊าซน่าจะหลีกเลี่ยงได้ในฤดูหนาวนี้ แต่คำถามเกี่ยวกับการจัดหาพลังงานสำหรับฤดูหนาวหน้ายังไม่มีคำตอบ”  

คาร์สเตน เบอร์เซสกี้(Carsten Brzeski) ผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งจากไอเอ็นจีแบงก์ (ING Bank) กล่าวว่า “ ฤดูหนาวหน้าจะท้าทายยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากจะเป็นการยากขึ้นมากสำหรับประเทศในสหภาพยุโรป ในการเติมก๊าซในโรงเก็บโดยไม่มีเสบียงของรัสเซีย แม้ว่าจะมีก๊าซจำนวนมากมาจากนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลางมาทดแทนก็ตาม”

นักเศรษฐศาสตร์ยังกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางยุโรป มาร์เซลโล เมสโซรี(Marcello Messori) ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยหลุยส์ (LUISS) ในกรุงโรม อิตาลี เตือนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปไม่หยุดอาจ “ นำไปสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในยูโรโซน ”

โดยภาพรวานั้นรัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันยังคงใช้มาตรการตอบโต้ ใช้ไม้แข็งกับภาคประชาชนของตัวเอง ทั้งๆที่รู้และไม่พอใจที่ต้องสละความมั่งคั่งของยุโรปไปให้สหรัฐ ให้ประชาชนแบกรับความเดือดร้อนในปัจจุบันและไร้อนาคตในการแก้ไข  เป็นเช่นนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า องค์ประกอบของสมาชิกนาโต้นั้นแสนจะเน่าในและไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับขุมพลังอำนาจหลายขั้วอย่างรัสเซีย จีนและพันธมิตรอย่างแน่นอน แบบนี้ศึกยูเครนรัสเซียชนะขาด ปิดประตูแพ้ได้เลย!!